" สงครามหวงเมีย "

1875 คำ
เสียงรองเท้ากระทบพื้นปูนดังก้องไปทั่วทางเดินในคณะ ฉันเร่งฝีเท้า เดินกึ่งวิ่งออกมาจากตึกเรียนอย่างหัวเสีย ขณะที่คนด้านหลังยังคงเดินตามมาติดๆ ไม่ยอมหยุด ฉันหันขวับกลับไปมอง พลางเบะปากใส่ด้วยความหงุดหงิด คิ้วขมวดแน่นเหมือนจะบอกว่า “พอได้แล้วนะ” ดวงตาของเขายังจับจ้องที่ฉันไม่วางตา ราวกับกลัวว่าฉันจะละลายหายไปต่อหน้า "อะไรคราม...มึงจะตามอะไรนักหนา" น้ำเสียงฉันขุ่นจัด ใจเต้นแรงด้วยอารมณ์ที่พุ่งขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว สงครามยังคงยืนอยู่ตรงนั้น สองมือยัดกระเป๋ากางเกงอย่างไม่ทุกข์ร้อน แต่สายตาเขากลับฉายแววเอ็นดูปนดื้อดึง ไม่คิดจะถอยออกไปไหน ฉันถอนหายใจแรง เดินต่ออย่างรำคาญ ให้ตายเถอะ! เขาตามติดยิ่งกว่าเงา ไม่ว่าจะไปเรียน ไปกินข้าว แม้กระทั่งตอนฉันจะเข้าไปในห้องน้ำ เขายังยืนพิงผนังรอหน้าห้องแบบไม่สะทกสะท้าน จนเพื่อนฉันมองกันเป็นตาเดียว ฉันเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษหนีคุกมากกว่าจะเป็นแฟนคน เขายิ้มบาง รอยยิ้มที่ทำให้ใจฉันเต้นแปลกๆ แม้จะยังไม่หายโมโห "เบลล์..พูดกับผัวให้มันดีดีหน่อย...แล้วไอ้คำว่ามึง กู เลิกพูดได้แล้ว มันไม่เพราะเลยนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงความจริงจังไว้ชัดเจน ฉันเลิกคิ้ว มองเขาอย่างหมั่นไส้ ขณะที่ริมฝีปากก็เผลอยกยิ้มมุมปากอย่างท้าทาย "แล้วจะให้เรียกว่าอะไร ปกติก็เรียกมึงกูตลอด" ฉันประชดกลับไปอย่างไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร "เรียกตัวเองดีไหม" สงครามยิ้มกว้าง ดวงตาเขาเป็นประกายอย่างขี้เล่น ปากยิ้ม ตาเย้า แถมยังมีเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมาจากลำคอ ฉันจ้องเขาตาเขม็ง คำว่า “ตัวเอง” ทำเอาฉันรู้สึกจั๊กจี้ไปถึงกระดูก "ไม่เอาอ่ะ..ปัญญาอ่อน....จากมึงกูเปลี่ยนมาเรียกตัวเองเนี้ยนะ...ไม่อ่ะ" ฉันพูดพร้อมทำหน้าเบ้แบบสุดจะรับไหว มือกอดอกแน่นเหมือนตั้งกำแพงป้องกันคำหวานๆ พวกนั้น สงครามหัวเราะออกมาเบาๆ ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด โดยที่ฉันยังไม่ทันได้ถอย "งั้นเรียกครามเฉยๆ ส่วนครามจะเรียกเบลล์ว่าเบลล์โอเคไหม" น้ำเสียงเขายังคงนุ่ม แต่แฝงความมั่นคงไว้ด้วย ราวกับจะยื่นข้อตกลงอย่างผู้ใหญ่ ฉันพยักหน้าเบาๆ สายตายังมองเลี่ยงๆ ไปทางอื่น ปากตอบไปเสียงอ้อมแอ้ม "อืม.." ใบหน้าเขาสว่างวาบขึ้นทันที แววตาเป็นประกายเหมือนเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตาฉัน "งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะ...ที่รัก..." ฉันชะงักเท้า พลิกตัวมามองเขาด้วยสายตาเบิกกว้าง คิ้วกระตุกด้วยความตกใจและเขินปนหมั่นไส้ "คราม เรียกเบลล์ก็พอ อย่ามาที่รงที่รัก.." น้ำเสียงฉันต่ำลงแต่ยังมีแววปราม สงครามยกมือขึ้นสองข้างทำท่าเหมือนยอมแพ้ แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับขยายกว้างขึ้นกว่าเดิม ดวงตาวิบวับอย่างมีแผนในใจ "ครับเมีย" คำพูดนั้นมาพร้อมรอยยิ้มแบบเด็กซนที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะโดนตี ฉันส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ กับสรรพนามที่สงครามขยันสรรหามาเรียกแทนตัวเอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบขมับเบาๆ เหมือนพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ให้เผลอยิ้มออกไปตามเขา ทั้งๆ ที่ในใจ...มันก็เผลอไปแล้วนั่นแหละ บรรยากาศรอบตัวในตอนนั้นเหมือนจะคลี่คลายลง แดดร่มลมตก แสงอาทิตย์อ่อนๆ สาดส่องผ่านต้นไม้ริมทาง กลิ่นอาหารจากโรงอาหารลอยมาตามลมเบาๆ แต่กลิ่นที่ชัดที่สุด… คือกลิ่นของความหวานที่ค่อยๆ คลืบคลานเข้ามาในหัวใจฉันโดยไม่ทันตั้งตัว @โรงอาหาร 🍛 บรรยากาศตอนเที่ยงของโรงอาหารกลางมหาลัยอบอวลไปด้วยเสียงพูดคุยจอแจ กลิ่นอาหารหลากชนิดลอยตลบอบอวลปะปนกันไปหมด ฉันกับสงครามเดินมาหยุดตรงโต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างจากแถวยาวเหยียดของร้านเจ้าประจำประมาณสามร้อยเมตร เขาหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามองฉัน สายตาเขาอ่อนโยน เหมือนพยายามประคองอารมณ์ของฉันที่ยังค้างมาจากเหตุการณ์ก่อนหน้า "นั่งรอตรงนี้นะ เดี๋ยวครามไปสั่งข้าวให้ เอาข้าวมันไก่เหมือนเดิมเนาะ" น้ำเสียงของเขานุ่มนวลจนฉันไม่มีแรงจะเถียงอะไรอีก ฉันพยักหน้าเบาๆ พลางถอนหายใจ "อืม..." "เบลล์พูดดีดี..." เขาทิ้งประโยคไว้พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่มุมปาก ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางร้านขายข้าว ฉันเบะปากอย่างหมั่นไส้เล็กๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งใต้ร่มไม้ มือเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย เสียงลมพัดเอื่อยๆ ทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบขึ้นเล็กน้อย...ก่อนจะถูกทำลายลงด้วยเงาของคนสามคนที่เข้ามายืนบังแสงตรงหน้า "จัดการมัน...." เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมแรงกระชากจากด้านหลังที่ล็อกแขนฉันเอาไว้ ฉันเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงงแล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่ายัยน้องนิวจากคณะนิเทศยืนอยู่ตรงหน้า แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง "เพี้ยะ !!!" เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังสนั่น ใบหน้าฉันสะบัดไปตามแรงตบ ความเจ็บปวดแล่นวาบตั้งแต่ข้างแก้มไปจนถึงท้ายทอย มือฉันยกขึ้นกุมแก้มแทบไม่ทัน "โอ้ยยย...