“คุณ...รู้ตั้งแต่เมื่อไร” แม้กลิ่นอายหญิงสาวจะเปลี่ยนเป็นเย็นชาทว่าหรงจือหยางก็ไม่ได้หวาดกลัว เขาเอื้อมมือปิดม่านกั้นระหว่างห้องโดยสาร แล้วตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ช่วงเที่ยงวันนี้เองครับ” “นายก็รู้ว่า..ฉันสามารถลอบสังหารนายได้เช่นกัน...การรู้มากอันตราย” หรงจือยังคงนิ่งสงบ “ลางสังหรณ์บอกว่า...คุณไม่ทำร้ายผม...” คุณช่วยผมตั้งหลายครั้งจะทำร้ายผมไปทำไมกัน ม่านเวยอิงคายสีหน้าจอมปลอมออก เอนกายพิงเบาะรถ ยกขาขึ้นไขว้ หากมีบุหรี่เธอคงยกสูบพ่นให้หน้าชายหนุ่ม เธอปรายสายตายิ้มมุมปากเอ่ยน้ำเสียงเย้ยหยันเช่นเคย “ช่างมั่นใจเหลือเกินนะ” “ผมหวังว่าคุณม่านจะเมตตา” หากบอดี้การ์ดได้เห็นท่าทีระมัดระวังของหรงจือหยาง คงไม่เพียงตากระตุกมือสั่น อาจจะเป็นลมช๊อคไม่เชื่อสายตาตัวเอง ส่วนม่านเวยอิงเห็นท่าทางอ่อนน้อมของชายหนุ่มบวกกับตอนนี้คล้ายว่าจะพอใจการกระทำของอีกฝ่ายอยู่บ้าง จึงทำทีแค่นเสียงพูดขึ้น