หัสวีร์ไม่เห็นคุณเลขาฯ อยู่ที่โต๊ะทำงานอีกเลย หลังจากพาเขาทัวร์โรงแรมตั้งแต่แผนกต้อนรับส่วนหน้าไปจนถึงห้องซักรีด หัสวีร์ไม่เคยรับบทผู้บริหารมาก่อนจึงไม่รู้ว่าการที่เธอลุกหายไปโดยไม่แจ้งเจ้านายเป็นเรื่องปกติหรือไม่
รู้แต่ว่าในสายตาเขาเธอเป็นเลขาฯ ที่ทั้งหยิ่งและเย็นชา ปั้นหน้านิ่งใส่จนนึกว่าเกลียดกันแต่ชาติปางไหน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเจ้านาย แม้ไม่มีประสบการณ์ด้านการบริหารแต่อย่างน้อยเธอก็ควรเคารพยำเกรงกันบ้าง
“วันนี้น้องชมพูสวยแจ่มเป็นพิเศษเลยว่ะ”
“ของกูมึงอย่ายุ่ง”
เสียงผู้ชายสองคนดังลอดออกมาจากห้องจัดเลี้ยง ส่งผลให้ปลายเท้าของผู้จัดการหนุ่มชะงักกึก หัสวีร์ร่นถอยมาหนึ่งก้าว พลางเอนศีรษะแนบข้างประตู
“กูก็แค่ชมมะ เห็นวันนี้ดูสวยแปลกตากว่าทุกวันก็แค่นั้น ไม่ได้แย่งจีบซะหน่อย ว่าแต่จนป่านนี้แล้วเขายอมคบกับมึงหรือยังล่ะครับคุณเจมส์”
“ยังอะดิ แต่ช่วงนี้คุณเขาก็ตอบแชทกูบ่อยขึ้นแล้วนะ ก่อนหน้านี้ทักไปไม่ค่อยตอบ อ้างว่ายุ่งกับลูกตลอดเลย”
“รักเขาก็ต้องรักลูกเขาด้วยนะ”
“รู้แล้วน่า”
ลูกเหรอ? หัสวีร์นึกถึงรูปโปรไฟล์ใน Line ของเลขาฯ ซึ่งเมื่อวานก่อนกดโทร.ออกเขาขยายดูภาพของเธอซึ่งถ่ายคู่กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก หัสวีร์เดาว่าคงเป็นเด็กสักคนบนโลกใบนี้ที่เธอเอ็นดู ไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่านั่นคือลูกของเธอเอง แต่พอมาเช้านี้รูปโปรไฟล์ของเลขาฯ ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นรูปหมาโกลเด้นหน้ายิ้มแทน
“อ้าว จีเอ็มสวัสดีครับ” พนักงานหนุ่มที่เข้าไปเช็กอุปกรณ์ในห้องจัดเลี้ยงพากันออกมาพลางยกมือไหว้ผู้จัดการ
“สวัสดีครับ คุณสองคนอยู่แผนกอะไรกันเหรอครับ”
“ฝ่ายไอทีครับ จีเอ็มมีอะไรจะใช้พวกผมหรือเปล่าครับ” ผู้ชายที่หัสวีร์แอบฟังจนรู้ว่ากำลังจีบคุณเลขาฯ เป็นคนตอบ
หน้าตาก็งั้นๆ พอไปวัดไปวาได้ หัสวีร์ลงความเห็นอย่างเอนเอียง ก่อนคลี่ยิ้มส่ายหน้า
“ไม่มีครับ เชิญตามสบายเลย”
พนักงานชายสองคนจากแผนกไอทีค้อมศีรษะนอบน้อม ก่อนตรงไปยังบันไดที่ทอดสู่ชั้นล่างของของล็อบบี้ และเป็นจังหวะเดียวกับประตูลิฟต์ชั้นสามเปิดออกพร้อมพวงชมพูที่เดินออกมา พนักงานชายที่หัสวีร์ลงความเห็นว่าหน้าตาบ้านๆ รีบโบกมือทักทายหญิงสาวทันที
“น้องชมพูเที่ยงนี้เจอกันที่แคนทีนนะครับ”
พวงชมพูพยักหน้าเอออออย่างขอไปที ไม่อยากส่งเสียงเจื้อยแจ้วในระยะพูดคุยที่ห่างไกลกัน เลขาฯ สาวละสายตาจากเพื่อนร่วมงานที่ส่งยิ้มให้กระทั่งพวกเขาเดินลงสู่ชั้นล่าง ปลายเท้าบนส้นสูงสีขาวกำลังจะเบี่ยงไปยังโซนออฟฟิศหลังบ้าน แต่หางตารับรู้ถึงภาพผิดปกติจึงหันกลับไปมอง
จะพูดอะไรก็ไม่พูด มองด้วยสายตานิ่งขรึมแบบนั้นใครจะหยั่งถึงได้
พวงชมพูหมุนตัวกลับไปทางห้องทำงาน ไม่แม้แต่ผงกศีรษะหรือส่งยิ้มให้เจ้านายที่มองขึ้นมาจากชั้นสอง หัสวีร์เหลือเชื่อกับมารยาทของลูกน้อง นี่ถ้าไม่ใช่เธอเขาจะปลดออกทันทีทันใดเลย
“เดี๋ยวก่อนคุณชมพู” เสียงเข้มเปล่งเรียก พวงชมพูอยู่ในระยะที่ยังได้ยิน เธอจึงชะลออยู่ที่เดิมไม่คิดเดินไปหา จนเขาเข่นเขี้ยวหงุดหงิดและเป็นฝ่ายเดินมาแทน
“มีอะไรเหรอคะ”
“คุณล่ะหายไปไหนมา”
“เอาเอกสารไปให้แผนก Sale ค่ะ เมื่อกี้ผ่านหน้า Front เห็นแขกเยอะก็เลยไปช่วยเช็กอินค่ะ”
“ผมเข้าใจว่าทำอะไรได้ก็ช่วยๆ กัน แต่งานของคุณคือเป็นผู้ช่วยผมไม่ใช่เหรอ ไม่ทราบว่าหน้าที่โดยตรงของคุณเรียบร้อยดีแล้วเหรอ”
“ก็เรียบร้อยแล้วนะคะ จีเอ็มมีงานอะไรจะใช้เหรอคะ”
คุณทั้งห้วนทั้งทำตัวน่าหมั่นไส้กับผมแบบนี้ อยากให้ผมไล่ออกนักใช่ไหม
หัสวีร์ส่งคำถามที่ดังเพียงในใจ หากเอื้อนเอ่ยออกเสียงเธอคงพยักหน้าตอบรับอย่างไวว่อง อย่าคิดว่าเขาไม่ได้ยินที่เธอกระซิบกับเพียงเพ็ญในห้องประชุมเมื่อวาน และที่ทำตัวไม่แคร์เจ้านายแบบนี้เพราะกำลังยั่วให้โดนปลดล่ะสิ
“ถ้าจีเอ็มไม่มีอะไรงั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ก็เขาเอาแต่เงียบปั้นหน้าดุคิ้วขมวด พวงชมพูจึงไม่อยู่รอรับโอวาท
ร่างบางออกเดินได้เพียงครึ่งก้าวก็ถูกมือหนาคว้าหมับ แววตาตกใจเหลือบมองการถือวิสาสะที่ข้อมือ ก่อนเลื่อนขึ้นมองหน้าเขา
“มองกันขนาดนี้ไม่ด่าผมเลยล่ะ”
“ด่าทำไมคะ คุณเป็นเจ้านายนี่”
หัสวีร์ขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ มาดหล่อนนิ่งๆ แต่ยียวนกวนเก่งเอาเรื่อง “คุณเห็นผมเป็นเจ้านายด้วยเหรอ กริยาแต่ละอย่างที่คุณแสดงกับผมมันดูเหมือนคุณไม่เคารพ ไม่ยำเกรงกันสักนิด ทำไมเหรอครับ เกลียดผมเหรอ เพราะเรื่องเมื่อวานที่ผมว่าคุณในที่ประชุมใช่มั้ย”
ไม่ต้องมีสาเหตุหรอกค่ะ แค่เห็นหน้าคุณก็รู้สึกเกลียดแล้ว
พวงชมพูแกะห้านิ้วที่กำรอบข้อมือออก แล้วถอยห่างออกไปอีกหนึ่งก้าว “เปล่าหรอกค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจีเอ็มไม่โอเคจะร่วมงานกับดิฉันก็แล้วแต่จะพิจารณาเลยค่ะ”
นั่นไง เดาผิดเสียที่ไหน ท้าทายให้ไล่ออกเองด้วย คงเกลียดกันเข้าไส้เลยสินะ
“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ ผมไม่ชอบตัดโอกาสใคร จริงๆ ผมมีเรื่องจะวานคุณหน่อย”
“อะไรเหรอคะ”
“พอดีผมคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงให้พนักงานเนื่องในโอกาสที่ผมมารับตำแหน่ง คิดว่าจะใช้ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม คุณเช็กให้ทีว่าว่างเร็วที่สุดคือวันไหน”
“ได้ค่ะ”
“แล้วเมื่อกี้น่ะแฟนคุณเหรอ” หางตาที่เหล่ลงไปด้านล่างเช่นนั้นพวงชมพูเข้าใจได้ทันทีว่าหมายถึงใคร ใช่สินะ เมื่อกี้เขาก็อยู่ตรงนี้ด้วยนี่นา
“พี่เจมส์เหรอคะ”
“อือ”
“เปล่าค่ะ”
“ก็ดี ผมไม่ชอบให้มีเรื่องชู้สาวในที่ทำงาน”
“แปลว่าคบคนในที่ทำงานไม่ได้เหรอคะ”
“ก็ไม่เชิง พิจารณาเป็นกรณีไป” หัสวีร์จบคำพูดห้วนๆ ไม่มีคำสั่งใดปิดท้าย และผละจากหญิงสาวเข้าไปในลิฟต์ กดหมายเลขขึ้นไปชั้นบนอันเป็นห้องพักส่วนตัวของตน พวงชมพูถอนหายใจแรงขณะมองตามลิฟต์ที่เคลื่อนตัวจากไปแล้ว
“ทำไมไม่ไล่ออก ไม่ได้อยากได้โอกาสซะหน่อย”