บทที่1 ‘เมาเป็นเหตุ ’

1963 คำ
[ Khun nai part ] โอ๊ย! ปวดหัวเหมือนจะระเบิดเลย เมื่อคืนฉันดื่มเหล้าหนักมากขนาดไหนเนี้ย ทำไมตอนนี้ถึงได้ปวดหัวขนาดนี้ แล้วแบบปวดเมื่อยไปทั้งตัวด้วย แต่เดี๋ยวนะทำไมฉันรู้สึกเหมือนร่างกายเย็นวูบวาบเลยอะ พรึบ! !!! ห้ะ!!เสื้อ!เสื้อผ้าฉันมันหายไปไหน เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับฉันงั้นเหรอ ไม่จริง เมื่อคืนฉันไม่ได้...อีนายมึงทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย ฉันหันซ้ายหันขวามองไปรอบ ๆ ห้องอย่างตื่นตระหนก แล้วคือนี่มัน...ไม่ใช่ห้องฉัน!แล้วถ้าไม่ใช่ห้องฉันแล้วมันเป็นห้องใครละ? แล้วดูจากสภาพห้องสิเละเทะผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ เสื้อผ้าฉันกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด อย่าบอกว่าเมื่อคืน... พรึบ! เลือด! ละ...เลือดฉันเหรอ ฉันมองเลือดแห้งๆ ที่ติดผ้าปูที่นอนอย่างตกใจ ซะ...ซิงฉัน ที่ทะนุถนอมเป็นเวลายี่สิบกว่าปีมาพังเพราะความเมาเหรอเนี้ย ฮื่อ อีนายมึงมันบ้าไปแล้ว! แล้วไอ้บ้าที่มันลากฉันไปไหนแล้วอะ มันอยู่ไหน เอาฉันเสร็จแล้วมันหนีหายหัวไปแบบนี้เลยเหรอ ไม่คิดจะอยู่ให้เห็นหน้าคาตากันหน่อยหรือไง! ฟุบ!ฉันฟุบหน้ากับหัวเข่าตัวเองอย่างเจ็บใจ มันไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้อะ เมื่อคืนฉันไม่น่าออกไปเมาคนเดียวเลย ปึก! แอ๊ด~ “ตื่นแล้วหรือครับเด็กดี” ฉันหลุดจากภวังค์ความคิดก่อนหน้านี้ทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มๆ ก่อนจะเงยหน้าจากหัวเข่ามองไปที่ประตูห้องที่มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาส่วนสูงประมาณร้อยแปดสิบอัพยืนพิงมองฉันอยู่อย่างกวนๆ ท่าทางของเขาดูแบดบอยมาก ดูเหมือนพวกชอบลากผู้หญิงตามผับมานอนด้วยอะ แล้วเขาเป็นใคร? “นายเป็นใคร?” ฉันถามเสียงแข็งแบบไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ไม่รู้สิรู้สึกไม่ค่อยชอบขี้หน้าหมอนี้เท่าไหร่ มันดูขัดหูขัดตาฉันยังไงไม่รู้ “ผัวคนแรกของเธอไง” ห้ะ!! ผะผัวคนแรกฉันงั้นเหรอ? นี่อย่าบอกนะว่าไอ้บ้านี้เป็นคนเปิดซิงฉันงั้นเหรอ ได้ไง หมายถึงเป็นเขาได้ไง เราเจอกันตอนไหนอะ “ทำหน้างงขนาดนั้น จำไม่ได้อะดิว่าเมื่อคืนเธออ่อยฉัน” “เมื่อคืน? ฉันนี่นะอ่อยนาย” ฉันชี้มาที่ตัวเอง คือฉันไม่เห็นจะจำได้เลยว่าเมื่อคืนอ่อยเขา อ่อยตอนไหน ก็ฉันนั่งของฉันที่โต๊ะคนเดียวอะ ??? [ Kongthap part ] ย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงที่แล้ว... @Dragon Club ตุบ! “สุดหล่อจ๋า~ มาคนเดียวหรือคะ สนใจรับคนสวยแถมซิงไปนอนกอดเล่นๆ ไหมเอ่ย เขาไม่ดื้อด้วยน้า~” ผมนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บาร์ข้างล่างคนเดียวด้วยความหงุดหงิดใจเพราะมีปัญหากับครอบครัวนิดหน่อย แต่ในขณะที่ผมกำลังนั่งถมึงทึงอยู่นั้นจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงมายืนเท้าคางกับเคาน์เตอร์บาร์พูดจาน่ารำคาญเสียงยานครางเชิญชวนผมด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าเมาขนาดไหน แถมสายตาที่มองผมตอนนี้มันก็ช่างหวานหยดย้อยปานน้ำผึ้งสะไม่มี “ไปไกล ๆ อย่ามายุ่งกับฉัน” ผมเหลือบมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยไล่เธอให้ออกไปไกล ๆ เพราะตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อีกอย่างคืนนี้ผมไม่คิดจะสนใจใครด้วย “อย่าเพิ่งไล่ซี้~ คุยกันก่อน” เสียงหวานเอ่ยยานครางออกมา ผมจึงหันไปทางเธออีกครั้งอย่างรำคาญใจแต่กลับต้องชะงักเมื่อได้เห็นใบหน้าเธอชัดๆ ผมปรายตามองตามรูปร่างภายใต้ชุดเดรสสีดำเว้าหลังสะดุดตาอย่างพิจารณา มองเผิน ๆ นึกว่าชุดนอนไม่ได้นอน ผิวขาวดุจหิมะตัดกับเสื้อผ้าที่ใส่บวกกับผมยาวสลวยถึงกลางหลังของเธอ ยิ่งมองก็ยิ่งน่าหลงใหล แถมโครงหน้าสวยโฉบเฉี่ยวนั้นอีก ถือว่าเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาดี โดยเฉพาะเอวคอดเล็ก ๆ น่าจับของเธอนั้นทำเอาผมกระตุกยิ้มออกมา ผมจึงรีบปรับเปลี่ยนเป็นโหมดปกติอย่างเร็วแสงแต่ก็ยังแอบแฝงความเรียบเฉยไว้ในที “แน่ใจว่าไม่ดื้อ ฉันเป็นพวกความอดทนต่ำไม่ชอบเด็กดื้อเท่าไหร่เพราะมันน่าฆ่ามากกว่าน่าเอา” ผมจ้องไปที่ใบหน้าหวานที่กำลังโปรยยิ้มมาให้อย่างยั่วยวน จริงๆ แล้วคืนนี้ผมไม่ได้มีอารมณ์จะลากใครเข้าโรงแรมด้วยซ้ำ กะว่ามาดื่มแก้เซ็งเฉยๆ แล้วจะกลับ แต่จู่ ๆ ดันมาโดนอ่อยแบบนี้สักก่อนแถมยังมีลูกเล่นอีก ผมเลยเปลี่ยนใจลองเล่นกับเธอกลับดีกว่า เพราะผู้หญิงสวยสะดุดตาแบบนี้ไม่ได้มีมาให้เชยชมได้บ่อย ๆ “ว่าไง แน่ใจหรือเปล่าว่าไม่ดื้อ” ผมถามเธอซ้ำ มือเล็กยกขึ้นปัดผมไปอีกข้างเผยให้เห็นต้นคอระหงส์และหัวไหล่เนียนขาวนั้นอย่างยั่วยวนพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ ขณะที่เท้าคางมองผมด้วยแววตาทอประกายแวววับ “ฉันไม่ชอบดื้อ และไม่เคยดื้อเลยด้วย :) ” “หึหึ” ผมยิ้มเยาะออกมา ความรู้สึกสนใจเริ่มผุดขึ้นมา รู้สึกถูกชะตากับจริตและความกล้าหาญของเธอที่กล้าเข้ามาอ่อยผมตรง ๆ แถมยังโปรโมทตัวเองสะดิบดีว่ายังซิง หึ แค่คิดว่าคืนนี้ได้ยินเสียงเธอครางทั้งคืนใจผมก็กระสันขึ้นมาแล้ววะ “ซิงจริงหรือเปล่า” ผมถามเธอสีหน้าหยอกเย้า “จริงไม่จริงไม่รู้~ แต่ฉันอยากให้นายพิสูจน์เอง หรือว่านายพิสูจน์ไม่เป็น...หื้ม?” เธอหัวเราะคิกคักออกมาสายตาหวานฉ่ำ ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าใกล้กับหูของผมที่นั่งจ้องตาเธอ “ไปพิสูจน์ด้วยกันนะ ฉันสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของนายทั้งคืนเลย~คิกคิก” ลมหายใจอุ่นๆ ของเธอเป่ารดเบาๆ ที่ซอกคอของผม ทำเอาเลือดในกายสูบฉีดเลยทีเดียว ไหนจะเสียงหัวเราะคิกคักนั้นอีก เอาจริง ๆ เลยนะผมไม่เคยรู้สึกตื่นตัวกับผู้หญิงคนไหนเร็วขนาดนี้มาก่อนเลย แต่เธอ...เธอทำให้ผมกระสันจนอยากพากลับเพนท์เฮ้าส์เดี๋ยวนี้เลย... “งั้นไปกับฉัน เพราะฉันเริ่มสนใจเด็กดีแบบเธอแล้วสิ” ปัจจุบัน... [ Khun nai part ] ฉันนั่งอึ้งกลืนน้ำลายตัวเองลงคออย่างยากลำบากเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนตามที่เขาเล่าให้ฟัง ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าฉันไปอ่อยเขาก่อนจริงๆ นี่เมื่อคืนฉันทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ ฉันไปอ่อยเขาก่อนจริงเหรอเนี้ย... ฉันจำได้แค่ว่าฉันลุกออกจากโต๊ะเพื่อเดินไปไหนสักแห่ง แต่คือฉันไปโผล่ที่เคาน์เตอร์บาร์เหรอ โอ๊ย! ฉันยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองอย่างโมโหกับความเมาเมื่อคืน หมดกันความบริสุทธิ์ที่จะมอบให้ผัวในคืนแต่งงานของฉันในวัยเด็กพังทลายหมดแล้ว อีนายมึงนะมึง! “จำได้แล้วใช่ไหม” เสียงทุ้มของคนที่ยืนอยู่ที่เดิมเอ่ยถามฉัน ฉันจึงเหลือบมองเขาอีกครั้งอย่างหงุดหงิด ยังมีหน้ามาถามอีกหรือไงเล่าละเอียดยิบขนาดนั้นอะ “หึ ดูเหมือนจะไม่พอใจ” ฉันไม่ตอบเขาแต่เลือกก้าวขาลงจากเตียงแทนพร้อมกับผ้าห่มผืนหนาพันตัวไว้อย่างเกะกะ แต่... พอเท้าฉันแตะถึงพื้นเท่านั้นแหละความรู้สึกเจ็บและแสบตรงนั้นก็แล่นเข้ามาทันที ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าเมื่อคืนฉันโดนหมอนี้กระทำจริง ๆ แล้วตอนนี้คือฉันอยากกรี๊ดออกมาดังๆ มากเพราะมันชัดเจนแล้วว่าฉันไม่บริสุทธิ์อีกแล้ว ไม่งั้นฉันคงไม่รู้สึกเจ็บตรงนั้นแบบนี้! ฮรื่อ...อยากร้องไห้โว้ย!มันควรจะเป็นเพราะความรักหรืออะไรก็ได้อะ ไม่ใช่เพราะความเมาแบบนี้สิ! แล้วที่นี่ฉันต้องทำไง ฉันต้องไปพบหมอตรวจภายในดูไหม ต้องตรวจเลือดด้วยไหม ไม่รู้ว่าเมื่อคืนหมอนี้ได้ป้องกันหรือเปล่า “นี่นาย เมื่อคืนป้องกันหรือเปล่า” ไม่อยากถามแต่ก็ต้องถามอะ “ถึงเธอจะซิงแต่ฉันก็ไม่เน้นเสี่ยง ฉันเน้นปลอดภัย” หึ ก็ดี! เน้นปลอดภัยก็ดีฉันจะได้สบายใจว่าตัวเองจะไม่ติดโรคด้วย เพราะท่าทางหมอนี้ก็น่าจะสำส่อนไม่เบา “ก็ดี แฟร์ดี” ฉันตอบเขาแค่นั้นก่อนจะหันกลับไปทางเดิมแล้วค่อยๆ เดินไปทางห้องน้ำ “ต้องให้อุ้มไหมครับคุณผู้หญิง” “ไม่ต้อง! ฉันเดินเองได้ ไม่ได้พิการย่ะ” ฉันตอบขณะที่กำลังเดินไม่ได้หันไปมองเขา ก็แค่เจ็บตรงนั้นปะไม่ได้เจ็บขาสักหน่อย ทำไมต้องอุ้มด้วย แต่... พรึบ! !!!! เฮือก!ฉันตกใจแทบจะกรี๊ด ที่จู่ ๆ ตัวฉันก็ลอยหวือขึ้นมา “หึ ทีเมื่อคืนยังขะขากับฉันอยู่เลย วันนี้ห้าวใส่เลยนะ” เขาแค่นหัวเราะในลำคอมองฉันอย่างล้อเลียนแต่แล้วไงอะก็เมื่อคืนเมาปะ จะไปอะไรกับคำพูดคนเมาไม่มีสตินักหนา “หยิบเสื้อผ้าคุณสิครับ ผมจะได้รีบไปส่งในห้องน้ำ” เขาก้มลงให้ฉันหยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่พื้นขึ้นมา ฉันจึงรีบหยิบขึ้นมาอย่างไม่อิดออดแต่ไม่วายส่งสายตาเคืองๆ กลับไป เสร็จแล้วเขาจึงอุ้มฉันไปส่งในห้องน้ำ... 20นาทีต่อมา... ปึก! พรึบ! เฮือก!!ตะบ้านี่ จริง ๆ เลยชอบทำให้ฉันตกใจอยู่เรื่อยเลย แล้วมายืนยื่นมือทำอะไรหน้าห้องน้ำ! “อะไร?” ฉันถามเขาที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพิงผนังห้องน้ำส่วนมืออีกข้างยื่นกระดาษเล็ก ๆ ยาว ๆ มาขวางหน้าฉัน ก็ไม่ได้โง่ที่ไม่รู้ว่ามันเป็นเช็คหรอก แต่แค่ไม่เข้าใจว่าให้ฉันทำไม “ค่าตัวเธอเมื่อคืนไง หนูจะเป็นเด็กดีทั้งคืนเลย~” เขาพูดล้อเลียนคำพูดของฉันเมื่อคืนด้วยสีหน้าที่แบบหน้าข่วนมากอะ คือจะมายิ้มทะเล้นล้อเลียนฉันทำไม ก็รู้อยู่ว่าเมา! “ไม่เอา ไม่ได้อยากได้เงิน” “ถ้าไม่อยากได้เงิน...แล้วอยากได้อะไร อยากได้ฉันเป็นผัวว่างั้น” โฮ๊ะ! นี่เอาส่วนไหนมามั่นใจว่าฉันอยากได้ตัวเองเป็นผัวหะ แค่หน้าตอนนี้ฉันยังไม่อยากมองเลยเถอะ มั่นหน้ามาก “อย่ามามั่นหน้าหน่อยเลย รู้ว่ารวย แต่ฉันก็ไม่ได้จนค่ะ” ฉันกอดอกพูดด้วยจริตกลับไป รู้จักฉันน้อยไปละ ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ต้องมานั่งร้องห่มร้องไห้ขอให้เขามาเป็นผัวให้ฉันหรอกนะ ถึงจะแอบเสียดายเวอร์จิ้นตัวเองนิดๆ แต่ฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินไง “หึ งั้นฉันให้เป็นค่าเปิดซิงของเธอละกัน” ให้เป็นค่าเปิดซิงงั้นเหรอ เหอะ!ทำตัวน่าตบมาก “เก็บให้เด็กด้อยโอกาสคนอื่นเถอะค่ะ one night ครั้งเดียวจบแยก ทิปไม่ต้อง!” ฉันกระตุกยิ้มให้เขาอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าใกล้เขาแล้วพูดว่า “ขอบคุณนะคะสำหรับเมื่อคืน เลือดนั้นฉันไม่ได้ซีเรียสค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม