ตอนที่15

2359 คำ
​ “คิดว่าฉันเอาเธอมาอยู่ที่นี่เฉยๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรรึไง” ฟางข้าวหายใจแทบไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ความหวาดกลัวฉายออกทางสีหน้าของหญิงสาวชัดเจน และยิ่งมาเฟียไร้หัวใจเห็นสีหน้าแบบนั้นของเธอ มันยิ่งทำให้เขามั่นใจแล้วว่านี่แหละคือสิ่งที่จะทำลายอีกฝ่ายให้เหมือนกับตกนรกทั้งเป็นมากขึ้นไปอีก “ตามขึ้นมา” “ไม่ค่ะ คุณจะให้ข้าวทำอะไรก็ได้ แต่อย่าทำแบบนี้เลย” ฟางข้าวพยายามปั้นน้ำเสียงของตัวเองให้ไม่สั่นไหว ทั้งที่ก้อนหนักๆ จุกอยู่ตรงลำคอที่แห้งผากของเธอ ฟางข้าวพยายามแสดงอาการไม่ให้หวาดกลัวเขาทั้งที่ข้างในมันกลัวจนไม่รู้จะทำยังไง สองมือน้อยๆ สั่นเทา เหมันต์พ่นเสียงขึ้นจมูกอย่างสมเพช “พ่อแม่ของเธอมองขึ้นมาคงจะภูมิใจไม่น้อยที่เห็นลูกสาวเข้มแข็งขนาดนี้” เหมันต์ดูออกว่าอีกฝ่ายแสร้งทำเป็นอวดเก่งและไม่กลัวเขา ไอ้การที่ฟางข้าวทำตัวเหมือนเก่งมากในทุกเรื่อง ทั้งเมื่อก่อนที่แสดงละครแกล้งทำเป็นเข้าหาเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจทั้งที่ข้างในนั้นแสนเลว ใบหน้าสวยหวานที่แสร้งทำเป็นใสซื่อ เขาโคตรจะเกลียดเธอเลย “ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็ทำตามที่ฉันสั่ง” “ไม่ค่ะ ข้าวไม่ทำ!” นัยน์ตาดุดันจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า เขาส่งสัญญาณเรียกการ์ดชุดดำของบ้านสองคนให้เข้ามา ทั้งคู่สูงใหญ่กำยำ เหมันต์สั่งให้ลูกน้องของเขาจัดการพาฟางข้าวขึ้นไปข้างบน “ปล่อยนะ ไม่!!!” ร่างเล็กที่ยังเปียกด้วยน้ำเย็นทั้งร่างกายถูกการ์ดตัวใหญ่หิ้วปีกสองข้างและลากขึ้นไปยังบันไดทันที เหมันต์หันมองตามด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขาไม่มีทางลงมือทำอะไรแบบนั้นเองเพราะร่างกายของเธอเปียกปอน มันสกปรกสำหรับเขา เหมันต์เดินตามขึ้นไปด้วยสีหน้าผ่อนคลายขึ้นเมื่อนึกถึงช่วงเวลาต่อจากนี้ ตุบ! ฟางข้าวถูกเหวี่ยงเข้าห้องนอนของนายท่านของคฤหาสน์ ก่อนที่การ์ดตัวใหญ่ทั้งสองคนจะโค้งศีรษะให้เจ้านายของตัวเองและพากันลงไป เหมันต์จัดการปิดประตูและล็อคด้านในอย่างแน่นหนา เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของตัวเองเล็กน้อยและเผยิดใบหน้าไปทางห้องน้ำ “อาบน้ำซะ” “ข้าวไม่ทำ!” “บอกให้ไปอาบน้ำ!!!” ฟางข้าวสะดุ้งเพราะตกใจเสียงตวาดกร้าวของเหมันต์ เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากร่างกายของเขาตั้งแต่แรก อีกฝ่ายดื่มกลับมา หญิงสาวกำมือแน่นและก้มหน้า เธอจะทำยังไงต่อจากนี้ดี “หูหนวกรึไง” “คุณเกลียดข้าวไม่ใช่เหรอคะ” เสียงสั่นๆ ตัดสินใจพูดออกไป เพราะเธอไม่รู้จะทำยังไงให้เขาเปลี่ยนใจไม่ทำแบบนี้กับเธอ “ข้าวเป็นคนที่ทำให้คุณเกือบจะต้องเสียผลประโยชน์ เข้าไปหลอกคุณ แล้วคุณจะทำแบบนี้กับคนที่เกลียดได้ลงเหรอคะ” ดวงตาหม่นหมองมองหน้าเขา เหมันต์จ้องมองเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนที่มุมปากของเขาจะยกยิ้มขึ้น “ใช่ ฉันเกลียดเธอ” “...” “และจะยิ่งสะใจที่ทำให้คนที่เกลียดครางอยู่ใต้ร่างของฉัน” “อ๊ะ!! ไม่นะคะ!” ฟางข้าวเบิกตากว้างเมื่อเหมันต์เข้ามาประชิดตัว เธอถูกเขาลากไปที่โซฟาตัวใหญ่ที่อยู่กลางห้อง ด้านหน้าเป็นทีวจอยักษ์ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเหวี่ยงเธอไปยังโซฟาตัวนั้น ร่างกายบอบช้ำกระแทกเข้ากับที่วางแขนโซฟาจนนิ่วใบหน้า ฟางข้าวไม่ทันได้ตั้งสติก็ถูกสองมือหนาฉีกทึ้งเสื้อผ้าจนมันขาดวิ่นออกจากร่างกาย ตอนนี้เนื้อตัวที่ชื้นด้วยน้ำปกปิดด้วยชุดชั้นในเท่านั้น น้ำตาเม็ดใสเอ่อล้นที่สองดวงตาอย่างช่วยไม่ได้ เธอพยายามยกมือขึ้นบดบังร่างกายของตัวเองทั้งที่รู้ว่าบังไม่มิด เหมันต์ซัดชุดของเธอลงพื้นและจัดการถอดเสื้อของตัวเองและทิ้งลงตาม ปรากฏรูปร่างกำยำล่ำสันของคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ลอนกล้ามเนื้อหกลูกและไหล่กว้างแข็งแรง สองมือปลดเข็มขัดของตัวเอง ฟางข้าวมองทุกการกระทำของเขาและกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนได้รสชาติคาวเลือด เหมันต์ทิ้งเข็มขัดราคาแพงลงพื้นและทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างหญิงสาว ฟางข้าวถดร่างกายหนีแต่ก็ถูกเขากระชากให้ลงไปนั่งคุกเขาบนพื้น ก่อนที่ความเย็นของปลายกระบอกปืนซึ่งไม่รู้ว่าเหมันต์ชักออกมาตั้งแต่ตอนไหนจ่ออยู่ที่ขมับของฟางข้าว เธอเบิกตาแทบถลนเมื่อรู้ว่ากำลังถูกจ่อปืนแนบศีรษะ จึงทำให้หญิงสาวทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาอาบแก้ม “เอามันออกมา เร็วๆ” เสียงเข้มออกคำสั่ง ทำไมฟางข้าวจะไม่รู้ว่าเหมันต์ต้องการให้เธอทำอะไร ร่างสูงนั่งเอนหลังพิงพนักในท่วงท่าสบาย มือขวากำปืนและจ่อไปที่ศีรษะของฟางข้าวในขณะที่เธอกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นด้านล่าง คนที่ถูกบังคับตัวสั่นเทา เธอหายใจแทบไม่ออกเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเลว และเลวได้มากขึ้นจนฟางข้าวไม่สามารถจินตนาการภาพได้ “บอกให้เร็วๆ!” “ฮึก ข้าวขอร้อง—” กริ๊ก ปืนแนบขมับทันทีจนฟางข้าวหลับตาแน่น เธอต่อต้านอะไรไม่ได้จึงจำใจเอื้อมมือที่ไร้เรี่ยวแรงวางลงบนซิบกางเกงของเขา เหมันต์เห็นแบบนั้นก็มีสีหน้าที่ผ่อนคลายมากขึ้น เขาก้มลงมองการกระทำเงอะงะโดยที่มือก็จ่อปืนที่ขมับของเธอไปด้วย เป็นการกระทำที่เลือดเย็นหาใครมาเปรียบเทียบ ฟางข้าวกัดริมฝีปากของตัวเองและล้วงเอาสิ่งใหญ่โตออกจากกางเกงของเขาในที่สุด “อืม...เห็นไหมว่ามันหลับอยู่” เหมันต์เอ่ยขึ้นและกลั้วหัวเราะอย่างสะใจ ก่อนหน้านี้เขาดื่มมาเล็กน้อย อารมณ์ค้างได้ที่เลยรีบบึ่งรถกลับมาหาเมียสุดที่รัก ดวงตาที่เปื้อนหยาดน้ำช้อนมองขึ้นอย่างเกลียดชัง ฟางข้าวไม่ปกปิดความเกลียดที่มีต่อเหมันต์ และสายตาแบบนั้นยิ่งทำให้มาเฟียเลวทรามอย่างเขามีอารมณ์ “รีบทำให้มันตื่นสักทีสิ” “...” “ของฉันมันตื่นง่าย เธอแทบไม่ต้องทำอะไรมาก” มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือปืนก็ลูบเส้นผมสีน้ำตาลและเล่นปอยผมที่คลอเคลียบนแก้มใส ฟางข้าวขยะแขยงการกระทำของเขาเหลือเกิน เธอปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มและกอบกำท่อนเอ็นที่ยังอ่อนนิ่มชักรูดขึ้นลง เหมันต์เอนหลังอย่างผ่อนคลาย ก่อนจะเอาปลายกระบอกปืนกดหัวของเธอลงจนริมฝีปากสีชมพูโน้มลงใกล้แก่นกายสีเข้ม ฟางข้าวตัวสั่นเทิ่มมากขึ้น และเหมันต์ก็ไม่ปราณีเธอ เขาใช้ปลายกระบอกปืนกดหัวของฟางข้าวจนเธอต้องอ้าปากครอบเอ็นร้อนที่ค่อยๆ แข็งตัวขึ้นเพียงลิ้นของเธอแตะสัมผัส ของเขามันตื่นง่ายอย่างที่เจ้าตัวบอก เพราะเพียงแค่หญิงสาวอ้าปากครอบและหัวปลายหยักสัมผัสลิ้นร้อนมันก็แข็งและขยายลำใหญ่แน่นเต็มปากของเธอช้าๆ ฟางข้าวหลับหูหลับตาปรนเปรอให้เขาเพราะอีกฝ่ายยังคงเอาปืนจ่อเธออยู่ ปากเล็กรูดรั้งแก่นกายแข็งที่มีขนาดฝ่ามือของเธอกำเกือบไม่รอบ และความยาวของมันที่เข้าไปยังไม่สุดโคนก็ชนคอหอย จากชนเบาๆ ก็เปลี่ยนเป็นกระแทกเมื่อเอวสอบสวนขึ้นลงและเอาสองมือล็อคศีรษะของฟางข้าวเอาไว้แทนรูสวาทคับแคบ “อื้อ!! อ๊อกๆ!!” ฟางข้าวดันต้นขาของเหมันต์เพราะเขากระแทกสวนเข้ามาราวกับโพรงปากของเธอเป็นเพียงเครื่องสนองตัณหา เธอหายใจไม่ออก น้ำลายไหลเยิ้มเคลือบท่อนเอ็นแข็งเขื่องทั่วไปหมด เหมันต์ไม่สนใจว่าฟางข้าวทำหน้าเหยเกจนอยากจะสำรอกมากแค่ไหน เขาตรึงศีรษะของเธอเอาไว้และเด้งลำท่อนใหญ่อัดเข้าปากของเธออยู่แบบนั้นหลายนาที “อึก!!” “ไม่ได้เรื่อง” เขาสบถออกมาและดึงท่อนแข็งลำยักษ์ออกมาจากปากของฟางข้าว เธอหลับตาอ้าปากออกก่อนจะถูกคนตัวใหญ่กระชากขึ้นไปบนโซฟาและจับเธอให้หันหลังให้เขา ชั้นในที่ปกปิดร่างระหงก่อนหน้านี้หลุดออกไปด้วยฝีมือของเหมันต์อย่างรวดเร็ว เขาจับสะโพกผายให้โก่งขึ้นก่อนจะเอามือชัดรูดท่อนแข็งของตัวเองและยัดมันเข้าไปในช่องทางสีสวย “อ๊า!!” “ยังดีที่ตอดอยู่” คำพูดหยาบโลนของเหมันต์ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำทันที เธอสะอื้นอย่างหนักก่อนจะร้องลั่นเมื่อความใหญ่โตสวนเข้าไปในรูสวาทคับแคบ เขาไม่ปราณีใดๆ ทั้งสิ้น รุนแรงและป่าเถื่อน มาเฟียไร้หัวใจเห็นอีกฝ่ายเป็นเพียงเครื่องบำเรอกามเท่านั้น เขากระแทกไม่ยั้งเข้าไปจนเกิดเสียงตับๆ ลั่นห้องนอน เหมันต์วางปืนลงบนโต๊ะหน้าโซฟาและตั้งใจจะเอาคนตรงหน้าก่อนจะกำเส้นผมสีน้ำตาลและดึงขึ้นจนใบหน้าของเธอแหงนขึ้นเพดาน แรงกระแทกยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ร่างบางสั่นคลอนในท่าคุกเข่าและเจ็บแสบบนหนังศีรษะเพราะอีกฝ่ายยังคงกำเส้นผมของเธอก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมาจูบ มันเป็นจูบที่รุนแรงและเจ็บปวดมากที่สุด เขาตวัดลิ้นกวาดทั่วโพลงปากของเธอ รวมทั้งกัดริมฝีปากของเธอจนฟางข้าวสะดุ้งและได้รสชาติคาวเลือดของตัวเอง เธอร้องแทบไม่ออก เสียงครางอื้ออึงถูกกลืนเข้าไปในลำคอเมื่ออีกฝ่ายป้อนจูบที่โหดร้ายไม่ผละออก ช่วงล่างก็กระหน่ำซอยเข้าออกจนปลายหัวบานของความใหญ่โตชนแรงๆ เข้ากับจุดกระสันทำให้หญิงสาวไม่สามารถกลั้นปฏิกิริยาของตัวเองได้ “อ๊า!! ข้าวไม่ไหวแล้วคุณเหมันต์ อื้อ อ๊ะๆๆ” เธอสะบัดใบหน้าส่งเสียงร้องลั่นเพราะเสียวจนหูอื้อตาลอย ร่างเล็กที่ไม่ค่อยแข็งแรงแต่ไม่เคยได้รับความอ่อนโยนใดๆ จากเหมันต์เลย ฟางข้าวสั่นคลอนตามแรงกระแทก เหมันต์ได้ยินเธอพูดแบบนั้นก็ยิ้มเยาะ เขายิ่งเพิ่มความเร็วสวนลำเอ็นเข้าสุดออกสุด ก่อนจะดึงแก่นกายออกและจับอีกฝ่ายให้นอนราบลงบนโซฟา เขายัดท่อนลำเข้าไปในช่องทางตอดรัดอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็โน้มลำตัวลงไปบดจูบริมฝีปากของเธอ เหมันต์จับแขนทั้งสองข้างของฟางข้าวเพื่อมาคล้องลำคอของตัวเอง เขาบดขยี้ริมฝีปากสีฉ่ำและขยับท่อนล่างด้วยจังหวะเนิบนาบ ฟางข้าวคล้องเรียวแขนบนลำคอของเขาอยู่แบบนั้น นอนอ้าปากรับลิ้นร้อนที่สอดผ่านเข้ามา ช่วงล่างก็รู้สึกหน่วงก่อนร่างกายจะกระตุกเบาๆ เพื่อปลดปล่อยน้ำรักของตัวเองจากความเสียวที่เหมันต์มอบให้ “อื้อ...อ่า” “ซี้ด” เขาร้องในลำคอเพราะเมื่อเธอเสร็จ รูแคบก็ยิ่งตอดตุบๆ ทำให้ชายหนุ่มชอบไม่น้อย เขาส่งแรงกระแทกหนักๆ อีกครั้งจนเธอผวาร้องลั่น เอวสอบควงไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยน้ำรักของตัวเองออกมาโดยไม่ดึงออก ฟางข้าวร้อนเผ่าที่ร่างกายเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายปล่อยข้างใน เธอพยายามดันไหล่หนาให้ออกไปจากร่างกายทว่าอีกฝ่ายกลับขยับท่อนร้อนไม่ยอมหยุด “พอได้แล้วค่ะ” “อย่าสั่ง” นัยน์ตาดุดันจ้องหน้าคนใต้ร่างก่อนจะบรรเลงบทเพลงอีกครั้ง แขนแกร่งคว้าร่างบอบบางให้ลุกขึ้นนั่งทับท่อนเอ็นของเขา ฟางข้าวสะดุ้งเพราะนั่งลงบนของเขาที่ใหญ่โตแบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกเสียวมากกว่าเดิม เขาเอนหลังเล็กน้อยและนั่งนิ่งๆ แววตาเยี่ยงสัตว์ร้ายจ้องมองเรือนร่างขาวนวลตรงหน้าตัวเอง และออกคำสั่งกับเธอ “ขย่ม” “ข้าวทำไม่ไหวแล้วค่ะ” “เร็วๆ” เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ความเหนื่อยล้าทำให้หญิงสาวแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกแล้ว แต่ตอนนี้เธอเลือกอะไรไม่ได้เพราะคนตรงหน้าสวมวิญญาณของปีศาจร้ายเต็มรูปแบบ ความตายเท่านั้นที่เขาจะมอบให้ถ้าหากฟางข้าวขัดคำสั่ง เธอค่อยๆ ขยับร่างกายอย่างเงอะงะ บดคลึงรูรักของตัวเองที่ครอบอยู่บนท่อนกายสีเข้ม “อ่ะ” เสียงหวานหลุดออกมา และยิ่งฟางข้าวเป็นฝ่ายทำมากเท่าไร ความกระสันยิ่งเข้ามาเล่นงาน เธอจึงไม่สามารถกักเก็บสีหน้าและแววตาได้ เหมันต์ค่อนข้างพอใจและไม่สามารถละสายตาออกไปจากใบหน้าหวานได้เลย “อื้ออ เสียว ไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอก้มใบหน้าลงและยันสองมือบนสะโพกสอบของมาเฟียหนุ่ม คนที่เริ่มจะทนไม่ไหวก็เป็นฝ่ายรุกแทน เหมันต์เอื้อมไปกอดรัดร่างบางให้แนบชิดกับเขา ก่อนจะสวนแก่นกายขึ้นไปกระหน่ำอีกหลายครั้งจนฟางข้าวครางลั่นมาเป็นภาษา เช่นเดียวกับคนที่กระทำ เถียงไม่ได้เลยว่าความเงอะงะของเธอทำให้เหมันต์เสร็จเร็วกว่าคู่นอนหลายๆ คนที่ผ่านมาของเขา เพราะชายหนุ่มรู้ตัวว่าตัวเองไม่สามารถอดกลั้นที่ปลดปล่อยได้ในช่วงเวลาที่ติดๆ กัน และตอนนี้เหมันต์ก็ฉีดน้ำรักขาวขุ่นเข้าไปในรูสวาทที่ตอดรับถี่ไม่หยุด เขาหลับตาและแหงนหน้าขึ้น คลายอ้อมกอดอีกคนออกและถอดแท่งเอ็นออกมา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าปืนกระบอกสีดำขลับที่เขาตั้งเอาไว้บนโต๊ะไม่ไกล บัดนี้อยู่ในมือของหญิงสาวและเธอก็กำลังจ่อมาทางเขาอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม