“นั่งลงก่อนสิ น่าจะได้คุยกันยาว” พ่อเลี้ยงวัยชรายิ้มให้กับหญิงสาวรุ่นลูกด้วยสายตาแปลกๆ
“ตกลงพ่อเลี้ยงยอมให้หนูผ่อนเงินที่น้าเชิดเป็นหนี้ใช่มั้ยคะ” นับดาวเอาชนะความกลัวเอ่ยถามออกไป
“ไม่ต้องผ่อน แต่ฉันจะคืนที่ดินให้หนู ถ้าหนูยอมรับเงื่อนไขของฉัน” พ่อเลี้ยงก้องหล้าเอ่ยช้าๆ แน่นอนว่าก่อนที่เขาจะเสนอเงื่อนไขนี้ เขาไปสืบประวัติของเธอมาเรียบร้อยแล้ว เธอคือคนที่เหมาะสมที่ควรจะได้รับข้อเสนอนี้จากเขา
“เงื่อนไขอะไรคะ” คำถามที่เต็มไปด้วยความระแวงถูกส่งไปจากเรียวปากบาง เธอเริ่มไม่มั่นใจว่าพ่อเลี้ยงก้องหล้าเป็นคนยังไงกันแน่ และที่สำคัญคงไม่มีใครยกหนี้ตั้งห้าแสนให้ใครฟรีๆ
“แต่งงานกับลูกชายของฉัน” พ่อเลี้ยงก้องหล้าบอกเงื่อนไขของการคืนโฉนดที่ดินให้กับหญิงสาว
“แต่งงานกับคุณก้องภพเนี่ยนะคะ” นับด่าวเอ่ยเสียงดัง เธอไม่อยากเชื่อว่าเงื่อนไขคือการให้เธอแต่งงานกับลูกชายเพล์บอยของพ่อเลี้ยงที่เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น เขาขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้หาตัวจับได้ยาก แล้วคนแบบนี้เหรอจะยอมลงเอยที่ใคร ถ้าเธอตอบตกลงแต่งงานตามที่พ่อเลี้ยงก้องหล้าต้องการ ก็เท่ากับว่าเธอก้าวขาลงไปในนรกโดยสมบูรณ์แบบ
“ลูกชายฉันมันไม่ดีตรงไหนเหรอ” พ่อเลี้ยงก้องหล้ากล่าวยิ้มๆ คนเป็นพ่อมีหรือจะไม่รู้ว่าลูกชายของตนเองเป็นคนยังไง ถ้าเขาไม่หยุดบุตรชายตอนนี้ อีกไม่นานคงจบชีวิตเพราะความเจ้าชู้ของตัวเองแน่ๆ
“ให้พูดจริงๆ หรือพูดแบบถนอมน้ำใจคะ” นับดาวเอ่ยออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เอาจริงๆ สิ” พ่อเลี้ยงวัยชรารู้สึกเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมาทันที
“เจ้าชู้ ไม่มีใครอยากได้เป็นสามีหรอกค่ะ” นับดาวเผลอเบ้หน้าออกมาทันทีที่เธอเอ่ยถึงก้องภพ
“แล้วถ้าผู้ชายแบบลูกชายฉันต้องมาเป็นสามีหนู แลกกับหนี้สินห้าแสนบาท สินสอดอีกห้าล้าน หนูจะยอมรับลูกชายฉันเป็นสามีมั้ยล่ะ” พ่อเลี้ยงก้องหล้าเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม การใช้เงินล่อมันคือกลวิธีที่เขาใช้มานานแสนนาน และเขาก็คิดว่าครั้งนี้น่าจะได้ผลด้วยสำหรับพวกเขามันคือเงินน้อยนิด แต่สำหรับคนที่รายได้น้อยอย่างครอบครัวนับดาว ต่อให้หาทั้งชีวิตก็อาจจะไม่ได้เงินมากมายขนาดนี้
คำพูดต่อมาของพ่อเลี้ยงก้องหล้า มันทำให้นับดาวตัดสินใจยากลำบากมาก เธอไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะต้องขายศักดิ์ศรีเพื่อโฉนดที่ดินผืนนั้น แต่ถ้าเธอไม่ตอบตกลงเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว นับดาวจะทำยังไงกับทางเลือกที่เหมือนกำลังจะเอาตัวเองลงไปในเหวแบบนี้