ตอนที่13

2233 คำ
“กรี๊ด!!! ปล่อยนะ ฉันไม่ไป กรี๊ด!!! ทุกอย่างมันเป็นเพราะแกฟางข้าว เพราะแกคนเดียว!!!ถ้าแกทำสำเร็จตั้งแต่แรกมันก็ไม่เป็นแบบนี้ ฮึก กรี๊ด!! ปล่อย!!!” ฟางข้าวร้องไห้มองพะแพงที่ถูกลูกน้องของเหมันต์ลากออกไป พะแพงพ่นคำด่าเธอจนกระทั่งอีกฝ่ายหายออกไปแล้ว...ฟางข้าวได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้เพราะไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่าการปล่อยน้ำตาออกมา ฉับพลันเธอยกมือขึ้นกำหน้าอกของตัวเอง เริ่มหายใจไม่ออก น้ำตาไหลเต็มใบหน้าและดวงตาพร่าเลือนแทบมองไม่เห็นอะไร จริงอย่างที่พะแพงพูด มันเป็นความผิดของเธอ ถ้าฟางข้าวล้วงความลับของเหมันต์ได้ตั้งแต่วันแรกๆ ที่ได้รับมอบหมาย ถ้าเธอไม่โง่แต่งงานกับเขาและจดทะเบียนสมรสกับเขา ทุกอย่างมันก็ไม่เป็นแบบนี้ “ฮึก...อึก!” ฟางข้าวทรงตัวไม่ได้อีกต่อไป เธอหายใจไม่ออกก่อนจะนอนลงกับพื้นและหมดสติลงในที่สุด เหมันต์หลุบสายตามองคนที่สลบไปแล้ว นัยน์ตาแข็งกร้าวแดงก่ำ ปัง!! และเสียงปืนที่ดังอีกนัดทำให้เขาหันไปมองทันที เป็นชมนาดที่เอาปืนของสามียิงขมับเพื่อปลิดชีพตัวเอง ตอนนี้ศพของชมนาดและเกริกไกรอยู่ข้างกัน เหมันต์มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “จบเร็วกว่าที่คิด” “เอายังไงต่อครับนาย” “ทำตามแผนเดิม ปล่อยข่าวว่าตระกูลพวกมันถูกปล้น ตายยกครัว เหลือแค่ลูกสาวคนโตและสามีที่เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการทั้งหมดเพราะจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย” “ครับนายท่าน” เหมันต์กระตุกยิ้มร้าย เพราะแผนการที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกเป็นไปตามที่คิด สิ่งที่เขาได้มาคุ้มค่าไม่น้อย ถึงแม้ธุรกิจของพวกมันจะล่มแหล่ไม่ล่มแหล่ แต่เอามาต่อยอดก็สามารถสร้างเม็ดเงินมหาศาลได้ในอนาคต สิงหโภคินมีชื่อเสียง แค่ผู้นำรุ่นนี้ไม่เอาไหนจนทำให้ทุกอย่างขาดทุนชักหน้าไม่ถึงหลังหลายปี หลังจากนี้เขาจะเอามารวมกับเดชราชันย์ สองตระกูลอยู่รวมกันภายใต้ชื่อของเขา จะทำให้ตระกูลของเหมันต์ยิ่งใหญ่ขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น “แล้วคุณฟางข้าวล่ะครับ จะทำยังไงต่อกับเธอ” กวินเอ่ยขึ้นและมองไปที่ร่างของเธอที่ไร้สติ เหมันต์หยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวนและจุดไฟ เขาสูดมันและพ่นควันขึ้นบนอากาศ ก่อนจะตวัดสายตามองลูกน้องมือขวา “มึงชอบมันไหมล่ะ?” “...” “ถ้าชอบกูยกให้ แค่เมียในนาม กูเอาครั้งเดียวพอ” เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆ เปิดขึ้น หลังจากที่เธอหลับไปหนึ่งวันเต็มๆ ก่อนหน้านี้เธอช็อคจนสลบไป ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งทันทีและมองไปรอบๆ ด้วยสายตาสั่นไหว พลางคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความฝันหรือเปล่า เรื่องราวเลวร้ายที่พึ่งพบเจอ เธออาจจะนอนหลับและฝันไปก็ได้ บิดาของเธอถูกเหมันต์ยิงตาย ส่วนพะแพงน้องสาวของเธอก็ถูกลูกน้องของเหมันต์พาออกไป ฟางข้าวไม่รู้เลยว่าคนพวกนั้นพาพะแพงไปไหน สายตาหม่นหมองมองไปรอบข้าง ตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงกว้างในห้องนอนที่ไม่คุ้น ก่อนจะมีร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา ผู้ชายคนนั้นทำให้ฟางข้าวแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ เขาคือ กวิน ลูกน้องคนสนิทของเหมันต์ ร่างสูงกำยำ ใบหน้าคมคายได้รูปไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขายังคงใส่ชุดสูทสีดำเช่นเดิม นั่นทำให้เธอขมวดคิ้วแน่น “คุณ” “ที่นี่คอนโดฯ ของผมครับ คุณสลบไปตั้งแต่เมื่อวาน ผมเลยให้หมอเข้ามาตรวจอาการของคุณ หมอบอกว่าคุณไม่ได้เป็นอะไรมาก” เขาร่ายยาวเหยียด ฟางข้าวมีสายตาที่ไม่ไว้ใจ “แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่คอนโดฯ ของคุณคะ” “คุณเหมันต์ไม่สะดวกพาคุณไป ผมเลยเป็นคนพาคุณมาอยู่ที่นี่ก่อน” ฟางข้าวเบือนสายตาไปทางอื่น เธอนึกย้อนเหตุการณ์ทุกอย่างได้เป็นฉากๆ ...เธอไม่ได้ฝันไป ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง เรื่องจริงที่เธอไม่มีวันยอมรับได้ “ฉัน...ฉันอยากกลับบ้านค่ะ” น้ำตาเอ่อคลอที่สองเบ้า ฟางข้าวไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้เธอจะทำยังไงต่อ “ที่นั่นไม่ใช่บ้านของคุณแล้วครับ” “หมายความว่ายังไงคะ” “ทุกอย่างของสิงหโภคิน ตอนนี้เป็นของเดชราชันย์” “...” “พินัยกรรมของเกริกไกรเขียนเอาไว้ว่าพะแพงเป็นผู้สืบทอดทั้งหมดก็จริง แต่ตอนนี้พะแพงหายสาบสูญ เหลือแค่คุณฟางข้าวที่ใช้นามสกุลสิงหโภคินและเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ และตอนนี้คุณคือภรรยาของคุณเหมันต์ เป็นปกติที่เดชราชันย์จะเข้าไปดูแลทุกอย่างหลังจากนี้” ฟางข้าวฟังจบก็แทบหยุดหายใจ เธอกลอกสายตาที่เอ่นล้นด้วยหยาดน้ำไปมา ทุกอย่างจบแล้วจริงๆ และนี่สินะคือแผนการทั้งหมดของพวกเขา “แล้วคุณแม่ละคะ คุณแม่ของฉัน” “คุณแม่ของคุณยิงตัวตายครับ” “...อะไรนะคะ” สองมือยกขึ้นปิดปากตัวเอง ฟางข้าวไม่รู้เลยว่าหลังจากที่เธอหมดสติไป ชมนาดก็ปลิดชีพตัวเองด้วยปืนของสามี ตอนนี้ฟางข้าวไม่เหลือใครแล้วจริงๆ น้ำตามากมายไหลอาบสองแก้ม “ฮึก...ฮื้อ” ร่างบางร้องไห้จนตัวโยน ไม่ว่าจะเข้มแข็งมาจากไหนแต่ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ก็ไม่สามารถทำใจยอมรับได้ เธอปิดใบหน้าของตัวเองและปล่อยให้น้ำตาหลั่งไหลลงมา ไม่สามารถบอกตัวเองให้เข้มแข็งได้อีกแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าทุกคนในครอบครัวไม่มีใครรักเธอเลย ตั้งแต่เด็กจนโตเธอถูกเลี้ยงมาด้วยแลกกับผลประโยชน์ที่ต้องตอบแทน แต่ก็เถียงไม่ได้ว่าความผูกพันมีมายมายเหลือเกิน และทุกอย่างก็ได้พังทลายลงแล้ว ตระกูลของบิดาของเธอสิ้นสุดลง และทุกคนในตระกูลได้ตราหน้าว่าทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเธอ ความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อแต่ก็ถูกยัดเหยียดจะติดตัวฟางข้าวไปจนวันตายสินะ... “ฮึก...ทำไมพวกคุณถึงไม่ฆ่าฉันล่ะคะ ยังเก็บฉันไว้ทำไม” ฟางข้าวตวัดสายตาแดงก่ำมองกวิน เพราะตอนนี้เธอก็ไม่ต่างจากคนที่ตายทั้งเป็น สู้ฆ่าเธอให้ตายๆ ไปเลยยังดีกว่า ทว่าอีกฝ่ายยืนนิ่งมองหญิงสาวบนเตียงของเขา “คุณยังมีประโยชน์ เพราะเรายังไม่รู้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลัง” “พวกคุณมันเลวที่สุด” “พวกคุณรึเปล่าที่เข้ามาด้วยจุดประสงค์ร้ายก่อน” “...” “คุณเหมันต์ไม่เคยทำใครก่อน ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษคุณพ่อของคุณ” ฟางข้าวกัดริมฝีปากแน่น เธอเบือนสายตาออกจากใบหน้าของกวิน เขามีความเลือดเย็นไม่ต่างจากเจ้านายของเขา ฟางข้าวสะอื้นอย่างหนัก กวินมองภาพของคนตรงหน้าก็เอ่ยออกมาอีกครั้ง “ผมจะไปส่งคุณที่บ้านคุณเหมันต์ ลุกเถอะครับ” “ฉันไม่อยากไปที่นั่น” “...” “คุณจะให้ฉันกลับไปหาคนที่ฆ่าพ่อของฉันเหรอคะ?” “ถ้าคุณเหมันต์ไม่ยิงพ่อคุณ คุณก็จะถูกพ่อคุณยิงตาย” “...” “ดูไม่ออกเหรอครับว่าเกริกไกรไม่สนใจว่าลูกกระสุนจะโดนคุณรึเปล่าด้วยซ้ำ” ฟางข้าวยิ่งน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น...เธอดูออกและเห็นกับตาว่าพ่อกำลังจะยิงมาทางเธอ ทั้งที่เธอยืนบังเหมันต์อยู่ ทั้งที่เธอเป็นเป้าที่ใหญ่ที่สุดแต่บิดาก็เลือกที่จะลั่นไก และยิ่งทำให้ฟางข้าวเสียใจเพราะมันตอกย้ำว่าครอบครัวของเธอ แท้จริงแล้วไม่เคยรักเธอเลย “ฮึก...” “ผมขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ แบบนี้” “...” “ลุกเถอะครับ ผมจะไปส่งคุณ” 12.00 น. เมื่อรถยนต์มาถึงคฤหาสน์เดชราชันย์ ฟางข้าวค่อยๆ ปลดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างไม่เต็มใจนัก ดวงตาบวมช้ำมองผ่านกระจกรถออกไปด้านนอก เธอก้มหน้าและยังนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น กวินที่อยู่ในตำแหน่งคนขับหันมองหญิงสาวข้างกายและเห็นชัดว่าเธอไม่อยากลงไป “ฉัน ไม่ไปหาเขาไม่ได้เหรอคะ” เธอหันมองสบตากับนัยน์ตาคู่คมของกวิน สายตาของเขาวูบไหวครู่เดียว ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นราบเรียบเช่นเดิม “ลงไปเถอะครับ” “...” ฟางข้าวหลบสายตาอีกฝ่ายและนึกด่าตัวเองในใจว่าไม่น่าไปคาดหวังให้เขาใจดีหรือเห็นใจเลย คนที่ทำงานให้กับเหมันต์และอยู่กับผู้ชายคนนั้นก็คงจะมีนิสัยที่ไม่ต่างกัน ร่างเล็กตัดสินใจลงจากรถยนต์ เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ และเดินตรงไปยังทางเข้าของตัวบ้านโดยมีสายตาของกวินมองตามอยู่ตลอด เมื่อวานหลังจากเรื่องราวทุกอย่างจบลงและฟางข้าวหมดสติ เหมันต์เอ่ยประโยคที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินขึ้นมา นั่นก็คือประโยคที่จะยกเธอให้กับเขา เจ้านายของเขาให้เหตุผลว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงเมียในนามเท่านั้น ก่อนที่เหมันต์จะเดินออกไปโดยทิ้งให้หญิงสาวนอนหมดสติอยู่ที่เดิม เขาจำได้ว่าเธอมีโรคประจำตัวและไม่แข็งแรงเหมือนคนทั่วไป กวินไม่ได้ตอบคำถามของเหมันต์ และอีกฝ่ายก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เหลือเพียงเขาที่อยู่ตรงนั้น มันจึงทำให้กวินตัดสินใจอุ้มเธอกลับไปยังคอนโดฯ ของตัวเองและเรียกหมอเข้ามาดูอาการของเธอ และเช้าวันนี้กวินได้รับข้อความจากเจ้านายว่าให้พาฟางข้าวไปส่งที่คฤหาสน์หลังจากเธอฟื้นขึ้นมา กวินจึงได้แต่ทำตามคำสั่งของเหมันต์และก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้านายของเขาต้องการที่จะทำอะไรกันแน่ จะยกเธอให้เขาจริงๆ หรือแค่พูดไปแบบนั้น นัยน์ตาอ่อนลงมองแผ่นหลังบางที่เดินไปไกลเรื่อยๆ เขาได้แต่เก็บงำความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ในก้นบึ้ง ก่อนจะขับรถออกไปจากที่นี่ ดวงตาหม่นหมองกวาดมองรอบๆ ภายในคฤหาสน์ สองเท้าของฟางข้าวได้เหยียบย่ำลงบนพื้นกระเบื้อง เธอเห็นสาวใช้หลายคนได้ประจำตำแหน่งกันทำความสะอาดบ้าน และด้านนอกตัวบ้านมีชายชุดดำร่างใหญ่เฝ้าตรวจตรารอบบ้านอยู่ไม่ขาดสาย คฤหาสน์เดชราชันย์ใหญ่โตมโหฬาร และของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอภายในก็ล้วนแต่ทันสมัยทันยุคต่างจากบ้านของเธอที่ทุกอย่างยังดูเก่าแก่ ฟางข้าวกวาดสายตาหวาดกลัวมองทุกๆ คนที่ต่างก็หันมองเธอ ทว่าสายตาของสาวใช้ไม่ได้ดูตื่นตกใจที่มีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาในนี้ ราวกับว่าทุกคนได้รู้จักเธอกันหมดแล้ว หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แม้ว่าคืนแต่งงานเธอจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แล้วก็ตามแต่ฟางข้าวก็ไม่ได้พูดคุยกับใครเลย เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็รีบออกจากที่นี่หลังจากได้รับข้อความของพะแพง วันนี้จึงทำให้หญิงสาวประหม่า ทำตัวไม่ถูก และไม่รู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรหลังจากนี้ และฉับพลันเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นที่บันได ดวงตากลมมองไปยังเสียงนั้นทันทีก็พบเข้ากับร่างสูงกำยำของเจ้าของคฤหาสน์ เหมันต์ เดชราชันย์ เดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน สองมือหนาล้วงกระเป๋ากางเกง เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงขาวยาวสีเดียวกัน เส้นผมถูกเซตเปิดขึ้นเห็นหน้าผาก บนใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจโดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น...มันคมวาวราวกับเหยี่ยวตัวร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ และฟางข้าวก็คือเหยื่อตัวเล็กๆ ที่ไม่สามารถหนีออกไปจากกรงเล็บแหลมคมนั้นได้ สองเท้าย่างกรายลงจากบันไดและตรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เหมันต์จ้องมองใบหน้าหวานที่สลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมของเธอสั่นระริก แตกต่างจากคืนนั้นที่เราสองคนมีอะไรกันกัน เธอยอมเขาง่ายๆ มันจึงทำให้ชายหนุ่มเหยียดยิ้มไปไม่ถึงดวงตา เพราะที่ผ่านมาถึงเขาจะดูเหมือนตกเป็นรองเธอ ยอมทำทุกอย่างและดูแลอีกฝ่ายราวกับเจ้าหญิง ทว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่มีอีกต่อไป เพราะหลังจากนี้เหมันต์จะทำให้ฟางข้าวรู้ว่านรกมีจริง และคนที่คิดจะเข้ามาทำลายเขา จุดจบคนเหล่านั้นเป็นเช่นไร “หายไปกับผู้ชายคนอื่นทั้งคืน แบบนี้ฟ้องหย่าจนหมดตัวได้ง่ายๆ” “...” “แต่ลืมไปว่าหมดตัวอยู่แล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม