ตอนที่ 2 คุยผิดคน

2081 คำ
ตอนที่ 2 คุยผิดคน “อ่าส์...ดี ดีจริงๆ มันดีมาก” “ดีบ้าอะไรกัน ไม่ดี...อย่างนี้ไม่ดีแน่” ผมตะโกนเถียงในใจเพราะปากไม่สามารถขยับพูดเปล่งเสียงออกมาเป็นคำได้ ท่อนเอ็นใหญ่ร้อนเหมือนไส้กรอกยักษ์ยังรัวปักแทงเข้าแทงออกไม่ยอมหยุด “อื้อ” ผมคว้ามือสะเปะสะปะกำได้กล้ามอกใหญ่แล้วตะกุยเล็บส่งสัญญาณไปว่าผมกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย เพราะไอ้สิ่งที่มันไหลลงในคอเข้าไปจุกปิดช่องลมจนผมหายใจไม่ทัน “คุณทำผมกลัวนะ” นับว่ากรงเล็บของผมมีผลอยู่ไม่น้อย เพราะคนสติไม่ครบถ้วนยอมปล่อยให้ผมกลับคืนอิสรภาพ ริมฝีปากหยักสั่นระริกอย่างน่าสงสาร ทำเอาผมไม่กล้าอ้าปากด่าทอตัดพ้อ มือร้อนผลักอกผมออกห่างจากนั้นคลานพาตัวเองข้ามเข้าไปนอนขดอยู่ในอ่างจากุชชี่ใหญ่เปิดน้ำเติมใสลงไปแล้วมุดหัวก้มหายลงไปใต้น้ำ “คุณ...โอเคมั้ย” ผมก้มตัวลงไปนอนตะแคงมองผ่านอ่างใส เห็นงูเห่าตัวใหญ่ผงกหัวหงึกๆ อยู่ตรงซอกขาขาว ตาคมแข็งกร้าวลืมเหลือกขึ้นมาใต้น้ำแล้วหันมาสบตากับผมวูบหนึ่ง “คุณโอเคหรือเปล่าครับ” ผมถามย้ำอีกรอบ แม้ว่าเมื่อครู่คุณคนนี้จะทำให้ผมตกใจมาก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอดเป็นห่วงผู้มีพระคุณของผมไม่ได้ “ไม่โอเค” “อ้า...อย่าทำผมนะ...ผมกลัวแล้ว” ผมถูกลากกระชากคอเสื้อจนหัวทิ่มปักจมลงไปในอ่างน้ำเย็น หัวโขกเข้ากับขอบอ่างด้านหนึ่งจนมึนงงไปหมด จนเมื่อโผล่หัวกลับขึ้นมาสูดอากาศได้รีบยกมือขึ้นมาไหว้ผู้มีพระคุณปลกๆ “ฉันไม่ได้คิดจะทำอะไร....แค่ขอให้ช่วย” “ช่วย...เหมือนเมื่อกี้เหรอ” “ทำให้ฉันหน่อย ช่วยเอามันออกมาที เจ็บบบบ” “เอา...แค่เอาน้ำออกใช่มั้ย” ผมมองทะลุผืนน้ำลงไปเห็นงูใหญ่โผล่หัวหยักขึ้นมาปริ่มๆ ผิวน้ำ อารมณ์เสียววูบแล่นจากอกตรงลงไปจนถึงรูสะดือ อยู่ๆ เหมือนจะปวดหน่วงๆ ตรงร่องเนื้อใต้ก้นจนผมต้องสะบัดหน้าไล่ความคิดอุบาทว์ลามกของตัวเองออกไปจากหัว “เอ่อ...ผมขอใช้มือนะครับ” “ใช้อะไรก็ใช้เถอะน่า” มือล้วงลงไปใต้น้ำ กำรอบท่อนเนื้อซึ่งมีส่วนคอหยักคล้ายงูยักษ์หัวแดงเถือก ท่อนขายาวใหญ่ตวัดยกข้ามหัวผมไปแล้วขังผมไว้ตรงกลางระหว่างซอกขา สะโพกหนาเด้งสวนกระดกขึ้นมาทำให้ผมไม่ต้องเสียเวลารูดมือขึ้นลง “มานี่หน่อย” “อื้อ” จูบแรกของผมถูกขโมยไปโดยผู้ชายที่ผมไม่รู้แม้แต่ชื่อของเขา ช่างเป็นค่ำคืนที่ปากผมทำงานหนักมากเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดมา 23 ปี ผมเพิ่งรู้วันนี้เองว่า ลิ้นของคนเรามันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด “อ่าส์...เอามันออกมาสิ” มือหนักขยำเป้ากางเกงของผม อาจเพราะเขาคนนี้รับรู้ได้ถึงสิ่งที่อยู่ข้างในที่มันค่อยๆ ขยายตัวเต่งตึงขึงแข็ง น้ำในอ่างไม่รู้มันลดหายไปไหนได้ยินเพียงเสียงน้ำจากก๊อกไหลซู่ๆ เท่านั้น “ไม่เอา ผมกลัว” “กลัวอะไร” “กลัวคุณไง” “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า...เอามันออกมา” มือขยับปลดถอดลากกางเกงยีนผมร่นโยนหายไปจากสายตา เจ้ากวีน้อยลูกรัก ขนาดพอดีมือดีดตัวตั้งอยู่เคียงข้างท่อนเนื้อใหญ่ดูคล้ายพ่อลูกกัน “คุณ ... ผมเสียว” ขณะที่มือใหญ่กำรูดท่อนเนื้อทั้งสองทีเดียวพร้อมกัน ผมกดส่วนโคนตรงที่มีลูกบอลกลมสองลูกกลิ้งไปกลิ้งมาบดถุงเนื้อทั้งสองกลิ้งลูกบอลทั้งสี่บดบี้ขยี้ใส่กัน จากนั้นจึงได้ยินเสียงครางอย่างพึงพอใจหลุดมาจากคนตัวใหญ่ “กวี...” ผมหูอื้อตาลายจับใจความอะไรไม่ได้ สายตามองเห็นแต่ดาวระยิบระยับลอยไปลอยมา ขนแขนขนขาลุกซู่ชูชัน เมื่ออารมณ์เสียวพุ่งมาถึงจุดสูงสุด ผมแอ่นตัวกระแทกเอวขยี้ใส่เจ้าของตักใหญ่กดน้ำหนักลงไปก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักพุ่งกระเด็น แตกกระเซ็นขึ้นมาเปรอะเต็มไปทั่วหน้า ตามมาด้วยน้ำรักร้อนๆ เหนียวข้นของคนที่นั่งชักมืออยู่ฝั่งตรงข้าม น้ำกลิ่นคาวแตกกระจายกระเด็นไปไกลจนข้ามไปติดฝาผนัง “คุณ...เสร็จแล้ว โอเคหรือเปล่าครับ” “แล้วเธอล่ะ โอเคหรือเปล่า” อุ้งมือใหญ่ยกขึ้นมาเช็ดน้ำเหนียวบนแก้มออกให้ “เจ็บครับ คุณทำแรงจังเลย” ผมก้มลงไปมองตรงกลางหว่างขา ท่อนเนื้ออันน้อยอ่อนตัวหดลงไปนอนคอพับ พิงหัวหลับอยู่ข้างงูใหญ่ที่ยังมีแรงชูคอสะบัดหัวอยู่หงึกๆ “ขอโทษ...ไม่ได้ตั้งใจ....จุ๊บ” จูบเบาๆ แตะลงมาบนแก้มแต่ทำเอาผมร้อนวูบเหมือนมีไฟลุกท่วมหน้า “เอ่อ...” “เจ็บมากหรือเปล่า” มือหนักเมื่อครู่เปลี่ยนสัมผัสเป็นแผ่วเบา แต่ยังสร้างความเสียวซ่านให้เหมือนเดิมต่างเพียงมันเป็นอารมณ์เสียวๆ สยิวๆ ปนจั๊กจี้นิดๆ “ไม่เป็นไรครับ แล้วคุณหายหรือยัง กินน้ำอีกสักขวดมั้ย” ผมรวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของคางแหลม “ยังไม่ดีเท่าไหร่ กินน้ำอาจไม่ช่วยอะไร แต่...ขอต่ออีกสักรอบได้มั้ย” “หา...อีกรอบงั้นเหรอ” เท่าที่ผมรู้ คนถูกมอมยาปลุกเซ็กจะมีอารมณ์ทางเพศสูง แต่ไม่เคยรู้ว่ามันสูงขนาดไหน จนกระทั่งคืนนี้ กว่าผู้มีพระคุณจะยอมพูดคำว่า “พอ” ท่อน้ำของผมมันแทบไม่เหลือน้ำค้างอยู่ภายในแม้แต่หยดเดียว กระจงกระเจี๊ยว กะปลกกะเปลี้ยเพลียพับหักงอดูน่าสังเวชมาก แต่ไอ้ท่อนเนื้อแบบเดียวกันที่ขนาดใหญ่กว่าขนาดมันนอนหลับคอพับอันยังใหญ่กว่าผมเกือบ 2-3 เท่าตัว “อ้าวหลับไปง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ” ผมนั่งรวบรวมพละกำลังและรอจนแข้งขาหายสั่น เห็นว่าคนถูกมอมยานั้นเงียบเสียงไปนาน จนเมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเจ้าของกล้ามอกกว้างขวางที่ผมนอนพิงอยู่นี้ก็หลับสนิทไปแล้ว “แบบนี้คงไม่เป็นอะไรแล้วมั้ง” ผมถอนตัวขยับลุกออกไปจากอ่างใหญ่จากนั้นเดินตามเก็บเสื้อผ้าเปียกโชกเฉอะแฉะนำมันมาสวมใส่แล้วรีบเดินกลับไปหาแม่ตามเดิม “ไอ้วี! ทำไมเปียกมาขนาดนั้นเล่าลูก” “อ๋อ...ตกน้ำอะแม่” ผมยืนหนีบขาเพราะแสบไข่ รีบเดินเลี้ยงหลบหน้าแม่ไปทางอื่น โชคดีที่แม่ผมเป็นพนักงานซักรีดของโรงแรมนี้จึงพอมีเสื้อผ้าเครื่องแบบของพนักงานเก่าๆ ที่ลาออกไปซักรีดเก็บเอาไว้อยู่จึงนำออกมาใส่แก้ขัดไปก่อนได้ “ตกน้ำ?” “อือ” “ไปทำอีท่าไหนถึงตก” “ก็ทำหลายท่าอยู่นะแม่” ผมรีบเดินหลบแม่แก้วไปทางอื่นเพราะนอกจากแม่ผมจะทำงานเป็นแม่บ้านซักรีดของโรงแรม เรื่องสักเรื่องถามนี่แม่ผมก็ไม่เป็นสองรองใคร แล้วผมก็ไม่ใช่คนประเภทโกหกเก่งซะด้วย “บริษัทนี้เจ้าของจริงๆ เป็นฝรั่งชื่อคุณเฮนรี่ แต่ตอนนี้ไปๆ มาๆ ระหว่างประเทศไทยกับเยอรมัน นานๆ ถึงจะเข้ามาบริษัทสักครั้ง ส่วนมากคุณปานัทเป็นคนมาดูแลแทน แต่ช่วงนี้คุณปานัทเองก็ยุ่งเรื่องโปรเจคสร้างโรงแรมใหม่ที่กระบี่อาทิตย์หนึ่งถึงจะแวะเข้ามาเซ็นเอกสารสักที ส่วนฝ่ายไอทีอย่างพวกเราน่ะสบายใจได้ เพราะไม่ค่อยได้ไปยุ่งกับใคร” “อ๋อ ดีเลยครับ” ผมพยักหน้าให้กับหัวหน้าแผนกที่ช่วยอธิบายขอบเขตการทำงานและโครงสร้างบริษัทคร่าวๆ ให้ฟัง “จริงสิ เดี๋ยวพวกพี่จะมีเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ กวีเตรียมตัวเลยนะ” “ฮะ ต้อนรับน้องใหม่เหรอครับ...อืม ไม่เป็นไรก็ได้มั้งครับ” “ไม่ได้ มันเป็นธรรมเนียม วันศุกร์เย็นเตรียมตัวเลยนะบอกที่บ้านไว้เลยว่ากลับดึกแน่นอน” “อ๋อ ถ้าเป็นธรรมเนียมก็โอเคครับ” ไอ้ผมก็เพิ่งจะเคยทำงานที่นี่เป็นแห่งแรกเลยไม่รู้ว่าธรรมเนียมการกรอกเหล้าเข้าปากน้องใหม่นี่มันมีเหมือนกันทุกบริษัทมั้ย ถ้าผมรอดตายไปจนถึงพรุ่งนี้ได้เดี๋ยวจะลองถามอากู๋ดู “อีกแก้วสิกวี” “อือ...ม่ายหวายแล้วววววววว” “อะไรกันแค่นี้เมาแล้วเหรอ เบียร์เพิ่งหมดไป 5 ทาวเวอร์เองนะ” “ฮื้อ...กินม่ายหวายแล้ว” อย่าว่าแต่กินไม่ไหว แต่อ้าปากกลืนเบียร์ลงคอตอนนี้ผมก็ยังไม่มีปัญญา ปกติสมัยเรียนมหาวิทยาลัยผมเคยไปนั่งดื่มกับเพื่อนๆ บ้างแต่ตอนนั้นเราก็กินกันตามประสาเด็กวัยรุ่น 1-2 ลัง แค่นั้นก็เมากันจนกลับหอไม่ถูกแล้ว “ผมขอไปฉี่ก่อน” ผมลากตัวเองมานั่งโก่งคออ้วกอยู่บนพื้นห้องน้ำด้านหลัง เมาหนักจนแทบจะคลานออกไปไม่ไหว เปิดประตูห้องน้ำออกมาได้เหมือนเดินชนใครสักคนจนเกือบล้มลงไปนอนกองบนพื้นอีกรอบ “ลุกขึ้น” เจ้าของรองเท้าสีดำเงาวับพูดเสียงดุ “หือ” “ฉันบอกให้ลุกขึ้น” “ลุกม่ายหวาย” ผมเกยคางวางลงไปบนปลายรองเท้าแข็ง เสียงยานคางของตัวเองดังสะท้อนกลับมาเข้าหู “เดี๋ยวได้ลุกไม่ไหวจริงๆ แน่...ลุกขึ้น” ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องน้ำยังไง แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่าผมกดเรียกรถแท็กซี่ให้มารับตอนไหน รู้แค่คนขับแท็กซี่ไข่หอมมากเพราะตลอดทางผมฝากหน้าซุกอยู่ตรงซอกขาหนีบตลอดเส้นทาง จากนั้นสติผมเริ่มมาขมุกขมัวลัวๆ รางๆ อีกทีตอนที่ถูกจับแก้ผ้า ถ่างขา ตะแคงตัวพลิกไปพลิกมาเช็ดตัวให้ ขับไล่ความเหนียวหนืดเหนอะหนะจนรู้สึกสบายตัว “นอนดีๆ” เจ้าของเตียงนุ่มลากหัวผมขึ้นไปหนุนหมอน “เอ๋ คุณเองเหรอ...ไม่เจอหลายวันเลยนะครับ” “เมาขนาดนี้ยังจำฉันได้อีกอย่างนั้นเหรอ” “ได้สิ เพราะคุณคือผู้มีพระคุณของผม ผมจำหน้าคุณได้ จำเสียงของคุณได้ แล้วผมก็จำค.... ของคุณได้” “อยากทักทายมันสักหน่อยมั้ย” มุมปากเผยรอยยิ้มพึงพอใจก่อนจะจูบลงมาบนแก้มผมเบา ขายาวตวัดข้ามขึ้นมาคร่อมบนช่วงอก จากนั้นถลกร่นกางลงควักท่อนเอ็นดุ้นใหญ่ออกมาทักทายผม “คิดถึงมันมั้ย” แท่งเนื้ออุ่นๆ ถูกนำมาถูอยู่ข้างแก้ม “อืม…จุ๊บ” ผมเอียงปากไปจูบทักทายไอ้งูใหญ่ที่เคยอมหัวมันไปหลายครั้ง แถมยังเคยถูกมันพ่นพิษใส่อยู่หลายที ผมผงกหัวขึ้นไปจูบทักทายเจ้างูยักษ์ ด้วยการ อ้าปากแล้วปล่อยให้มันเลื้อยมุดผลุบหายเข้าไปในโพรงปาก บางครั้งถอนถอยดึงมันออกมาใช้ลิ้นเลียลิ้ม ชิมรสชาติหวานปะแล่มตรงส่วนหัวสีชมพูเข้มเป็นหยัก เป็นลอน แต่หากรู้สึกเลี่ยนเกินไปก็แค่ลากลิ้นเลียต่ำลงมาอีกหน่อยตรงโคนขาซอกถุงอัณฑะมันจะให้รสสัมผัสรสชาติเค็มนิดๆ แต่ถ้าหากลากลิ้นยาวเริ่มจากโคนสุดไปถึงปลายบอกเลยว่าอร่อยจนสร่างเมา “อยากมั้ย” มือหนักเอื้อมไปบีบขยำท่อนเนื้อของผมที่มันกำลังค่อยๆ ตื่นขึ้นมากลางดึก “ครับ...” “คืนนี้เธอเมามาก ตั้งสติให้ดีก่อนตอบนะเข้าใจมั้ย” “ผมไม่เมาสักหน่อย เห็นมั้ยผมจำคุณได้ คุยกับคุณรู้เรื่อง” ผมใช้มือสองข้างกำรวบเจ้างูยักษ์ให้มันอยู่นิ่งๆ จากนั้นเพ่งสบสายตากับมัน “ไอ้ที่เธอคุยด้วยนะมันไม่ใช่ฉัน...แต่มันเป็นค...ว....ฉัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม