เจนนี่ สาวสองสูงยาวขาวโบ๊ะยิ่งกว่าสั่งตรงจากเกาหลีนั่งมองใบบัว เพื่อนสาวที่เรียนคณะเดียวกันนั่งกระสับกระส่ายและก้มดูนาฬิกาข้อมือหลายหนขณะนั่งที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนในมาหวิทยาลัยแล้วหรี่ตาพลางหยิบขนมเข้าปากตามประสาคนที่ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจก่อนชะโงกหน้ามองนาฬิกาข้อมือของเพื่อนแล้วบ่นออกมาว่า
“นี่หนูบัวขา...หล่อนจะนั่งเพ่งดูเวลาอีกนานเป่าคะ ชาเขียวเย็นที่ฉันซื้อมาให้น้ำแข็งละลายหมดแล้วนะคะคุณหนู”
พอถูกทักเข้า ใบบัว สาวผิวขาวรูปร่างเล็กบอบบางแต่แอบซ่อนสัดส่วนอวบอิ่มไว้ข้างในก็ทำหน้าตกใจและยิ้มให้เพื่อนสนิทของหล่อนที่นั่งอยู่ด้วยกัน นั่นคือเจนภพ สาวเทียมที่เพื่อน ๆ เรียกกันติดปากว่าเจนนี่และภาวินี สาวแท้หน้าใสเหมือนนางแบบญี่ปุ่น แบ๊ว ๆ แต่ซ่อนความแร่ดไว้เต็มพิกัด
“อ้า...เอ้อ...ฉันก็ดูเวลาอยู่น่ะ”
“หล่อนจะกังวลอะไรกันนักหนาคะคุณหนู กะอีแค่เวลาเลิกเรียน เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว”
ภาวินี สาวสวยนักกิจกรรมตัวยงบ่นพลางดูดน้ำหวานท่ามกลางอากาศร้อนและแดดตอนบ่ายที่ยังแรง ในสายตาของเพื่อนสนิท ใบบัว เป็นสาวหวานเรียบร้อยที่สุดในกลุ่มทำให้ทุกคนชอบขนานนามหล่อนว่าคุณหนู หรือหนูบัวจนติดปาก
“ฉันรอพี่ธรรม์มารับน่ะ”
ใบบัวตอบและทำให้เพื่อนทั้งสองเลิกคิ้วพร้อมกันและทำท่าเหมือนอยากรู้ขึ้นมาโดยเฉพาะภาวีนี
“พี่ธรรม์ พี่เขยบัวน่ะเหรอ...เฮ้ย...เขาหล่อมากเลยนะ หนุ่มธนาคาร แกโชคดีที่ได้พี่เขยหล่อแถมอยู่บ้านเดียวกันอีก นี่อยู่ใกล้ ๆ ผู้ชายหล่อได้ใจอย่างนั้นไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอยะ”
“แกจะบ้ารึไงนี”
เจนนี่เอ็ดเพื่อนสนิทพร้อมถลึงตาใส่
“นั่นน่ะผัวพี่สาวของหนูบัว ใช่คนอื่นเสียที่ไหน หนูบัวจะคิดอะไรฉันไม่รู้แต่ที่รู้ ๆ ตอนนี้คนที่ตื่นเต้นจนออกนอกหน้านั่นล่ะหล่อนซะมากกว่านังชะนี”
“อย่าว่าแต่ฉันเลย พวกอีแอบแอ๊บสาวอย่างแกก็ใช่ย่อยซะที่ไหน นังเจนภพ...เห็นเวลาพี่ธรรม์มารับหนูบัวอย่านึกว่าฉันไม่เห็นนะว่าแกนั่งน้ำลายหยดย้อยเหมือนกันนังกระทิงเปลี่ยว”
“ว๊าย! นังชะนีหน้าขาว ปากดีแบบนี้เดี๋ยวกระทิงอย่างฉันจะขวิดให้ร้องหาผัวไม่ออกเชียวล่ะแก๊”
“หยุดเถียงกันน่า...บัวยังไม่ทันได้คิดอะไรอย่างนั้นสักหน่อย เขาเป็นพี่เขยบัวนะ”
ใบบัวโบกไม้โบกมือห้ามเพื่อนทั้งสองที่ชอบเถียงกันทุกครั้งที่จับกลุ่มคุย ภาวินีเบ้ปากก่อนจะพูดต่อ
“รู้ล่ะว่าเป็นพี่เขย...นี่ถ้าอายุเท่า ๆ กันถ้าพี่ธรรม์ไม่ใช่พี่เขยบัวแล้วหนูบัวจะชอบรึเปล่าล่ะ ก็เขาหล่อออกขนาดนั้น”
“บัวจะคิดอย่างนั้นได้ไง”
ใบบัวรีบปฏิเสธแต่ใจจริงของหล่อนกลับคิดตรงข้าม ใบบัวนึกถึงพี่เขยของหล่อนที่ทำงานเป็นพนักงานธนาคาร รูปร่างสูงใหญ่และหล่อเหลา หล่อนไม่อยากเปิดเผยความรู้สึกบางอย่างที่เก็บเอาไว้ตั้งนานและไม่ยอมเปิดเผยให้ใครรู้ เพราะหล่อนเป็นสาวขี้อาย แตกต่างจากต้นน้ำ พี่สาวของหล่อนที่เป็นนักธุรกิจมีความมั่นหน้าและมั่นใจจนผู้ชายยังชิดซ้าย
ต้นน้ำทำธุรกิจส่วนตัวและเป็นคนส่งเสียให้หล่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ใบบัวพึ่งเข้าเรียนปีหนึ่งและหล่อนต้องมาอยู่ที่บ้านของพี่สาว คอยช่วยดูแลจัดบ้านเวลาพี่สาวของหล่อนไม่อยู่เพราะต้นน้ำต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ แต่หล่อนกลับไม่ค่อยได้เห็นพี่สาวและพี่เขยมีช่วงเวลาโรมานซ์สักเท่าไหร่ ไม่ค่อยเห็นทั้งสองกอดกัน หอมแก้มกันอย่างคู่รักหวานแหวว แต่ใบบัวก็พยายามเจียมเนื้อเจียมตัวว่าหล่อนมาอาสัยอยู่บ้านพี่สาวทั้งที่บางทีก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันเวลาอยู่ใกล้พี่เขย หรือเป็นเพราะหล่อนเป็นสาวสะพรั่งที่ไม่เคยมีแฟนกระมัง ทำให้เกิดความรู้สึกตงิด ๆเวลาอยู่ใกล้ผัวพี่สาวที่หน้าตาหล่อเหลาเหมือนนายแบบอย่างที่เพื่อน ๆ ของหล่อนว่า บัวยิ้มกับเพื่อนแล้วพูดต่อ
“พี่ธรรม์เป็นคนดีบัวจะคิดอย่างนั้นกับพี่เขาได้ไง ที่สำคัญเขารักครอบครัวมากเลยล่ะ”
“แต่เขายังไม่มีลูกนี่นะ ที่พูดไม่ได้ชี้แนะให้หล่อนชอบพี่เขยนะหนูบัว แค่ให้หล่อนรูเท่านั้นว่ามีพี่เขยดีเป็นศรีแก่ตัวนะจ๊ะ”
“เป็นศรีแก่นังชะนีอย่างแกด้วยรึเปล่านัง...ชะนี...ไปเปลี่ยนชื่อดีกว่านะนังภาวินี”
เจนนี่เบะปากเหลือกตามองบนแล้วยิ้ม
“เปลี่ยนเป็นอะไรนังกระทิง”
“เปลี่ยนเป็นชะนีไง๊...นังชะนีนี”
“เอ๊...อีนัง...เฮ้ยๆ...นั่นรถพี่เขยหล่อนชะม๊า หนูบัว”
ภาวินีชี้ไปทางถนนหน้ามหาวิทยลัยที่รถเก๋งสีดำเลี้ยวเข้ามาและบึ่งตรงมาจอดริมทางเท้าใกล้ม้านั่งที่ทั้งสามกำลังเสวนากันอยู่ สักครู่ประตูรถก็เปิดออกและมีหนุ่มหน้าตาดีในชุดสูทก้าวลงมาทำเอาเพื่อน ๆ ของใบบัวมองกันตาเยิ้ม
“บัว...ขอโทษทีนะพี่มาช้าไปนิด”
ธรรม์ พี่เขยของใบบัวพูดขึ้นตอนเดินเข้ามาถึงคนทั้งสาม เจนนี่ที่นั่งมองกระพริบเปลือกตาปริบ ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค๊า คุณพี่ธรรม์ขา...อุ๊ย! ขอโทษทีค่า เจนนี่ลืมตัวตอบแทนหนูบัวไปซะละ”
เจนนี่รีบออกตัว ภาวินีเบ้ปากใส่ก่อนหันไปยิ้มกับนายธนาคารหนุ่มพี่เขยของเพื่อนสนิท
“ไม่ช้าหรอกค่าพี่ธรรม์ขา พวกเราพึ่งมานั่งไม่ถึงครึ่งช่าโมงนี้เองค๊า”