​​​​​​​ทำไมไม่ขายให้ฉัน

1011 คำ
เพลงขวัญรู้สึกเหมือนกับว่าสวรรค์กำลังกลั่นแกล้ง เธอเพิ่งเสียยายไปไม่ถึง 10 วันแล้วยังต้องมารับรู้อีกว่าตนเองนั้นเป็นหนี้เขาอยู่ถึงสองล้านนี่ยังไม่นับรวมเงินค่าใช้จ่ายที่เขาโอนให้ทุกเดือน หญิงสาวคิดมาตลอดว่าเงินที่ยายส่งให้ในแต่ละเดือนนั้นเป็นเงินที่บิดาและมารดาทิ้งไว้ให้ ในเมื่อทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วเพลงขวัญก็คิดว่าเธอควรจะเลิกเรียนออกมาหางานทำเพราะดีกว่า “นายหัวคะหนูขออยู่ที่บ้านต่อได้ไหม ส่วนเงินที่ติดหนี้หนูจะหามาคืนให้” “แล้วเธอคิดว่าเงินมากขนาดนั้นจะมาจากไหนล่ะ เธอยังเรียนอยู่นะเพลงขวัญ” “หนูจะเลิกเรียนแล้วไปหางานทำ” “แต่ยายเธอสั่งไว้ว่ายังไงฉันก็ต้องช่วยส่งเธอให้เธอเรียนจนจบ” “แต่ยายมาอยู่แล้วนี่คะ หนูมีสิทธิ์ตัดสินใจเองว่าจะเรียนหรือไม่เรียน” “คนที่เขาเรียนจบสูงๆ บางครั้งก็ยังหางานยากเลย แล้วเธอคิดว่าเขาจะจ้างคนที่เรียนไม่จบอย่างเธอเหรอ” “นายหัวอยู่แต่ในสวนในป่าจะรู้อะไร งานบางอย่างเขาก็ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาหรอกนะ เขาดูที่ความสามารถ” “แล้วเธอมีความสามารถอะไร ถึงจะงานได้กัน” “ถึงหนูยังเรียนไม่จบแต่หนูก็ใช้ภาษาได้ดี หนูจะไปทำงานบนเรือสำราญกับรุ่นพี่” เพราะเธอรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่งเรียนอยู่ปีสาม เขาดร็อปเรียนเพื่อไปทำงานที่ร้านสปาบนเรือสำราญ เงินเดือนและค่าคอมมิชชันที่ได้ในแต่ละเดือนก็แสนกว่าบาท ถ้าเธอได้ไปทำงานบนเรือเหมือนรุ่นพี่ก็คงปลดหนี้ได้ไม่ยาก “กว่าจะได้ไปมันไม่ใช่ง่ายๆ นะ เพลงขวัญเธอต้องเรียนก่อนเขาถึงจะให้ไป” “หนูรู้เรียนแค่เดือนเดียวเอง” “แล้วเธอคิดว่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อคอร์สเรียน” คำถามของนายหัวอารัณย์ทำเธอนิ่งเพราะเงินเก็บที่มีอยู่ก็เหลือไม่ถึงสองหมื่นแล้วเธอจะไปหาเงินที่ไหน ถึงแม้ช่วงปิดเทอมเธอจะรับแปลนิยายและพิสูจน์อักษรแต่รายได้ก็ไม่คงที่ ถ้าต้องเสียค่าเรียนอีกหลายหมื่นก็คงอีกนานกว่าจะเก็บเงินครบ “หนูจะไปทำงานกับเจ๊อ้อย” “ฉันไม่คิดเลยว่าเด็กอย่างเธอจะคิดอะไรตื้นๆ แบบนั้น ถ้ายายเธอรู้ก็คงเสียใจมาก “หนูว่ายายคงเข้าใจ คนเราก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น” “ฉันว่ามันมักง่ายเกินไปนะ” “ไม่ได้มักง่ายเลยเขาเรียกใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์ไงล่ะ หนูรู้ว่าเด็กที่ร้านเจ๊อ้อยแต่ละคนนั้นได้เงินคืนหนึ่งเยอะแค่ไหน” เจ๊อ้อยที่ทั้งสองคนพูดถึงคือเจ้าของร้านคาราโอเกะในตัวอำเภอที่หน้าร้านเปิดให้กินเหล้าร้องเพลงแต่ก็มีเด็กสาวๆ ไว้คอยบริการบรรดาผู้ชายที่รักสนุกด้วย “ถ้าอยากจะขายตัวมากนักทำไมไม่ขายให้ฉันล่ะ” “นายหัวบอกเองว่าไม่ชอบเด็ก แล้วอีกอย่างขายให้นายหัวก็ได้แค่เงินจากนายหัวคนเดียว แต่ไปที่ร้านเจ๊อ้อยหนูจะได้เงินจากหลายๆ คน” “เธอพูดออกมาไม่อายปากเลยนะเพลงขวัญ” “นายหัวไม่เคยได้ยินเหรอคะ ว่าด้านได้อายอด” เพลงขวัญไม่คิดจะไปทำงานแบบนั้นเพียงแต่เธอเห็นว่าเขาห้ามก็อยากจะยั่วให้เขาโมโหเล่นๆ เพราะ “ฉันจะยกหนี้ให้ทั้งหมดแล้วก็คืนบ้านกับที่ดินให้ด้วย” “แลกกับอะไร อย่าบอกนะคะว่านายหัวจะกลืนน้ำลายตัวเองแล้วอยากจะได้หนูเป็นเมีย” “ใครจะอยากได้เด็กอย่างเธอเป็นเมียกัน” “แล้วเพราะอะไรล่ะคะ” “เพราะฉันรับปากยายเธอไว้ว่าจะดูแลเธอจนกว่าเรียนจบ เงินแค่นั้นมันไม่ได้มากมายอะไรเลยแล้วบ้านของเธอกับที่ของเธอมันก็มีไม่ถึงไร่ฉันจะเอาไปทำไมล่ะ” “แต่หนูไม่อยากรับของใครฟรีๆ” “ถ้าเธอเรียนจบก็ค่อยหาเงินมาจ่ายให้ฉันก็ได้” “หนูขอคิดดูก่อน” “ได้สิ ฉันให้เวลาเธอคิด” “นายหัวจะไม่ไล่หนูออกจากบ้านใช่ไหม” “อือ จะให้เธออยู่ต่อ แต่เธอนั่นแหละจะกล้าอยู่ต่อไหม” “นั่นมันบ้านของหนูทำไมหนูจะไม่กล้า” “ฉันรู้ว่าเธอเก่ง แต่ก็อย่าลืมนะว่าแถวนี้พวกผู้ชายมันเยอะ แล้วขาวๆ อวบๆ อย่างเธอมันก็เป็นพิมพ์นิยมเสียด้วยสิ จะเข้าออกบ้านไปมาไหนก็ระวังด้วยเวลานอนก็ปิดประตูหน้าต่างให้ดี” “นายหัวไม่ต้องมาขู่หนูหรอกค่ะ หนูนอนคนเดียวมาตั้งหลายคืนแล้วไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเลย” “เพราะทุกคนคิดว่าเธอกลับกรุงเทพไปแล้ว แต่วันนี้เธอไปที่ตลาดแถมยังคุยกับป้านงค์ด้วย ฉันว่าป่านนี้พวกผู้ชายก็คงรู้กันหมดแล้วว่าเธอยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น” “นายหัวจะพูดให้หนูกลัวแล้วให้หนูมาขอนายหัวอยู่ที่นี่ใช่ไหม อย่าคิดว่าหนูรู้ไม่ทัน” “ฉันอยู่คนเดียวก็สบายดีแล้ว ฉันจะอยากให้เธอมาอยู่ด้วยทำไมล่ะ” “ไม่รู้สิ นายหัวอาจจะกำลังคิดไม่ซื่อกับหนูก็ได้” “ฉันเหนื่อยจะพูดกับเธอแล้วนะเพลงขวัญ แล้วแต่เธอละกันว่าจะเอายังไง” “หนูก็เหนื่อยเหมือนกัน งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” “อือ ก่อนกลับกรุงเทพแวะมาหาหาฉันด้วย” เขาสั่งตามหลัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม