เมาฉลองโสด3

884 คำ
“หล่ออะ สเปกเลย” โมฬีมองผู้ชายตรงหน้าไม่วางตา มือก็สะกิดเพื่อนรักยิกๆ รดิศปรายตามองคนพูดที่อยู่ในมุมมืดแสงสลัว ก่อนจะรีบเดินออกมาเร็วปร๋อ เขาไม่ใคร่ดีใจกับคำชมของเจ้าหล่อนนัก เพราะเคยชินกับเรื่องแบบนี้มานักต่อนักแล้ว อีกอย่างเขาไม่กระตือรือร้นอยากจะทำความรู้จักหรือสานสัมพันธ์กับผู้หญิงขี้เมา เพราะนอกจากจะยุ่งวุ่นวายจนน่ารำคาญแล้ว กลิ่นของเจ้าหล่อนยังไม่น่าพิสมัยอีกต่างหาก บางรายแย่ถึงขั้นอาเจียนไม่เป็นที่เป็นทางเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มไม่ได้สนใจก็ก้าวขายาวๆ ตรงไปยังที่นั่งด้านในซึ่งเพื่อนฝูงจับจองอยู่ ผิดกับโมฬีที่นั่งพึมพำอะไรบางอย่าง “ทำไมรู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ” “ใคร?” จารวีที่หัวทิ่มแหมะอยู่บนเบาะค่อยๆ ตะกายตัวลุกนั่ง เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “นู่นไง ผู้ชายเสื้อเชิ้ตขาวที่นั่งอยู่โต๊ะในสุด” จารวีหรี่ตาเพ่งมองตามที่โมฬีพยักพเยิดชี้นิ้วให้ดู เห็นหนุ่มสาวหลายคนร่วมวงก๊งเหล้ากันอยู่อย่างครื้นเครง แต่มีคนเดียวที่หล่อนรู้สึกคุ้นตาและรู้จักอยู่บ้างผิวเผิน ชายที่นั่งเหยียดแขนพิงพนักด้วยท่วงท่าสูงสง่าและดูขี้เล่นในเวลาเดียวกัน “อ๋อ... นั่นน่ะคุณเล็ก เพื่อนพี่ชายฉันเอง” “แกรู้จักเขาเหรอ” “นิดหน่อย...” รดิศ วัฒนาโภคิน หนุ่มโสดฉกรรจ์วัยสามสิบเจ็ดปี เจ้าของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารและการบันเทิงทุกแขนง ถึงจะเป็นลูกหลงคนสุดท้องของเจ้าสัวแรมกับดวงพรเมียเด็ก แต่ก็เก่งกาจมากความสามารถ รอบจัดและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล จนแย่งชิงตำแหน่งประธานผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในเครือ R & V อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) จากบรรดาพี่ชายทั้งสองของลูกเมียเก่าได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อหลายวันก่อนครอบครัวจารวีเชิญเขามาทานอาหารที่บ้าน ซ้ำยังกำชับให้หล่อนคอยดูแลเอาใจเขา ซ้ำยังเปิดทางโล่งโจ้งให้รดิศจีบหล่อนได้อย่างไม่อาย นัยว่าไหนๆ ก็ดองเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว ก็อยากจะดองเป็นครอบครัวเดียวกันด้วยเสียเลย อาหารเย็นมื้อนั้นทำให้ทั้งจารวีและรดิศอิหลักอิเหลื่อจนกลืนข้าวไม่ลงไปตามๆ กัน หลังจากวันนั้นหล่อนเลยไม่ยอมกลับบ้าน อยู่โยงที่คอนโดยาวๆ เพราะไม่ชอบวิธีการคลุมถุงชนที่แสนจะเชยและล้าสมัยแบบนั้น รดิศไม่ใช่สเปกหล่อน... เขาเองก็ไม่เคยแสดงออกว่าสนใจหล่อน... ถึงจะหลับหูหลับตาคบๆ กันไปก็จะมีแต่อึดอัดใจกันเปล่าๆ เออ... ถ้าเป็นยัยโมก็ว่าไปอย่าง ขานั้นชอบผู้ชายหน้าตี๋ๆ ขาวๆ หุ่นบางๆ ดูสำอางแบบนี้สุดๆ จารวีเหลือบมองรดิศอย่างพินิจอีกที จะว่าไปเหมือนหล่อนจะได้ยินว่าเขาเกี่ยวข้องกับครอบครัวของรัชชัยด้วยใช่ไหมน้า หากฟังไม่ผิดเหมือนจะเป็นเครือญาติกัน น่าจะใช่... เพราะพวกเขานามสกุล วัฒนาโภคิน เหมือนกัน ดูจากอายุของรดิศแล้วคาดว่าจะเป็นน้องชายคนละแม่กับพ่อของรัชชัย ก็หมายความว่า เขาเป็นอาของรัชชัย! การประมวลผลจากคำบอกเล่าของพี่ชาย ทำให้จารวีตาเบิกโตวาววับอย่างเจ้าเล่ห์ หล่อนมีไอเดียที่จะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากการถูกจับคู่แล้ว และยังสามารถช่วยโมฬีแก้แค้นแฟนเก่าได้ในคราเดียวกันด้วย “โม... แกรู้มั้ยว่าคุณเล็กเป็นใคร” “ไม่รู้อะ” โมฬีส่ายหัวดิก แต่ชื่อเขาฟังแล้วรู้สึกสะดุดหูอีกเหมือนกัน คงจะเพราะชื่อโหลดละมั้ง “จะบอกอะไรดีๆ ให้ฟัง คุณเล็กเป็นอาของไอ้หมารัช” “อา!?” โมฬีตะลึงไปชั่วขณะ แต่พอลองคิดๆ ดูเหมือนรัชชัยจะเคยบ่นๆ กับเธออยู่นะ เธอเองก็ไม่ได้สนใจมากนัก ฟังจากน้ำเสียงเขาดูไม่ค่อยชอบคุณอาคนนี้สักเท่าไร รัชชัยมองว่าญาติคนนี้เหมือนศัตรูคู่อาฆาตที่คอยขัดขวางความเจริญของเขา “แล้วไง?” เธอมองไปยังเสี้ยวหน้าที่หล่อสมบูรณ์แบบ แล้วพูดอย่างไม่ยี่หระ ถึงคุณอาเล็กที่ว่าจะหล่อระดับพระเอกตรงใจเธอทุกอย่าง โดยเฉพาะหุ่นแซ่บๆ แต่ถ้าเป็นญาติโกโหติกากับแฟนเก่าที่เพิ่งสร้างแผลสดๆ แล้วราดทิงเจอร์ซ้ำ ทำให้เธอเจ็บแสบ เธอขอบาย! ไม่อยากรู้จักมักจี่ด้วยเลยสักนิด “แกไม่อยากเอาคืนไอ้หมารัชรึไง” จารวีเกริ่นหว่านล้อม “เอาคืนยังไง?” ไม่ได้คิดจริงจัง แต่ก็อดหูผึ่งไม่ได้ “เป็นอาสะใภ้ของไอ้หมารัช” “เฮ้ย! บ้าเหรอแก” “ต้องบ้า! ถึงจะฟัดกับไอ้หมาขี้เรื้อนอย่างมันได้สะใจ ทีมันยังควงผู้หญิงคนอื่นมาเย้ยแกได้เลย แกก็ห้ามแพ้ ควงอาเล็กไปไปเหยียบหน้าไอ้หมารัชซะเลย” จารวีพูดอย่างเข่นเขี้ยว ทำราวกับฝ่าเท้าของหล่อนกำลังบดขยี้หน้าของรัชชัยอยู่อย่างนั้นแหละ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม