เพราะเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานคนเลยมากกว่าทุกวัน กว่าทั้งสองคนจะหาที่จอดรถได้ก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง
พาลินเกรงใจดลธรรมมากที่ทำให้ต้องลำบาก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ออกอาการหงุดหงิดให้เห็นเลยสักนิด
“ขอโทษนะครับพี่โดม ผมทำพี่ลำบากเลย”
“ลำบากยังไง”
“ก็ลำบากที่ต้องวนหาที่จอดรถไงครับ”
“ไม่ใช่ความผิดของเรานี่ มางานแบบนี้ก็ต้องเผื่อใจไว้บ้าง แต่เราก็ยังโชคดีที่ได้ที่จอด ต้องขอบคุณเรามากกว่าที่ตาไวเห็นว่าเขากำลังจะกลับ”
“พี่พูดอย่างกับว่าผมไปกอบกู้โลกมาเลยนะครับ”
ดลธรรมฟังแล้วก็หัวเราะ เห็นว่าพาลินไม่ทำหน้าหงอยแล้วเขาก็เบาใจ
“อยากไปบูธไหนก่อน”
“ยังไม่รู้เลยครับ แต่ผมอยากได้รถญี่ปุ่นราคาไม่แรงมากครับ”
ทั้งสองพากันมาดูแผนที่ก่อนจะเข้าไปในงานเพื่อไม่ให้เสียเวลา
“งั้นไปโซนนี้กันก่อนเลย”
“เดี๋ยวค่อยไปดูก็ได้ ไปดูรถที่พี่อยากดูก่อน”
“พี่ดูมาแล้ว”
“ตอนไหนครับ มาแล้วทำไมยังมาอีก”
“มาเสาร์ที่แล้ว แต่มาแล้วก็มาอีกได้ใครเขาห้ามกันล่ะ บางคนยังมาทุกวันเลย”
“อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว พี่มาดูพริตตี้ใช่ไหม” พาลินบอกอย่างรู้ทัน ผู้ชายก็คงไม่มีอะไรมากถ้ามาแล้วมาอีกก็คงไม่พ้นมาดูสาวสวยๆ
“พี่มาดูรถ”
“ไม่ต้องอายหรอกน่า มาดูหญิงก็บอกมาเหอะ”
“ถ้าคิดแบบนั้นแล้วสบายใจก็เอา” ดลธรรมพูดเบาๆ
“พี่โดมว่าอะไรนะ ผมไม่ได้ยิน” พาลินยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนใบหน้าแทบจะชนกับใบหน้าของอีกคน เพราะในบริเวณงานเสียงค่อนข้างจะดังเขาจึงต้องเข้ามาพูดใกล้ๆ
“เปล่า ไม่ได้ว่าอะไร ไปได้แล้วขืนช้าเดี๋ยวดูไม่ทันจะมาโทษพี่ไม่ได้นะ” ดลธรรมรีบดุนหลังให้พาลินเดินนำหน้า เพราะกลัวว่าพาลินจะเห็นอาการผิดปกติของตัวเอง
พาลินเดินมาถึงโซนของรถญี่ปุ่น เขาเดินวนอยู่หลายรอบได้โบรชัวร์มาจนเต็มมือไปหมด แต่ก็ยังตัดสินไม่ได้
“ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ค่อยๆ ดูไป ถ้าสนใจรุ่นไหนเราก็ไปดูที่โชว์รูมอีกทีจะได้ทดลองขับด้วย
“แค่ถ้าจองในงานมันจะมีส่วนลดนะพี่”
“เห็นแก่ส่วนลดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเอาที่เราชอบและเหมาะกับเราด้วย”
“ผมก็ชอบหมดแหละครับพี่”
“แล้วชอบแบบคันไหนมากเป็นพิเศษไหมล่ะ”
“ถ้าเป็นรถในฝันก็คงเป็นมินิคูเปอร์ครับ แต่ราคาสู้ไม่ไหวหรอก ก็เลยดูที่มันคล้ายๆ กันครับ”
“งั้นยี่ห้อนี้ก็น่าสนนะ แต่งคล้ายมินิเลย” ดลธรรมชี้ไปที่บูธถัดไปซึ่งมีรถญี่ปุ่นแต่ตกแต่งคล้ายกับมินิคูเปอร์มาก
“สวยดีครับ ผมขอไปดูใกล้ ๆ ได้ไหม” พาลินเดินตัวปลิวไปยังรถคันสีแดงที่ตกแต่งด้วนสีดำ คล้ายกับรถที่เขาบอก
ดลธรรมได้แต่เดินตามแล้วยิ้ม ดูแล้วพาลินคงชอบจริง ชายหนุ่มเข้าไปลองนั่งด้านใน และเดินวนหลายรอบจนเซลล์เดินเข้ามาถาม
“สนใจรุ่นนี่เหรอคะ ถ้าจองภายในงานเรามีโปรโมชั่นด้วยนะคะ ดาวน์ศูนย์บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมชุดตกแต่งทั้งหมดที่เห็นเลยนะคะ”
พาลินสนใจมากแต่ก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ เขามาทางดลธรรมอย่างขอความช่วยเหลือ
“พี่โดมว่าไงครับ”
“ถ้าชอบก็จองเลยสิ”
“แต่...”
“ถ้ามีคำว่าแต่ก็เดินดูรุ่นอื่นไปก่อน”
“งั้นผมไปเดินดูรุ่นอื่นก่อนดีกว่า ขอบคุณมากนะครับ เดี๋ยวผมกลับมานะ” เขาบอกกับเซลล์อย่างเกรงใจ
“พี่โดมว่าข้อเสนอโอเคไหมครับ”
“ก็น่าสนใจดี แต่ทุกบูธก็พูดแบบเดียวกันไม่ใช่เหรอ” พาลินนึกถึงแต่ละบูธที่เดินผ่านมาแล้วก็พยักหน้าเห้นด้วยกับคำพูดของคนพี่ที่เดินอยู่ข้างๆ
“ผมก็ชอบอยู่หรอกนะ แต่อยากลองขับก่อน”
“ตัดสินใจได้ดี วันไหนว่างก็บอกพี่จะพาไป”
“ไม่รบกวนหรอกครับ”
“ก็อย่าไปเวลางานสิ เสาร์อาทิตย์ก็ได้”
“พี่โดมว่างเหรอ”
“อือ ไม่ได้ไปไหน”
“ถ้าผมจะไปโชว์รูมผมจะโทรไปนัดนะครับ”
พาลินและดลธรรมเดินดูรถจนถึงเย็น ก่อนจะพากันไปทานอาหารเย็นที่ร้านประจำของดลธรรมที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด
ระหว่างรออาหารพาลินก็นั่งเล่นมือถือไปด้วย เขาบอกกับเพื่อนในกลุ่มไลน์ที่มีกันสามคนว่าตัวเองไปดูรถที่งานมอเตอร์โชว์มาและส่งรูปรถที่ตัวเองชอบรวมถึงรูปที่เขาเซลฟี่ไปให้เพื่อน โดยลืมไปว่าด้านหลังของเขานั้นเป็นดลธรรมเดินตามเขาไปทุกที่
Meena : ไปกับใครอะ???
P.Rung ^_^ : นั่นสิ ไม่ใช่พี่กันต์
น้าชายของลูกศิษย์ : Palin
Meena : ยังไงน้าชายของลูกศิษย์
P.Rung ^_^ : ลินมีอะไรที่เราสองคนไม่รู้บอกมา
ไม่สะดวกคุย กลับไปเดี๋ยวคอลกัน : Palin
พาลินรีบเก็บมือถือลงกระเป๋าเมื่ออาหารมาเสิร์ฟเพราะหิวมากทั้งสองคนจึงแทบจะไม่ได้คุยกันระหว่างทานอาหารเลยสักคำ
“อร่อยใช่ไหม” พอเห็นว่าคนตัวเล็กทานข้าวจานที่สองหมดดลธรรมก็ถาม
“ครับ อร่อยด้วยหิวด้วยผมไม่เคยกินข้าวสองจานแบบนี้มาก่อนเลย”
“อะไรที่ไม่เคยก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้”
“นั่นสิครับ”
“สั่งเพิ่มไหม ของหวานก็มีนะ เอาไหม”
“ไม่ดีกว่าแค่นี้ก็อิ่มจนจุกแล้ว ให้ผมเลี้ยงนะ”
“โชว์ป๋าตลอดเลย เงินเดือนจะเหลือไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็เคยบอกแล้วทำงานก็แค่ไม่อยากอยู่ว่างๆ”
“อือ งั้นมือนี้พาลินจ่าย เอาไว้มื้อต่อไปพี่จ่ายตกลงไหม” ดลธรรมไม่อยากคนอายุน้อยกว่าจ่ายค่าอาหาร แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีมื้อต่อไประหว่างเขากับพาลินอีกไหม
“กลับเลยไหม ง่วงหรือยัง”
“ยังครับ เมื่อวานนอนไปเยอะ พี่โดมมีธุระไปไหนหรือเปล่า”
“ไม่มีนะ เราล่ะ อยากไปไหนต่อไหม”
“ไม่ครับ กลับหอเลยก็ได้พี่ก็จะได้รีบกลับไปพัก”
พาลินเดินตามดลธรรมออกมาระหว่างทางไปที่จอดรถขาของเขาก็ก้าวแทบไม่ออกเมื่อเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังลงจากรถและเดินตรงมาทางที่เขายืนอยู่
“อ้าว น้องลิน ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ พี่ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อวานเราต้องมาเห็นภาพอะไรแบบนั้น” อรณิชาพูดอย่างไม่อายเลยสักนิด
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวก่อน”
“พาลินมากับใคร” กันต์ธีร์มองผู้ชายหน้าหล่อตัวโตที่พาลินยืนชิดอย่างสงสัย
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” พาลินไม่ตอบ แต่เขารีบเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนที่ขายาวกว่าอย่างดลธรรมเดินตามแทบไม่ทัน
พอเข้ามาในรถดลธรรมก็ไม่ได้ถามอะไร เขาขับออกมาจากจากบริเวณร้านก่อนจะมาจอดลงข้างทาง
“จอดทำไมครับยังไม่ถึงเลย”
“อยากเล่าไหม” เขาพอจะเดาออกแล้วว่าเมื่อวานพาลินไปเจออะไรมา แต่ก็อยากฟังจากปากของชายหนุ่มอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะอยากรู้แต่เพราะคิดว่าถ้าได้พูดออกมามันคงดีกว่าทนเก็บไว้คนเดียว
“ครับ”
แล้วพาลินก็เล่าเรื่องที่เข้าไปเจอเมื่อวานให้กับดลธรรมฟัง เหตุผลที่เมื่อวานไม่เล่ารายละเอียดเพราะไม่อยากให้อรณิชาเสียหาย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่คิดอย่างนั้น เพราะวันนี้เธอก็เป็นคนพูดเรื่องนั้นเอง
“อยากร้องก็ร้อง พี่อยู่ตรงนี้”
“ไม่แล้วครับ”
พาลินดูเข้มแข็งขึ้นมากจากวันแรกที่ร้องไห้จนหลับ
“พี่โดมครับ ผมแค่สงสัย”
“สงสัยอะไร”
“ความรักระหว่างผู้ชายมันจบไม่สวยแบบนี้ทุกคู่ไหม”
“พาลินฟังพี่นะครับ ความรักไม่ว่าจะเพศไหนถ้าจริงใจต่อกันซื่อสัตย์ต่อกันมันไม่มีทางจบลงแบบนี้ อย่าดูถูกความรักของตัวเอง”
“ความรักของผมมันไม่มีค่าพอสำหรับเขาเลยสักนิด”
“ในเมื่อเขาไม่เห็นค่า แล้วเราจะไปให้ค่าเขาทำไม”
“นั่นสิครับ ผมสบายใจขึ้นมากที่ได้คุยกับพี่”
“พี่ก็ดีใจที่เราเล่าเรื่องให้พี่ฟัง พี่ยินดีเป็นผู้รับฟังที่ดีเสมอ”
“ขอบคุณนะครับพี่โดม” ในเวลาที่รู้สึกโดดเดี่ยวพาลินก็ดีใจที่มีดลธรรมอยู่ใกล้ๆ เขาเปรียบเหมือนพี่ชายที่พาลินไม่เคยมีมาก่อน
“สบายใจแล้วก็กลับหอกันดีไหมจะได้พัก พรุ่งนี้ต้องทำงานหรือเปล่า”
“ทำครับ”
“อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเบจิงด้วยนะ”
“ไม่ลืมหรอกครับ ถึงจะเสียใจกับความรักมากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง จากนี้ผมจะเป็นพาลินคนใหม่ครับ เรื่องที่ผ่านมาผมจะถือว่ามันเป็นประสบการณ์แม้จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งผมก็เคยมีความรัก”
ดลธรรมพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อเห็นอีกคนเข้มแข็งขึ้นมากเขาก็เบาใจ ชายหนุ่มขับรถมาส่งพาลินที่หอและรอให้เขาโบกมือส่งสัญญาณอย่างเคย ดลธรรมแอบหวังว่าวันหนึ่งเมื่อพาลินเปิดใจอีกครั้ง ตัวเองจะได้เป็นคนแรกที่พาลินนึกถึง