ตอนที่ 3 ข้าเหนื่อยเหลือเกินแล้ว

1456 คำ
รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงนั้นทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจอย่างน่าประหลาด และไม่ใช่ความอุ่นจากขนมที่เขารับมาอย่างแน่นอน รอยยิ้มของนางทำให้เขารู้สึกไม่อยากนำทัพออกไปแต่ก็ต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งเพราะในสายตาของเขานางยังคงเป็นสตรีที่เสแสร้งเก่งไม่ต่างจากวันวานที่เคยรู้จัก เขาจะไม่มีวันตกหลุมพรางนี้โดยเด็ดขาด “เคลื่อนทัพ!!” คำสั่งสุดท้ายดังขึ้นพร้อมกับกลองรัวที่ดังอยู่ด้านหน้า เล่อชุนหลันตกใจจนเกือบหลุดอาการออกมา จินถิงรีบรับนางเอาไว้ท่านอ๋องตกพระทัยเล็กน้อยเมื่อเห็นนางยกมือขึ้นมาปิดที่ปากและรีบหันกลับไป “เจ้ารีบกลับไปพักผ่อนเถอะ เสียงกลองอาจจะทำให้ตกใจได้ พาพระชายากลับเข้าไปในตำหนักเถอะ” “เพคะท่านอ๋อง” นางย่อคำนับและรีบเดินกลับเข้าไปในตำหนักทันที แม้ว่าเขานึกสงสัยแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว เขาจึงนำทัพเดินทางออกเมืองเหลียงโจวในทันที หกเดือนผ่านไป ศึกชายแดนยืดเยื้อกว่าที่คิดมากนัก จนในที่สุดในตอนเที่ยงของวันที่ฝนกำลังจะหยุดตก ราชสำนักก็ได้รับข่าวดีว่าท่านอ๋องทรงชนะศึกและกำลังเดินทางกลับเมืองเหลียงโจว “พระชายาเพคะ ท่านอ๋องกำลังจะกลับมาแล้วเพคะ” “จริงหรือ แคก แคก” “พระชายาเพคะ” “ไม่เป็นไร เร็วเข้ารีบมาผัดหน้าให้ข้า เอาเข้มมากพอที่จะปกปิด…ผิวหน้าที่….” “พระชายาเพคะ พระองค์ยังเป็นหวัดอยู่ไม่ต้องออกไปรับเสด็จก็ได้กระมังเพคะ” “ไม่ได้ ท่านอ๋องกลับมาพร้อมชัยชนะ ข้าในฐานะพระชายาหากว่าไม่ไปเจ้าคิดว่าผู้อื่นจะคิดเช่นไรกับสกุลเล่อ เหล่าขุนนางจะคิดเช่นไรกับท่านพ่อของข้า ในตอนนี้มีแต่ผู้ที่ต้องการให้บิดาของลี่จินเซียน…รับตำแหน่ง….” “พระชายาเพคะ” “ช่างเถอะ ไข้หวัดเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเป็นกันอยู่แล้วรีบแต่งตัวให้ข้าเถอะ วันนี้อากาศดีฝนพึ่งหยุดตกช่างเป็นวันที่ดียิ่งนัก” เล่อชุนหลันเดินก้าวเท้าออกจากตำหนักเพื่อไปรอรับเสด็จท่านอ๋องยังหน้าตำหนักใหญ่ซึ่งที่นั่นมีพระชายารองรออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว เมื่อเห็นนางแทนที่ชายารองจะความเคารพตามธรรมเนียมแต่ไม่เลย นางเพียงแค่เอ่ยทักทายเท่านั้น “ท่านพี่ นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าท่านจะมีแรงเดินออกมารับท่านอ๋องด้วย ข้าคิดว่า…” “ชายารองท่านหมายความว่าอย่างไร!!” “จินถิง เงียบเถอะ” “พระชายาเพคะ” “เป็นแค่สาวใช้ยังกล้าตีฝีปากกับข้า พวกเจ้าสั่งสอนนางแทนข้าทีสิ” “หยุดนะ สาวใช้ของข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้าสั่งสอน” “ท่านพี่ นี่ท่านคิดจะ….” “ท่านอ๋องเสด็จแล้ว” “มาแล้ว ๆ กองทัพมาถึงด้านหน้าแล้ว!!” เล่อชุนหันได้ยินเสียงแตรที่ให้สัญญาณเมื่อกองทัพและเหล่าอาชาศึกค่อย ๆ เคลื่อนพลเข้ามา รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมาหลายเดือนเริ่มฉายแววมากขึ้นเมื่อกองทัพเริ่มเคลื่อนขบวนพร้อมกับธงที่โบกสะบัดอยู่ในมือขุนศึกผู้กล้า เมื่อกองทัพเคลื่อนเข้ามา รอยยิ้มที่มีก็เริ่มลดลงจนกลายเป็นคิดไม่ถึง “อะไรกัน นางคือผู้ใดกัน!!” สตรีในชุดสีขาวที่มากับท่านอ๋อง นางนั่งม้าตัวเดียวกันกับเขาเคลื่อนเข้ามาจนถึงด้านหน้าและค่อย ๆ เคลื่อนมายังตำหนักท่านอ๋อง “แม้แต่ในยามนี้ท่านก็ยังทำร้ายจิตใจข้าไม่หยุดยั้ง หยางอี้เหรินข้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกินแล้ว” เล่อชุนหลันรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อนางเห็นว่ามีสตรีอยู่บนหลังม้านั่งมากับเขาท่ามกลางความยินดีของเหล่าชาวเมืองเหลียงโจว “จินถิงข้าเหนื่อยแล้ว อยากกลับเข้าไปพักผ่อน” “ท่านพี่!! นี่ท่านจะมองอยู่เฉย ๆ เช่นนี้น่ะหรือเพคะ!!” เสียงที่โกรธจัดของพระชายารองลี่จินเซียนแผดขึ้นทำให้ชุนหลันยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม แต่นางไม่ต้องการเห็นไม่อยากรับฟังและได้ยินอะไรอีกแล้ว จินถิงและสาวใช้ในตำหนักค่อย ๆ พยุงนางกลับไปที่ตำหนัก ท่านอ๋องที่มองเห็นรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่พระชายาไม่ทันจะต้อนรับเขาก็เดินกลับเข้าไป มีเพียงชายารองที่ยืนปั้นหน้าด้วยยิ้มท่าทางประหลาดเต็มทีอยู่หน้าตำหนักเพื่อรอเขา “ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ ยินดีด้วยที่ชนะการศึกกลับมาเพคะ” “อืม ขอแนะนำ ผู้นี้คือแม่นาง “หวังเจียวเมิ่ง” นางเป็นหมอที่เก่งกาจมากและตอนทำศึกครั้งนี้นางได้ช่วยกองทัพเอาไว้หลายครั้งดังนั้น…” “ท่านอ๋องเพคะ พระองค์ทรงเหนื่อยแล้วรีบกลับเข้า…” “ชายารองเจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดงั้นหรือ เจ้ากล้าดีเช่นไรพูดขัดจังหวะข้า!!” ลี่จินเซียนถึงกับตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของท่านอ๋องที่กล้าตำหนินางต่อหน้าเหล่าทหารและกองทัพ อีกทั้งสตรีที่พึ่งมากับเขาก็เห็นได้ชัดว่านางผู้นั้นลอบยิ้มอย่างพอใจอยู่ด้านหลังท่านอ๋อง “หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ แต่ว่า…” “หึ พระชายาไปไหนเหตุใดยังไม่ทันได้มาต้อนรับก็กลับเข้าไปในตำหนัก” “นะ…นาง…ช่วงนี้พระชายาเป็นไข้หวัดเพคะ หม่อมฉันเองก็เตือนท่านพี่แล้วว่าอย่าได้ออกมาจะได้…สุดท้ายนางก็ทนยืนไม่ไหวก็เลย….” “เอาล่ะ ท่านหมอหวังข้าคงต้องรบกวนให้ท่านพักที่นี่ก่อน เสิ่นปา เสิ่นกง ให้คนจัดหาที่พักให้นางด้วย” ""พ่ะย่ะค่ะ"" “อะไรนะเพคะท่านอ๋อง ให้นางพักที่นี่งั้นหรือเพคะนางจะมาพักนานหรือไม่แล้วนางมาในฐานะอันใดเพคะ” “พระชายารองพ่ะย่ะค่ะ….” ท่านอ๋องหันไปด้วยสายตาที่ดุดัน เหี้ยมเกรียมที่ไม่เคยใช้มองนางมาก่อนเมื่อนางกล้าถามเขาเช่นนี้ “ข้าไม่จำเป็นต้องรายงานเรื่องนี้กับเจ้าทุกเรื่อง ทหาร!! ตามข้าเข้าวัง!!” “พ่ะย่ะค่ะ” ชุนหลันได้รับข่าวจากเสิ่นปา องครักษ์ส่วนพระองค์ของท่านอ๋องแล้วว่าจะมีแขกมาพักด้วยนางเป็นท่านหมอหญิงที่ช่วยเหลือกองทัพที่ช่วยท่านอ๋องและเหล่าทหารเอาไว้ “รู้แล้ว ข้าจะสั่งให้คนจัดที่พักให้นางตามคำสั่งท่านอ๋อง” “พระชายาเพคะ แต่ว่าพระองค์…ยังไม่หายดี” “แขกของท่านอ๋องต้องดูแลนางให้ดี” “พระชายา…” “เจ้าไปเอาเสื้อคลุมมาให้ข้าแล้วรีบตามมา” จินถิงส่งสายตาโกรธมาให้องครักษ์หนุ่มข้างกายท่านอ๋อง นางไม่พอใจอย่างที่สุด เสิ่นปาและเสิ่นกงนั้นคุ้นเคยกับสายตาของสาวใช้ผู้นี้ดี และพวกเขาต่างก็เข้าใจที่นางจะโกรธด้วย เรือนรับรองแขก “ถวายบังคมพระชายา” “ท่านหมอตามสบายเถิด ข้าจัดที่พักให้แล้วหากว่าเจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการเพิ่มก็แจ้งสาวใช้ได้ หากว่าไม่สะดวกสิ่งใดก็ให้คนมาแจ้งข้าส่วนรถม้าและองครักษ์ข้าจะให้เสิ่นปาจัดการให้เจ้าหากเจ้ามีธุระจะออกไปนอกจวน” “ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” นางยิ้มให้หมอหญิงอย่างรวยรินเต็มทีและเดินกลับมาที่ตำหนักทั้งความโกรธและไม่พอใจของจินถิงที่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระชายาต้องไปดูแลหมอหญิงผู้นั้นด้วย “เจ้าอย่าได้โกรธไปเลย เรามีหน้าที่ต้องดูแลในฐานะที่นางเป็นแขกของท่านอ๋อง” “แต่ว่าท่านก็ป่วยอยู่นะเพคะ” “ตัวข้าน่ะแทบจะไม่มีความรู้สึกเจ็บอะไรแล้ว รู้สึกราวกับว่ามันเจ็บซ้ำ ๆ จนแทบจะไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้เขาได้ในฐานะพระชายา” “ไม่นะเพคะพระชายาอย่าทรงตรัสเช่นนี้เลยนะเพคะ พระองค์จะต้องหายดีในเร็ววันนะเพคะ เพียงแค่ไข้หวัดเท่านั้นมิอาจจะทำร้ายพระองค์ได้หรอกเพคะ” ชุนหลันหันมายิ้มและลูบศีรษะสาวใช้เคียงกายด้วยความเอ็นดูอีกครั้ง นางเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดชุนหลันที่สุดทุกเวลา แต่ในยามนี้นางรู้แล้วว่าต่อให้ทำดีเพียงใด ผู้ที่ไม่รักทำอย่างไรก็มิอาจรักนางได้ “ไข้ของข้าเป็นไข้ใจที่ไม่มีหมอคนใดสามารถรักษาให้หายได้หรอกจินถิง และข้า…ก็จะไม่เสียเวลาที่จะรักษามันอีกต่อไปแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม