ตอนที่ 10 เมียท่านประธาน

2028 คำ
ตอนที่ 10 เมียท่านประธาน ผัวะ! “มึงหายไปไหนมาเนี่ยไอ้วีตั้งครึ่งวัน ค่อนวัน” หัวหน้างานสาขากระบี่เดินมาตบหัว เมื่อผมโผล่ไปยังที่ทำงานช่วงเกือบเที่ยง “กวีไปกับฉัน” ตาขวางทรงพลังอำนาจเหมือนจะเผาหัวหน้างานผมทั้งเป็น “อุ๊ย! ขอโทษครับ....” “ฉันไม่ชอบให้ใครมาใช้ความรุนแรงกับ...คนของฉัน” “เอ่อ ผมขอโทษครับ ขอโทษนะกวี” หัวหน้างานผมยืนทำท่าเหมือนปลาขาดอากาศ ปากพะงาบอ้างับ อ้างับเหมือนพยายามจะหายใจ ผมแค่ยิ้มแห้งตอบกลับไปแล้วรีบกลบเกลื่อนช่วยชีวิตหัวหน้าด้วยการคล้องแขนพาเดินหลบรัศมีอำมหิตของท่านประธานไปทางอื่น “แล้วมึงก็ไม่บอกกูว่าไปกับท่านประธานมา” “ก็ทำไมพี่ไม่ถามผมก่อนเล่า” “มึงนะมึงไอ้วี เกือบทำกูหัวขาด ปกติก็ดุฉิบหายอยู่แล้ว วันนี้เหมือนจะกินหัวกูเลย...เสียวสันหลังเลยกู” คุณปานัทส่งข้อความมาชวนผมไปกินข้าวมื้อกลางวันด้วย ภายในห้องอาหารติดแอร์ที่เตรียมเอาไว้สำหรับต้อนรับลูกค้า แต่เพราะกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจมากเกินไปผมเลยปฏิเสธแล้วเดินถือจานข้าวไปตักแกงมานั่งกินรวมกับพี่ๆ แผนกไอที “คุณคนสวยมาอีกแล้วว่ะ” หนึ่งในพนักงานบุ้ยปากชี้ไปทางรถเก๋งคันใหญ่ สาวสวยหุ่นนางแบบคนหนึ่งเดินเฉิดฉายลงมาออร่าสว่างวาบเหมือนนางฟ้าบินลงมาจากสวรรค์ “ใครวะพี่ สวยดี” ผมชะเง้อคอมองตามเห็นท่านประธานเดินออกมาทักทายต้อนรับ “แฟนคุณปานัท” คำตอบจากใครคนหนึ่งตบหัวผมจนมึนไปหมด “ฮะ!” “ชื่อคุณแนน ลูกนายหัวที่กระบี่เนี่ยแหละ เห็นพวกในออฟฟิศลือกันว่าแอบกิ๊กกับคุณปานัท” “แอบกิ๊ก!” “ก็แค่ข่าวลือน่ะ แต่อาจจะจริงก็ได้มั้ง เห็นช่วงนี้คุณแนนแวะมาที่นี่บ่อยๆ เดี๋ยวพอบ่ายก็ชวนกันออกไปข้างนอกไม่เชื่อมึงคอยดู” หัวหน้าผมพยักหน้าหงึกๆ ไปพร้อมกับตักข้าวยัดใส่ปาก ตลอดช่วงบ่ายผมทำงานโดยไม่มีสติและไม่มีสมาธิแม้แต่นิดเดียวเรื่องเหี้ยๆ ที่คิดไปเองผุดขึ้นมาเต็มหัวไปหมด คำพูดของเพื่อนร่วมงานมาเข้าเค้าว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างที่คนเขาลือตอนที่คุณปานัทส่งข้อความมาหาบอกว่าจะออกไปข้างนอก แต่จะวนรถกลับมารับผมช่วงค่ำๆ บอกให้ผมนั่งรอ นอนรอในห้องที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์ไปก่อน “เบา...เบา...เบา....ไอ้เหี้ยวี แดกเบาๆ นี่เหล้านะมึง ไม่ใช่น้ำผลไม้แยกกากเพื่อสุขภาพ” “เป็นอะไรของมึงเนี่ย” หลังเลิกงานผมชะเง้อคอรอผัวมารับจนคอเกือบเคล็ด แต่พ่อคุณหายเงียบเข้ากลีบเมฆไปติดต่อไม่ได้ ผมเลยประชดด้วยการชวนพี่ๆ ไปซื้อเหล้ามากินโดยใช้บัตรเครดิตผัวนั่นแหละรูดแม่งเหมามาเกือบหมดร้าน “จน เครียด กินเหล้า!” ผมเทเหล้าเข้าปากนึกงอนผัวขึ้นมาตงิดๆ ในสมองคิดแต่เรื่องจังรี้จังไรวนไปวนมา "หื้อ อะไรของมึง" “ผัวไม่รัก” ผมนั่งตัวโงน หัวเอน หวุดหวิดหัวเกือบทิ่มลงไปในจานลาบเป็ดหลายครั้ง โชคดีที่รุ่นพี่นั่งข้างๆ คอยจิกหัวดึงขึ้นมา “เอ้า ตกลงทะเลาะกับผัว...” “ฮึก ฮึก...ผัวไม่รัก....” “เอ้อ...ไอ้ห่า สำนักงานใหญ่นี่ก็นะ ส่งพนักงานลงมาให้กูแต่ละคน แม่งไม่เคยส่งดีๆ มาให้กูเลย คนนั้นขาด คนนี้เกิน เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย” ผมแว่วๆ ได้ยินเหมือนหัวหน้างานบ่นพึมพำๆ พึมพำๆ อะไรไม่รู้ “วี...วี” เสียงดุคุ้นๆ เรียกชื่อผมในความมืด “เมาหนักเลยครับ” “โอยยยยย ปวดหัว” ผมตลบผ้าขึ้นมาคลุมหัว ซุกตัวเข้าไปหาร่างหนาตัวอุ่นของคนที่นอนอยู่ข้างๆ “ตื่นแล้วเหรอ” “หือ...คุณ...เอ๊ะ...” ผมยกมือขึ้นมาขยุ้มเส้นผมบนหัว พยายามเค้นสมองว่าผมกลับมานอนที่ห้องนี้ได้ยังไง “ทำไมถึงดื่มหนักขนาดนั้น ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ถ้าฉันไม่อยู่ ไม่ให้ดื่มจนเมา” “ก็...” “ก็อะไร” “ก็คุณไปไหนมา ผมโทรหาตั้งหลายสายไม่มีสัญญาณเลย แล้วพวกนั้นก็บอกว่าคุณกับ....คนที่ชื่อแนนเป็นแฟนกัน” ผมยกมือขึ้นมาปิดลูกตาตัวเองรู้สึกน้อยใจขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ “ถ้าฉันกับคุณแนนเป็นแฟนกัน...แล้วเธอล่ะ” “ฮื้อออออ...นี่คุณเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ” “ฉันยังไม่ได้พูดเลย ฉันแค่ถามเธอว่า ถ้าฉันกับคุณแนนเป็นแฟนกันจริงๆ แล้วคนที่นอนอยู่ข้างฉัน ทุกวัน ทุกคืน อย่างเธอจะอยู่ในฐานะอะไร” “ไม่รู้...ไม่มีสถานะเลย ฮือออ” “กวี...ไม่เอาไม่ร้องไห้ เอามือลงแล้วหันหน้ามาคุยกับฉันดีๆ” "ฮื้ออออ....ไม่มีสถานะอะไรกับใครเขาเลยยยย" “จะไม่มีสถานะได้ยังไง ก็เราตกลงเป็นแฟนกันอยู่ไม่ใช่เหรอ” “แต่ผมเป็นแค่แฟนกะโหลกกะลา ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง...ไม่เหมือน...คนอื่นเขา” “แฟนกะโหลกกะลา...แล้วเรายังเป็นแฟนกันอยู่มั้ย” วันนี้ผัวหื่นของผมทำหน้าขรึมจนน่ากลัว “.........” “ว่ายังไง...เรายังเป็นแฟนกันอยู่มั้ย” “อือ” ผมพยักหน้ารับช้าๆ “กวี....ฉันซีเรียสมากนะ เรื่องความซื่อสัตย์ แล้วฉันก็บอกเธอไปแล้ว ย้ำกับเธอหลายครั้งว่าฉันรักเธอ...รักเธอแค่คนเดียวนะรู้มั้ย” “ผมก็รักคุณเหมือนกัน...” ผมกระตุกชายเสื้อนอนของผัวเป็นการง้อ จากนั้นหันหน้ากดเข้าไปซุกกอด ออดอ้อนเป็นการขอโทษ ที่เผลอทำตัวปัญญาอ่อนตอนเมา “รักแล้วทำไมไม่เชื่อใจฉันล่ะ...หือ” “ก็ผมหึง...หวงด้วย ไม่อยากให้ใครใกล้คุณ แล้วก็ไม่อยากให้คุณไปใกล้ใคร ผมกลัวคุณเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น...แล้วทิ้งผมนี่” “ฮึ ถ้าหากฉันเป็นคนใจโลเลเปลี่ยนได้ง่าย ฉันคงไม่เก็บความรักของฉัน เอาไว้ให้เธอได้นานขนาดนี้...” “ขอโทษได้มั้ยล่ะ ที่งี่เง่าปัญญาอ่อน” “ฉันรับคำขอโทษ...เป็นบทรักหน้าใหม่ ที่ต้องเป็นท่าที่เราไม่เคยใช้ด้วยกันมาก่อนเท่านั้นนะ” หน้าขรึมยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาได้ในที่สุด “อืมมมม...ถ้าอย่างนั้น ลองเป็นท่านี้แล้วกัน” ผมพูดขอโทษแฟนด้วยภาษากาย กลั่นมันออกมาเป็นภาษาต่างดาว ด้วยการร้องเมี้ยวๆ ง้าวๆ จนเสียงแหบเสียงแห้ง กว่าคุณปานัทจะอารมณ์ดี ผมนี่นั่งโยก นั่งขย่มจนปวดเอวไปหมด เป็นอันว่าเช้านี้ผมคงไม่ได้ไปตอกบัตรเข้างานเพราะมัวแต่ตอกผัวอยู่ที่ห้อง “เรามาทำอะไรกันที่นี่ครับ” “มาทำให้คนขี้หึง เลิกคิดมากสักที...มาสิ” มือนุ่มจูงผมให้เดินตาม ผมเดินตามหลังท่านประธานเข้าไปในที่ว่าการอำเภอ จากนั้นเดินเข้าไปกดบัตรคิวที่ทำเอาคิ้วผมกระตุก “คุณปานัท จะทำอะไรครับ” “ทำให้เรา 2 คนมีสถานะที่ชัดเจนสักที” “แต่ว่า...ถ้าทำแบบนี้มันจะไม่เป็นอะไรเหรอครับ” ผมนั่งมองบัตรคิวจดทะเบียนสมรสมือไม้สั่นไปหมด ลำพังผมคนเดียวนั้นมันไม่ใช่ปัญหาแต่คนอย่างคุณปานัท ไม่ใช่ลูกตาสีตาสาที่จะเอาอนาคตอันรุ่งโรจน์มาแขวนติดกับลูกแม่บ้านรับจ้างซักรีดในโรงแรมอย่างผม ทะเบียนสมรสคือเอกสารอันศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพทางกฎหมาย ไม่ใช่เพียงแค่กระดาษที่จะเที่ยวเซ็นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า หรือว่าเซ็นกับใครก็ได้ แล้วเหตุผลอะไร ที่คุณปานัทจะเลือกให้ผมคือคนคนนั้น “คุณปานัท ตัดสินใจดีแล้วเหรอครับ” “ฉันตัดสินใจดีแล้ว” “ทำไมล่ะครับ....ผมหมายถึง ทำไมคุณถึงเลือกผม” “ฉันไม่ได้เลือกเธอ...ฉันแค่รอเธอ...รอเธอแค่คนเดียว” “รอ...ผมเหรอ?” คำถามในหัวของผมยังไม่ได้รับการเฉลย เพราะมันถูกเสียงของเจ้าหน้าที่นายทะเบียนขัดขึ้นเสียก่อน ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสนั้นไม่ได้ซับซ้อน และไม่มีอะไรยุ่งยาก “ทีนี้...เธอจะได้มีสถานะสักที” ผมนั่งจ้องทะเบียนสมรสกรอบลายดอกกุหลาบสีหวานๆ อ่านทวนตัวหนังสือที่มันเขียนอยู่บนนั้นซ้ำไปซ้ำมาสลับกับหันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง “ต่อไปนี้...เวลาใครถามว่าเธอกับฉันเป็นอะไรกัน เธอก็ตอบได้แล้วนะ ว่าฉันเป็นสามี” “สามี” ผมนั่งยิ้มเหมือนคนบ้ากอดทะเบียนสมรสในสมุดบุนวมลายไทยนุ่มๆ ไว้แนบอกอย่างหวงแหน แล้วเอียงหน้าลงไปซบท่อนแขนท่านประธานที่เวลานี้อัพเกรดมาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย “คุณปานัท....” “เลิกเรียกว่าคุณปานัทได้แล้วนะ ตอนนี้เราเป็นผัวเมียกันจริงๆ แล้ว เปลี่ยนคำเรียกใหม่ดีหรือเปล่า” “เปลี่ยนคำเรียกใหม่เหรอครับ” “ใช่...เอาเป็น พี่นัท...ไหนเรียกสิ” “อืมมมม พี่นัท” ผมเงยหน้าขึ้นไปพูดตาม อยู่ๆ ดัดจริตเกิดเขินผัวตัวเองขึ้นมาเสียอย่างนั้น แก้มสองข้างอมยิ้มจนเมื่อยกรามไปหมด “น้องวี...จุ๊บ” จูบฉกลงมาแตะปลายจมูก ท่อนแขนโอบมารั้งให้ผมเอียงตัวลงไปซบด้านข้าง “พี่นัท พี่นัท พี่นัท” ผมซุกหน้าเข้าไปในซอกรักแร้หอมๆ ของผัว รู้สึกเขินจนทำสีหน้า ทำตัวไม่ถูก ตื่นเต้นที่วันนี้ได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที หัวหน้างานของผมยืนเท้าเอว เอียงคอมองผมเดินลงมาจากรถท่านประธานช่วงบ่ายแก่ๆ จากนั้นคู่สามีภรรยาใหม่แกะกล่องอย่างเราเดินแยกย้ายกันไปทำงาน โดยคุณปานัทเดินเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปตรวจงานบนอาคารสูง ส่วนผมเดินไปรวมกลุ่มกับพวกรุ่นพี่แผนกเดียวกัน “มานี่เลยมึง....บอกมา มึงกับคุณนัทคือยังไง” หัวหน้างานลากแขนผมเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นของแผนกไอทีจากนั้นปิดประตูขังผมไว้กับรุ่นพี่ที่นั่งกันหน้าสลอน “อะไร...” “มึง...กับ...ท่านประธาน เป็นอะไรกัน” รุ่นพี่คนหนึ่งเปิดหลักฐานความรั่วเรี่ยราด เมื่อคืนของผมที่นั่งบ่นว่า ผัวไม่รัก ผัวไม่รัก ท่ามกลางเสียงหัวเราะของพี่ๆ จนมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา “วี...กวี ลุกขึ้นเร็วฉันมารับแล้ว” คุณปานัทเดินลงจากรถมาฉุดผมลุกขึ้นจากวงเหล้า “ไม่เอา ไม่กลับ” “ลุกขึ้น...” “ฮือออออ ผัวไม่รักเลย ผัวทิ้งผมไปแล้ว” “ฉันยังไม่ได้ทิ้งเธอไปไหนเลย ลุกขึ้นสิครับ” “ฮื้อออ ผัวผมมีเมียใหม่ไปแล้ว ผัวไม่รักผมแล้ว อ๊ากกก ผัวทิ้งผมไปแล้ว เสียใจผัวไม่รักกก” ในคลิปวิดีโอบันทึกภาพ ผมนั่งกอดขวดเหล้าแหกปากร้องไห้เหมือนคนบ้า ตีโพยตีพายอย่างคนไร้สติ “รักสิครับ...รักเหมือนเดิมเลย ลุกขึ้นนะ กลับบ้านกัน” “ฮื้อ ... ผัวทิ้งไปแล้ว” เสียงร้องไห้ครางฮือๆ เหมือนคนปัญญาอ่อนของผมค่อยๆ หายไป แทนที่ด้วยสายตาหลายคู่คาดคั้น เหมือนอยากให้ผมตอบคำถาม “ตกลงยังไง...ไอ้วี” “แฮร่....เมื่อคืนผม...เมาขนาดนี้เลยเหรอ” ผมหันไปยิ้มแห้งให้ “มึงไม่ต้องมาหัวเราะกลบเกลื่อน นี่มึงเป็นเมียท่านประธานปลอมตัวมาเหรอ” สัญญาณโทรศัพท์มือถือของหัวหน้าดังขึ้นมาขัดจังหวะ ก่อนที่หน้าตื่นจะเอียงข้างหันมามองผมพร้อมกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก “ท่านประธานบอกให้มึง...ให้น้องวีไปหาที่รถ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม