ในยามเด็กจ้าวซ่งโหยหาอ้อมกอดเช่นนี้จากผู้เป็นมารดามาตลอด อย่าว่าแต่อ้อมกอดจากนางถิงซื่อ แม้แต่จะเข้าใกล้นาง นางยังแทบจะหาไม้ไล่ตีเขาเลย “เจ้าเล่าเรื่องราวของเจ้าให้แม่ฟังได้หรือไม่” สวีซื่อลูบใบหน้าของจ้าวซ่งอย่างรักใคร่ “เอ่อ...ท่านอย่าได้ฟังเลยขอรับ เรื่องของข้าไม่ค่อยจะดีสักเท่าใด หากท่านยิ่งฟังอาจจะยิ่งปวดใจ แต่ยามนี้ชีวิตข้าดีขึ้นแล้ว ยิ่งได้พบผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงตัวข้าก็ไม่ขออันใดอีกแล้ว” เขาจะกล้าเล่าได้อย่างไรว่ามีชีวิตเช่นไรมาตั้งแต่เด็ก นางสวีซื่อคงได้ปวดใจมากกว่าเดิมอีกเป็นแน่ “ใช่แล้ว อาซิน เรื่องที่แล้วไปแล้วก็ช่างเถิด อย่าได้ถามหาความทุกข์อีกเลย” จ้าวตงจิ้นเอ่ยออกมาอีกคน “ข้าอยากจะรู้เรื่องในวัยเยาว์ของอาซ่งท่านพี่” นางยังคงดื้อรั้นไม่เลิก “ท่านย่า เช่นนั้นท่านเลี้ยงน้องรองกับน้องเล็กของข้าแทนก็ได้เจ้าค่ะ เขาเหมือนท่านพ่อยามเยาว์วัยยิ่งนัก ท่านแม่ของข้าก็พูดเช่นนี้” หร