ฉันอยากจะกรี๊ดให้แก้วหูนายกองทัพบ้าเนี้ยแตกไปเลย ไอ้คนบ้าดึงตัวฉันให้ล้มมาทับบนหน้าอกแข็งๆ ของตัวเอง แล้วยังมีหน้ามาพูดลอยหน้าลอยตายียวนกับฉันอีก
ต้องโดนสักหน่อยละตาบ้าเนี้ย!
ปึก!!
อั่ก! แค่ก ๆ
หึ เป็นไงละทุบให้อกแตกตายไปเลย จุกหน้าแดงเป็นยมบาลเลยอะดิ กล้าดีมากอดตัวฉันดีนัก
“แค่ก ๆ เธอ!!! ทุบมาได้ไงว่ะ!” เขาย่นหัวคิ้วเข้าหากันพร้อมกระชากเสียงอย่างไม่ชอบใจ
“แล้วกล้าดียังไงมากอดฉัน ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ฉันจ้องหน้าเขาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว บอกแล้วไงว่าอย่าทำให้ฉันโมโห เป็นไงละจุกอะดิ
หมับ!
“ไม่ปล่อย ฉันจะกอดเมียตัวเองไม่ได้หรือไง” เขาพูดพร้อมกับกระชับกอดฉันให้แน่นกว่าเดิม จนฉันรู้สึกอึดอัดไปหมด แล้วที่ฉันเกลียดมากที่สุดตอนนี้คือคำว่าเมียที่ออกจากปากเขาเมื่อกี้! เจอกันไม่กี่ครั้งเรียกเมียได้เต็มปากเลยนะ
ฟู่ว~
“ไม่ปล่อยใช่ไหม?” ฉันหลับตาพ่นลมหายใจออกมาถามด้วยเสียงต่ำอย่างสุดจะทนกับความดื้อด้านของเขา
“ไม่ปล่อยจะกอดเธออยู่แบบนี้แหละโทษฐานที่ทำฉันเจ็บตัว” ยังมีหน้ามาโทษคนอื่นอีกแล้วใครสั่งให้มายั่วโมโหฉันก่อน โดนแค่นั้นมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ
“ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ฉันข่มเสียงต่ำ ก่อนจะ...
หยิกและบีบ!!!
อ๊าก!!! >[เสร็จแล้วนะแม่ อ้อไม่ต้องมารับนะเดี๋ยวคืนนี้ไปกับอีชิ มันบอกว่าเดี๋ยวมันขับรถไปเอง มันสงสารมึงที่ต้องขับรถมาส่งพวกกูดึกๆ อะ]
“อืม แล้วแต่กูได้หมด นี่กูเสร็จแล้วกำลังจะออก”
[โอเค เจอกัน]
ฉันกดวางสายลูน่าหลังจากที่คุยเสร็จก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถกับกระเป๋ามาถือไว้ จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูห้องนอน แต่พอฉันเปิดประตูห้องปุ๊บเสียงทีวีก็ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทฉันทันที
???
ฉันจำได้ว่าไม่ได้เปิดทีวี...
แล้วใครเปิด?
“เธอจะไปไหน?”
เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังฉันจากฝั่งห้องนอนอีกห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนรับแขก ฉันจึงหันไปตามเสียงทันทีก่อนจะเจอเจ้าตัวที่ออกมาในสภาพที่ดูออกเลยว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังเดินติดกระดุมเสื้อมาทางฉัน นี่ตาบ้านี้มันอยู่นานจนป่านนี้เลยเหรอ ไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องตัวเองเลยหรือไง
“ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน แต่นายอะ ทำไมไม่กลับบ้านกลับช่องตัวเองหะ” ฉันว่าอย่างฉุนเฉียว แต่ดูหมอนี้มันไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ยืนติดกระดุมเสื้ออยู่นั่นแหละ
“ก็เธอบอกเองว่าจะอยู่ก็อยู่ไป ฉันก็อยู่ของฉันไปไง ไม่ได้รบกวนเธอเลยสักนิดเดียว เสียงทีวีก็เปิดเบาๆ” เขาเอ่ยขยายความกระจ่างให้ฉันอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงใสซื่อ จนฉันต้องลอบถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งคือไม่รู้ว่าสมควรต้องอธิบายยังไงดี และรู้สึกอยากตีปากตัวเองก็วันนี้แหละที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่คิดว่าตาบ้านี้มันจะซื่อบื้ออยู่จนถึงป่านนี้จริง ๆ ไง
“ช่างมันเถอะ ออกไปได้แล้วฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว” ฉันว่าอย่างยอมจำนนพร้อมกับไล่เขาออกไป คือต้องยอมแล้วอะ เหนื่อยใจ
“แล้วเธอจะไปไหน แล้วใส่เสื้อผ้าเปิดไหล่ขนาดนั้น สั้นก็สั้นไม่หนาวหรือไง” ถ้อยคำนี้แฝงไว้ด้วยน้ำเสียงหึงหวงแปลกๆ นะว่าไหม ฉันไม่ได้ใสซื่อจนดูไม่ออกนะ ว่าหมอนี้กำลังไม่พอใจกับเสื้อผ้าของฉัน
“ทำไมเหรอ...เป็นห่วงหรือเป็นหวง เคลียร์มาสิ” ฉันกอดอกขยับเข้าใกล้เขาพร้อมยิ้มกริ่มที่มุมปากอย่างร้ายๆ แต่รู้อะไรไหมคนร่างสูงตรงหน้าฉันกลับมีสีหน้าเลิ่กลั่กสะงั้น
“มันสั้นเกินไป และโชว์ไหล่โชว์เนินอกเยอะไป มันอันตราย” คุณพระ! นี่ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหมที่ได้ยินหมอนี้พูดแบบนี้ ซึ่งมันส่วนทางกับบุคลิกแบดบอยของเขาไปหลายโยชน์เลยนะ
เป็นคนดีในคราบซานตานเหรอ? เอียงคอสงสัย
“แล้วตกลงจะไปไหน” เขาถามฉันอีกครั้ง
“ไปผับ”
“ที่ไหน”
“ดราก้อน”
“อืม ฉันก็จะไปเหมือนกัน นัดกับเพื่อนไว้”
“จะไปส่ง?” ฉันเอียงคอถาม แค่สงสัยก็เขาพูดเหมือนจะให้ไปด้วยกัน
“ก็ไม่ต้องเปลืองน้ำมันรถไหมว่ะเธอ” ฉันพยักหน้าเข้าใจทันทีที่ได้คำตอบ ก็คืออยากไปส่งนั่นแหละ
“ก็ได้ ไปสิ ฉันนัดเพื่อนไว้สามทุ่ม นี่จะเลทแล้ว” ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะบอกเขา แต่เขากลับไม่ยอมขยับตัวมัวแต่จ้องร่างกายฉันอยู่นั่นแหละ
“ฉันว่าเธอไปเปลี่ยนชุดดีกว่า”
“นาย นี่มันร่างกายฉัน ฉันเป็นเจ้าของฉันจะใส่อะไรก็ได้ปะ”
“แต่ฉันก็เป็นเจ้าของ ฉัน...เออ! ช่างมันเถอะดูแลตัวเองให้ดีก็พอ” น้ำเสียงของเขาคล้ายมีความหงุดหงิดเจืออยู่ แถมพูดจบก็เดินผ่านหน้าฉันไปเลย ทำเอาฉันงง เป็นอะไรทำเหมือนหึงหวงไปได้
@Dragon Club
“ฉันอยู่ชั้นสองถ้ามีอะไรก็โทรไปได้เลย เบอร์ฉันก็เคยให้ไปแล้ว นามบัตรวันก่อนอะเซฟใส่เครื่องด้วย”
“เป็นพ่อฉันหรือไง สั่งอยู่ได้” ฉันหันไปแหวเสียงฉุนใส่เขา ก็ตั้งแต่มาถึงผับเนี่ยหมอนี้ยังไม่ยอมเปิดประตูรถให้ฉันลงเลย มัวแต่สั่งๆ เป็นพ่อฉันอยู่นั้นแหละ คืองง แฟนก็ไม่ใช่ แต่ทำตัวเกินเบอร์มาก
“เป็นผัวคนแรก ชัดไหม อย่าแรดให้มากถ้าไม่อยากมีผัวคนที่สอง”
ไอ้บ้านี่! นั้นปากเหรอหะ!
“ทำไม ถ้ามีแล้วนายจะทำไม”
“ก็กระทืบมันไง”
เออ! จบแยก! ฉันไม่คุยกับหมอนี้แล้ว ปวดหัว