หรงจือหยางปรายสายตามองตามหลังจางเซา ดวงตาเพ่งมองถุงของฝากอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนว่าจะไม่มีของของเขา ชายหนุ่มแค่นเสียงใส่ตนเอง ไม่ใช่เด็กเสียหน่อยเรื่องแบบนี้นำมาใส่ใจทำไม เขาระงับความคิดหันไปถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงห่วงใย “จะไปพักก่อนไหม ตอนเย็นผมจะไปรับ” ม่านเวยอิงไม่รู้สึกเหนื่อย เธอสนใจสิ่งที่หรงจือหยางพูดก่อนหน้ามากกว่า “ฉันว่าเราไปเริ่มบทเรียนขับเครื่องบินดีกว่า” หรงจือหยางหัวเราะร่าขึ้น “ได้สิ ผมพร้อมรับใช้ครับ” ขณะขับรถพาม่านเวยอิงไปเรียนรู้ทฤษฏีก่อน ชายหนุ่มก็หันมาพูดเรื่องเมื่อสักครู่ “ผมว่า..เด็กคนนั้นคงจะไม่มีห้องซ้อมหรือสเตริโอที่ดีเท่าไร คงจะจับกลุ่มกันหาเช่าห้องซ้อมไปวัน ๆ” ม่านเวยอิงคิดตาม “แบบนี้เมื่อไรฉันจะได้ดูคอนเสิร์ตเสียทีล่ะ” “ให้ผมจัดการให้ไหมครับ” “ก็ดีค่ะ...จะได้ไม่มีข้ออ้าง ฉันก็อยากเห็นความสามารถของเขาเหมือนกัน” หรงจือหยางยิ้มอ่อนโยน เขาบอกแล้วม่านเวยอ