5. รู้แล้วใช่ไหม

886 คำ
เช้าวันต่อมา_ "ทานตะวันรีบไปทำงานเถอะจ้ะ เดี๋ยวพวกพี่ช่วยกันทำอาหารเอง" พี่รุ้งคือแม่บ้านคนนึงบอก ขณะที่ช่วยกันเตรียมอาหารสำหรับมื้อเช้าของเจ้านาย ยกเว้นร่างอรชรที่อยู่ในชุดพร้อมออกไปทำงาน "ยังไม่ถึงเวลารถเมล์มาเลยค่ะ ให้ทานตะวันช่วยก่อนดีกว่านะคะ" เธอเลยช่วยจัดจานอาหารใส่ในถาด "วันนี้จัดเพิ่มอีกหนึ่งที่นะทานตะวัน คุณไบเบย์กลับมาแล้วน่ะ" "คุณไบเบย์เหรอคะ กลับมาตั้งแต่ตอนไหน?" เธอพอทราบดีว่าเจ้านายมีลูกชายที่เติบโตอยู่เมืองนอก แต่ยังไม่เคยพบเจอหน้าสักครั้ง เพราะเธอพยามหลบเลี่ยงตามคำสั่งผู้อุปการะเลี้ยงดู "เมื่อวานนี้น่ะ หลังจากเราไปทำงานสักพักคุณไบเบย์ก็มาแล้ว แต่พูดไทยอย่างเราไม่ค่อยชัดนะ" "งั้นพี่รุ้งออกไปเสิร์ฟไหมคะ ทานตะวันว่าตัวเองอยู่ในครัวน่าจะดีกว่า" พอเห็นว่าปลาวาฬกำลังลงมาชั้นล่างกับลูกสาวแล้ว เธอเลยเลื่อนถาดให้รุ่นพี่แม่บ้าน ราวกับมีลางสังหรณ์บางอย่าง ว่าคนเมื่อคืนอาจจะเป็นเขาหรือเปล่า "ได้เลย เราก็รินน้ำส้มไว้ล่ะ คุณผู้ชายไม่ชอบกินเย็น" "ได้ค่ะ" เมื่อเห็นว่ารุ้งออกไปแล้วทางโต๊ะอาหารแล้ว ใจดวงเล็กเริ่มกลับมาเต้นเป็นปกติ เลือกหน้าที่อย่างเดิมในทุกเช้าต่อ "ทำไมหน้าเป็นอย่างล่ะลูก นอนไม่หลับเหรอ" ปลาวาฬส่งเสียงถามทางลูกชาย ใบหน้าอิดโรยและบ่งบอกความหงุดหงิด "ให้นอนเร็วใครมันจะปรับตัวได้?" สายตาคมตวัดมองทางด้านพี่สาว ก่อนจะดึงเก้าอี้ออกมาทิ้งกายลง "งั้นคืนนี้พี่จะชวนไปสวดมนต์นะ" "ฝันหรอ? แล้วไม่ต้องสวดเสียงดังข้ามชั้นล่ะ มันหนวกหู" "เจอหน้ากันทีไรกัดกันทุกที" ฟอเรสต์บอก ส่ายหน้าให้เรื่องไร้สาระ ผายมือให้ภรรยาเริ่มทานอาหารก่อน "ว่าแต่...เด็กเลี้ยงของคุณแม่อยู่ไหน ไม่แนะนำให้ผมรู้จักบ้าง" เขาเหลือบไปเห็นร่างอรชรในครัว หญิงสาวที่ทำให้เขาคลุ้มคลั่งในความต้องการค่อนคืน "ก็เด็กในบ้านนั่นแหละลูก รีบกินข้าวดีกว่าไหม อยากไปดูบริษัทใหม่ไม่ใช่เหรอ?" ท่านบอกกระอักกระอ่วน มองสามีขอความช่วยเหลือ "เธอชื่อทานตะวันใช่ไหม ควรจะรู้จักผมไว้นะ จะได้รู้อะไรควรอะไรไม่ควรทำกับเจ้านาย" สองมือหนายกประสานใต้คางสาก เขายังเพ่งความสนใจเรื่องหญิงสาวคนเมื่อคืนไม่มองอาหารเมนูใด "ทานตะวัน" ฟอเรสต์เป็นฝ่ายส่งเรียกเอง "ค่ะ คุณท่าน" ร่างอรชรรีบวิ่งออกมาพ้นโซนครัว ยืนก้มหน้ากลัวความผิด มองดูก็รู้ว่าโรคจิตเมื่อคืนนี้คือลูกชายของผู้มีพระคุณ "ไง รู้แล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร" มุมปากเหยียดยิ้มสมเพชให้กับลูกกระต่ายตัวน้อย ริอาจกล้าหยิ่งผยองใส่ราชสีห์เช่นเขา "หนูทานตะวันเป็นเด็กในบ้านเรานี่แหละไบเบย์ จะเรียกใช้อะไรก็ได้ แต่ทานตะวันต้องไปทำงานข้างนอกนะลูก ถ้าไม่เจอก็เรียกใช้คนอื่น" ปลาวาฬบอก "แม่ฉันเลี้ยงดูเธอดีขนาดนี้ ยังกล้าไปทำงานข้างนอกอีกเหรอ?" "พ่อเป็นคนอนุญาตให้ทานตะวันไปทำงานข้างนอกเอง เผื่อวันไหนหนูทานตะวันอยากตั้งตัว อยากมีชีวิตเป็นอิสระก็ตามสบายใจเลย" ท่านมองท่าทางหญิงสาว เอ็นดูเช่นเดียวกันกับภรรยา "ทานตะวันอยากไปอยู่ข้างนอกก็บอกเลยนะ คุณแม่จะไปช่วยจัดการให้" ใบบัวบอก เห็นท่าทีน้องชายแล้วเป็นห่วงอีกฝ่าย "ตอบแทนบุญคุณให้คุ้มก่อนสิ" "ค่ะ.." "ว่าแต่ทำงานที่บริษัทไหนล่ะ?" เขาไล่สายตามองการแต่งตัวบนร่างอรชร หุ่นอวบอิ่มและผิวขาวละเอียด ตัดชุดทำงานโดดเด่น "ที่บริษัทBBAY ค่ะ ทานตะวันเพิ่งทราบชื่อเมื่อวานนี้เอง" "ว่าไงนะ!" ปลาวาฬหลุดเสียงถาม "บริษัทดังซะด้วย เธอคงไม่รู้ว่ามีเจ้านายเก่งและหล่อรวยขนาดไหน แต่จะทนทำอยู่ได้นานไหมล่ะ" ร่างกำยำยืดแผงอกกว้าง ทำใบหน้าภูมิใจในคำพูด "ทานตะวันเป็นแค่ผู้ช่วยเลขาค่ะ ยังไม่ทันได้เจอเจ้านาย" ความสงสัยเกิดขึ้นทันที จากที่มองอาการของชายหนุ่มตรงหน้า ถึงเธอพอจะทราบดีว่าเขามีอายุมากกว่าหลายปี แต่ไม่มีความน่าเคารพเอาซะเลย "มาทำที่บริษัทคุณพ่อพี่ไหมทานตะวัน เปลี่ยนใจยังทันนะ" ใบบัวถาม เหลือบมองทางน้องชายและหญิงสาว "นั่นน่ะสิ..ยังทัน" ไบเบย์กดเสียงต่ำ "ขอบคุณคุณท่านและคุณหนูนะคะ แต่ทานตะวันเริ่มรู้สึกสนิทกับพี่คนสอนงานแล้ว เลยอยากลองทำต่อไปก่อนค่ะ" เธอเห็นแววตาดูถูกของเขา ยิ่งปลุกพลังให้อยากชนะ "งั้นก็ดี ผมไม่กินแล้วนะครับ เผอิญว่าตื่นเต้นอยากไปทำงานแล้ว" ร่างกำยำดีดตัวลุก เผยยิ้มเจ้าเล่ห์มีความสุขให้คนมองหวาดหวั่น ถึงจะรับเสื้อสูทที่ลูกน้องคนสนิทยื่นให้ "สู้ๆ นะทานตะวัน พี่เอาใจช่วย" ...........................................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม