วันธรรมดามีญ่ามักภาวนาขอให้ถึงวันเสาร์เร็วๆ แต่ตอนนี้เธอกลับภาวนาขอให้อย่าเพิ่งถึงวันเสาร์ ร่างบางในชุดนักศึกษามีป้ายคล้องคอสีน้ำเงินเดินเข้ามาภายในโรงพยาบาลด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย วันหยุดควรได้นอนตื่นสาย ไม่ใช่รีบลุกจากที่นอนมาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เก้าโมงเช้า
เธอเดินเข้ามาในล็อบบี้ของโรงพยาบาลพร้อมถอนหายใจหนักหน่วง ก้มมองป้ายคล้องคอที่มีชื่อและคำว่า ‘นักศึกษาดูงาน’ พิมพ์ตัวโตอย่างไม่สบอารมณ์
“เริ่มวันแรกก็รู้สึกอยากกลับแล้ว…” เธอขยับริมฝีปากบ่นงึมงำ
บริเวณล็อบบี้เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินขวักไขว่ มีทั้งคนไข้ ญาติผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดตา มีญ่าเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วพบว่าเข็มยาวเพิ่งจะชี้เลขเก้าเป๊ะ เธอไม่ได้มาสาย แต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์อยากอยู่ตรงนี้นานนัก
“สวัสดีค่ะคุณมีญ่า” เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากด้านหลัง เธอหันไปเจอกับพยาบาลในชุดขาวยิ้มต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ”
“คุณหมอรออยู่ที่แผนกประชุมค่ะ เชิญทางนี้เลยนะคะ”
เธอเดินตามพยาบาลยิ้มสวยคนนั้นไปด้วยความรู้สึกที่เริ่มตื่นเต้นกับการเจอเขาอีกครั้ง…
ห้องประชุม
ประตูไม้สีเข้มถูกเปิดออก เผยให้เห็นโต๊ะประชุมทรงยาวกับจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ ด้านในมีคนอยู่เพียงสองคน และหนึ่งในนั้นคือไรอัน
ชายหนุ่มอยู่ในชุดที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตานั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ เขาเงยหน้าขึ้นมองทันทีที่มีญ่าเดินเข้ามา ดวงตาคมของเขาทำให้เธอชะงักไปครู่หนึ่ง
“เชิญนั่งครับ” ไรอันบอกมีญ่าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ทรงอำนาจ
มีญ่ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักเรียนที่ถูกเรียกมาพบอาจารย์ เธอก้าวเท้าเข้าไปช้าๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขา มือของเธอวางบนตัก บีบเข้าหากันแน่นเพื่อระบายความประหม่า
“ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยอยากมาเท่าไรเลยนะ” เขาพูดเสียงเรียบ พลางเปิดเอกสารตรงหน้าตามไปด้วย
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แค่…” เธอกำลังจะพูดแก้ตัว แต่เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนจะท้าทายให้เธอพูดต่อ
“แค่?”
“แค่รู้สึกกดดันนิดหน่อยค่ะ” เธอพูดแล้วหลบสายตาเขา
ไรอันยิ้มมุมปากเล็กน้อย รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะโดยไม่รู้ตัว
“ไม่ต้องกดดันหรอก แค่ตั้งใจเรียนรู้งาน ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ง่ายๆ” เขาพูดเรียบๆ
มีญ่าพยักหน้ารับ แม้ว่าในใจจะยังรู้สึกอึดอัด
“วันนี้ผมจะเริ่มจากการแนะนำภาพรวมของโรงพยาบาล และหลังจากนี้คุณจะได้ลงไปดูงานจริงในแต่ละแผนก”
“ค่ะ” เธอตอบเบาๆ
เขาเลื่อนแฟ้มเอกสารมาที่เธอ เป็นเอกสารเกี่ยวกับโครงการดูงานและแผนการฝึกงานในเดือนนี้
“เซ็นเอกสารนี้เพื่อยืนยันการเข้าร่วมโครงการ” เขาพูด พร้อมกับยื่นปากกาให้เธอ
มีญ่ารับปากกามา เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะลงนามในเอกสารนั้น โดยมีสายตาคมเข้มของไรอันจับจ้อง
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง สายตาของเขายังคงนิ่งและลึกล้ำจนเธอไม่อาจเดาความคิด
“สะ…เสร็จแล้วค่ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงติดขัด
“ตามมา” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินนำเธอออกไปจากห้องประชุม โดยไม่รอคำตอบจากอีกฝ่าย
มีญ่าลุกขึ้นตามอย่างจำยอม หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นทุกก้าวที่เดินตามเขาออกจากห้องประชุมนี้ไป ดวงตาคู่สวยจ้องมองแผ่นหลังแกร่งแล้วอดจินตนาการถึงคืนนั้นไม่ได้ เธอหลุบตาต่ำมองพื้นพลางเม้มริมฝีปากเข้าหากัน แต่ทว่าคนตรงหน้ากลับหยุดเดินจนทำให้เธอชนหลังแกร่งเข้าเต็มๆ
ปึก…
“ขะ…ขอโทษค่ะ” เธอรีบขอโทษทันที มัวแต่มองพื้นจนลืมดูว่าเขาหยุดเดิน
“ดูทางหน่อยสิ”
“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ แอบรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายกล้ามาดุตัวเอง แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้เพราะตอนนี้เธอต้องทำงานร่วมกับเขา
ไรอันเดินต่อจนไปถึงห้องทำงานของตัวเอง โดยมีมีญ่าเดินตามเข้ามาด้วย
“ฉันต้องทำอะไรบ้าง”
คุณหมอหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อได้ยินคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ เขาหมุนตัวกลับไปหามีญ่าพร้อมกับกอดอกจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตายากคาดเดา
“มองอะไรคะ”
“เป็นเด็กเป็นเล็ก แต่แทนตัวเองว่าฉันกับผู้ใหญ่?”
มีญ่าชะงัก ดววตาคู่สวนจ้องเขาด้วยสีหน้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นไม่พอใจกับการถูกตำหนิแบบนั้น
“แล้วจะให้แทนตัวเองว่าอะไรล่ะคะ”
ไรอันยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหามีญ่าที่ยืนแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจที่โดนตำหนิ และสีหน้านั้นค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นตกใจ
“นะ…นายจะทำอะไร” เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางถอยหลังออกห่างตามสัญชาตญาณจนกระทั่งสะโพกมนแนบชิดลงขอบโต๊ะทำงานของเขา
จังหวะนรกจริงๆ
ไรอันวางมือทั้งสองลงขอบโต๊ะทำงานของตัวเอง สายตาคมเข้มจ้องมองเด็กแก่แดดอย่างมีญ่านิ่งๆ ในขณะที่ใบหน้าโน้มเข้าไปใกล้จนลมหายใจเป่ารดลงแก้มใส ส่วนมีญ่าเบือนหน้าหนีไปทางอื่นตั้งแต่เห็นคนตัวโตโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้ว
“จะ…จะทำอะไร”
“ทำให้เด็กอย่างเธอเลิกดื้อยังไงล่ะ”
“ดื้ออะไรของนาย…”
“ยังไม่หยุดสินะ” เขาแกล้งขยับมือที่จับขอบโต๊ะทำงานเข้ามาอีกนิดจนสัมผัสขาของมีญ่า
คนตัวเล็กแอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสเมื่อครู่ ใบหน้าสวยหวานเบือนไปทางอื่นในขณะที่ไรอันโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม จนกระทั่งริมฝีปากจรดลงข้างใบหูของมีญ่า และเริ่มพูดบางอย่างที่ทำให้คนฟังใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง
“งั้นก็ดื้อให้เต็มที่”
“…”
“ดื้อๆ แบบนี้…หมอชอบ”