นี่แก..หมาลอบกัดเหรอ.." น้ำเสียงของฉันสั่นเล็กน้อยจากแรงอารมณ์ แต่ก่อนที่ฉันจะตั้งหลักได้ดี ยัยนั่นก็แค่นหัวเราะอย่างสะใจ "หึ..นี่สำหรับที่แกแย่งผัวฉัน : นิว" ฉันกัดฟันกรอด ความโมโหพุ่งพล่านขึ้นมาจนทนไม่ไหว สัญชาตญาณพาให้ฉันยกเท้าขึ้นถีบกลางหน้าท้องของยัยนั่นเต็มแรง "หนอย..อีเด็กเมื่อวานซืนรู้จักฉันน้อยเกินไปซะแล้ว" เสียงยัยนิวกรีดร้องอย่างเจ็บปวดพลางล้มลงไปกองกับพื้น มือกุมท้อง น้ำตาคลอ "อ๊ายย !! แก อีเบลล์" ฉันจ้องเธอเขม็ง ดวงตาเต็มไปด้วยแรงอำนาจและความดุดัน "กูเป็นรุ่นพี่มึง..ไม่ใช่เพื่อนเล่น ที่มึงจะมาเรียกกูว่าอีนั่นอีนี่...จำใส่หัวสมองมึงเอาไว้" แต่ดูเหมือนคำพูดของฉันจะยิ่งทำให้เธอคลั่งหนักกว่าเดิม ยัยนั่นลุกพรวดขึ้นมาพร้อมง้างมือจะตบฉันอีกครั้ง "อ๊ายยย!!! อีเบลล์ มึง!" เพื่อนอีกสองคนยังพยายามจับแขนฉันไว้ แต่ฉันสะบัดแรงๆ จนหลุด แล้วชกเข้าที่หน้าของน้องนิวเต็มแรงอีกหมัด "โอ้ยย..นี่แกกล้าชกฉันเหรอ แก..แกตาย.." เสียงของเธอสั่นแหบด้วยความโกรธ ก่อนจะเงื้อมืออีกครั้ง แต่จังหวะนั้นเอง ฉันเหลือบไปเห็นร่างสูงของสงครามวิ่งตรงมาอย่างเร็ว ใบหน้าของเขาเครียดจัด ฉันรีบเปลี่ยนแผน ปล่อยให้ยัยนั่นตบฉันอีกครั้ง แล้วแกล้งล้มลงกับพื้น มือยกขึ้นกุมแก้มทันที "โอ้ยยย.." เสียงฝีเท้าของสงครามหยุดลงฉับพลัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและโกรธจัด "หยุด.....เกิดอะไรขึ้น" เขาโน้มตัวลงหาอย่างร้อนรน มือหนาประคองไหล่ฉันเบาๆ ขณะที่ฉันส่งเสียงครางเบาๆ อย่างเจ็บปวด "เบลล์ เป็นยังไง เจ็บตรงไหนไหม.." "เอ่อ..พี่ครามคะ คือนิว..." "มึงทำอะไรเมียกู ..." น้ำเสียงเขาต่ำลึก หนักแน่น ราวกับกำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้สุดกำลัง "พี่คราม..ทำไมพี่พูดแบบนี้ นิวต่างหากที่เป็นเมียพี่" "..ถ้าอย่างเธอนอนกับฉันแค่ครั้งเดียว ฉันไม่นับว่าเป็นอะไรกันหรอกนะ...คนที่เป็นเมียฉันคือเบลล์คนเดียวเท่านั้น" "พี่คราม ! ได้นิวแล้วจะทิ้งเหรอคะ.. พี่เป็นผัวนิวแล้วนะ" "หึ..ถ้าคนที่เอาเธอแล้วเธอเรียกว่าผัว ป่านนี้ผู้ชายทั้งมหาลัยคงเป็นผัวเธอหมดแล้วมั้ง" "อ๊ายย!! พี่คราม" ฉันนั่งพิงกับอกเขาอย่างอ่อนแรง ก่อนจะซบหน้าลงไปที่อกแกร่งแสร้งร้องไห้เงียบๆ เพื่อเรียกความสงสาร "คราม..เบลล์เจ็บจังเลยค่ะ" น้ำเสียงฉันสั่นเครือ มือเล็กจับชายเสื้อเขาไว้แน่น "นี่มันตบเบลล์เหรอ.." "ค่ะ...น้องนิวเดินเข้ามากับเพื่อน แล้วอยู่ๆก็มาล็อกตัวเบลล์ไว้ แล้วก็ลากเบลล์ออกมาตบแบบนี้ อึก อึก.." ดวงตาของสงครามแข็งกร้าวจนชวนขนลุก เขาหันไปมองพวกนั้นช้าๆ บรรยากาศรอบตัวพลันเงียบงัน แม้เสียงจอแจของโรงอาหารก็ดูเหมือนจะจางหายไป "มึงจะไปไหน !!! " น้ำเสียงเขาดังลั่นจนทุกคนหันมามอง สามคนนั้นสะดุ้งเฮือก ก่อนจะรีบก้มหน้า "เอ่อ..เอ่อ..พี่คะ..ครามคะ แต่พี่เบลล์ก็ชกนิวนะคะ แถมยังถีบนิวอีกด้วย" "ไม่จริงนะคราม เบลล์แค่ป้องกันตัว เบลล์คนเดียว พวกน้องมากันตั้งสามคน" "กูเชื่อเมียกู พวกมึงจะกราบขอโทษเมียกูดีๆ หรือจะให้กูจัดการขั้นเด็ดขาด..." เสียงของเขาเย็นยะเยือกแต่ทรงพลัง จนอีกฝ่ายหน้าเสีย "เอ่อ..นิว.." "ไม่เป็นไรหรอกคราม เบลล์ก็แค่โดนตบสามสี่ครั้งเอง ปล่อยน้องเขาไปเถอะ โอ้ยย..." ฉันทำเสียงครางเบาๆ แล้วแกล้งก้มหน้าลง สงครามรีบจับคางฉันเบาๆ แล้วเอียงใบหน้าไปดูรอยช้ำ "มึงตบเมียกูกี่ครั้ง....ตบหน้าตัวเองเป็นสิบเท่า" "พี่คราม !" "มึงจะตบเอง หรือจะให้กูตบมึง.." ประโยคนั้นเย็นเฉียบจนไม่มีใครกล้าขัด สามคนต้องตบหน้าตัวเองซ้ำๆ ด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนจะยกมือไหว้ฉันแล้วรีบหนีไป ...สงครามพาฉันกลับมาที่รถ บรรยากาศภายในเงียบงัน มีเพียงเสียงเครื่องยนต์เบาๆ กับแรงสั่นของเครื่องปรับอากาศ "สนุกมากไหม ?" "อะไร.." "ก็ที่เล่นละครเมื่อกี้ไง.." "หึ...รู้แล้วยังยอมเล่นตามเบลล์อีกนะ" "ก็ครามโกรธที่พวกนั้นทำร้ายเบลล์ ครามเลยอยากเอาคืนให้เบลล์ไง" "หึ..แล้วมันเพราะใครกัน เรื่องทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้..." "โถ่เบลล์..นั่นมันอดีต ปัจจุบันครามมีแค่เบลล์นะ" "อดีตที่พึ่งผ่านมายังไม่ถึงสามวันเนี้ยนะ หึ..." "เบลล์...สามวันมันก็คืออดีตป่ะ....ไม่เอาน่า..เรามาเริ่มต้นใหม่ดีกว่านะ.." "ขอดูพฤติกรรมก่อนแล้วกัน" "ก็ได้ แต่ระหว่างนี้เบลล์ห้ามคุยกับไอ้ยูโรเด็ดขาด" "คงจะไม่ได้ ยูโรไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วอีกอย่างดูเหมือนยูโรจะชอบเบลล์มากกว่าครามอีกนะ" "เบลล์..ทำไมพูดแบบนี้ว่ะ.." "ช่วยไม่ได้...อยากแรดเองทำไม" "ก็ลองดู..ถ้าคิดจะคุยกับมัน...ครามจะเอาเบลล์จนขาอ่อนลงจากเตียงไม่ได้เลยคอยดู" "มีแรงขนาดนั้นเชียว...น่ากลัวจังเลยนะคะ" "อย่าท้านะเบลล์...คนอย่างสงครามเบลล์น่าจะรู้ดีกว่าใคร" "เท่าที่รู้..ก็ไม่เท่าไหร่นิ..งั้นๆ" "หึ..งั้นคืนนี้เป็นงัย อย่าร้องขอชีวิตแล้วกัน.."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม