“ไม่ชอบสบาย ชอบลำบากหรือไง อยู่ที่นี่พรีมก็สบายดีไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย เฮียเลี้ยงพรีมได้อยู่แล้ว” เธอชอบที่เขาเรียกชื่อเล่นของเธอและแทนตัวเองว่าเฮียเสมอ พริมายิ้มให้เขา ถึงแม้ว่าในอนาคตข้างหน้า เถื่อนจะไม่ปรารถนาเธออีก แต่เธอก็ซาบซึ้งในบุญคุณของเขาตลอดไป หากไม่มีเขาเธอคงเรียนไม่จบ เพราะค่าเทอมที่ค่อนข้างสูงและการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็ค่อนข้างหนักพอสมควร
“สบายเกินไปเดี๋ยวพรีมจะเป็นง่อยเอานะคะ พรีมอยากทำงาน อยากใช้ความสามารถที่เรียนมาน่ะค่ะ เฮียอนุญาตให้พรีมไปทำงานนะคะ”
“อยู่ที่นี่ก็มีงานทำ”
“ทำอะไรคะ”
“ก็ทำอยู่ทุกวัน แล้วก็ดูแลบ้านทำอาหารให้เฮียกิน”
“แบบนั้นไม่เรียกว่างานนะคะ เรียกว่าดูแลกันเฉย ๆ ถ้าพรีมเป็นภรรยาของเฮีย ก็น่าจะอยู่แบบนั้นได้ แต่นี่พรีมไม่ใช่” ที่เธอพูดแบบนี้เพราะอยากให้เขาชัดเจนกันไปเลยว่าจะเลี้ยงดูเธอในฐานะภรรยา ไม่จดทะเบียนสมรสก็ได้เธอไม่เคยอยากได้กระดาษแผ่นนั้นหรือทรัพย์สินอะไรจากเขา แต่เธออยากได้หัวใจรักของเขา
อยากให้เขายกย่องเป็นภรรยาไม่ใช่ผู้หญิงในความลับที่เขาไม่เคยคิดอยากเปิดเผย หรือเข้าใจว่าเป็นแค่เพียงนางบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
“อยากจะทำงานให้ได้เลยใช่ไหม” เขาเลี่ยงที่จะพูดหัวข้อที่เธอพูด พริมากัดปากเล็กน้อย เขาไม่อยากมีครอบครัว ในขณะที่เธออยากมีผู้ชายที่ดีเหมือนบิดามาเป็นผู้นำครอบครัว เป็นสามีเป็นพ่อของลูก แต่เขาต้องการแค่ผู้หญิงนอนร่วมเตียงและไม่มีพันธะผูกพัน
พริมารู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ อาจเพราะว่าเธอรักเขาจนหมดใจแล้วนั่นเอง
“ใช่ค่ะอยากทำงาน” เธอยิ้มให้เขา พลางตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ แม้หัวใจจะตรอมตรมเพียงใด ใจก็อยากให้เขารั้งเธอเอาไว้ แต่เธออยากมีค่ามากกว่าการถูกรั้งให้เป็นแค่คู่นอน
“แล้วจะทำงานที่ไหน มีบริษัทไหนรับพรีมเข้าทำงานแล้วเหรอ” เป็นคำถามง่าย ๆ แต่เธอก็อบอุ่นใจทุกครั้งที่เขายังใส่ใจที่จะถามมันออกมา
“ก่อนเรียนจบพรีมลองยื่นใบสมัครเอาไว้หลายที่น่ะค่ะ แล้วเขาก็เรียกตัวแล้วค่ะ” เธอเอ่ยบอกเขา
“ยื่นใบสมัครงานเอาไว้แล้วนี่เอง ไม่เห็นบอกเฮียเลย”
“ก็พรีมเห็นว่าเฮียยุ่ง ๆ น่ะค่ะ”
“จะไปทำงานก็ไปเถอะ เฮียไม่บังคับอะไรพรีมหรอก แต่ห้ามให้ใครจีบนะ”
“หวงพรีมเหรอคะ”
“ในเมื่อพรีมยังเป็นผู้หญิงของเฮียอยู่ ก็ห้ามไปยุ่งกับคนอื่น พรีมก็รู้ว่าเฮียไม่ชอบ” ประโยคของเขาทำให้เธอใจแป้วไปเลย คิดว่าเขาจะหวงเธอแบบคนรัก ไม่ใช่หรอก เธอแค่ยังเป็นผู้หญิงของเขา เขาจึงไม่ชอบใช้ผู้หญิงร่วมกันกับใครก็แค่นั้นเอง
“พรีมก็รู้ดีว่าเฮียไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของเฮีย” เธอคือสิ่งของเป็นของที่เขายังต้องการ ก็แค่ในตอนนี้เท่านั้น พริมาเฝ้าบอกตัวเอง
ร่างกายของเธอเป็นของเขา หัวใจของเธอเป็นของเขา แต่ร่างกายและหัวใจของเขาไม่ใช่ของเธอ
“ก่อนไปทำงานต้องจัดหนักให้เฮียก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้ไป” เขาวางมือทาบทับบนมือนุ่มของเธอ พริมาช้อนสายตาขึ้นมองเขา หัวใจของเธอสั่นสะท้านหวั่นไหว รู้ว่าคืนนี้เธอต้องจัดหนัก จนแทบคลานลงจากเตียง เขาถึงจะปล่อยเธอไป
ค่ำคืนอันแสนยาวนาน พริมาครวญครางไม่เป็นส่ำอยู่ใต้ร่างหนา เธอดันหน้าท้องแกร่งของเขาเอาไว้ ก่อนจะร่ำร้องเสียงสั่นระริก
“เฮียคะ พอก่อนค่ะ พรีมเมื่อยก้นไปหมดแล้ว”
“ก็พรีมอยากไปทำงานก็ต้องจัดเต็ม” เธออยากได้ในสิ่งที่ต้องการก็ต้องแลกกับสิ่งที่เขาปรารถนา คนเอาแต่ใจช้อนสะโพกของเธอขึ้นมาหา ก่อนจะจับขาของเธอพาดไปกับบ่า ท่วงท่านั้นทำให้เธอต้องเผยอสะโพกผายขึ้นมาแล้วเป็นเป้าให้เขากระแทกกายเข้าหาซอกทางรักอย่างรุกเร้ารุนแรง ความหยาดเยิ้มที่เกิดขึ้นทำให้กายชายวิ่งเข้าวิ่งออกในร่องสวาทได้อย่างล้ำลึกมิดเม้น ร่างกายของเธอกับเขาเชื่อมประสานกันอย่างลงล็อก ร่างกายของเธอสั่นระริก เสร็จสมครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอหวีดร้องก่อนจะครางประท้วงด้วยความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เฮียคะ พอก่อนพรีมเหนื่อย”
“เหนื่อยอย่างเดียวเหรอ”
“สะ... เสียวด้วยค่ะ เสียวร่อง” เธอพูดออกไปเสียงหอบ ๆ แต่แทนที่เขาจะปล่อยกลับกระแทกกระทั้นหนักหน่วงขึ้นจนเธอต้องหวีดร้องเกร็งสะท้านอีกครั้ง
หยาดความรักไหลรินก่อนที่เขาจะขยำสะโพกงอนงามของเธอเอาไว้เต็มมือ แล้วสอดกายเข้าออกระรัวเพื่อพาเธอไปถึงจุดหมายปลายทางสวาทอย่างรุนแรง
ใบหน้าของเถื่อนเกร็งกระตุก ก่อนที่จะสุขสมอารมณ์หมาย ซวนซบอกของเธอด้วยอาการสะท้าน
เธอกอดรัดร่างชื้นเหงื่อของเขาแน่น ซึมซับความรู้สึกที่ได้อยู่ด้วยกันเอาไว้ให้มากที่สุด
รุ่งเช้าของวันใหม่ เถื่อนขับรถมาส่งพริมาที่คอนโดฯ ส่วนตัวที่เขาซื้อให้เธอในตัวเมือง ที่นี่คือบ้านหลังแรกของเธอที่เป็นชื่อของเธอเอง พริมามีความสุขเสมอที่ได้จัดห้องใหม่ เปลี่ยนผ้าปูเตียง ผ้าม่าน และทำความสะอาดห้องของเธอให้เอี่ยมอยู่เสมอ
“อย่าให้เฮียรู้ว่าพาหนุ่ม ๆ มาที่คอนโดนะไม่งั้นเฮียจัดการมันแน่” คิดขี้หวงเอ่ยเตือน