EP 1 : ไม่เคยกกใคร

1378 คำ
ตอนที่ 1 : ไม่เคยกกใคร  แอ่ด... เสียงประตูบ้านพักเปิดออกด้วยมือเรียวเล็ก ดวงตากลมโตมองไปรอบๆหลังจากเปิดไฟให้สว่างทั่วแล้ว บ้านหลังน้อยที่มีเพียงชั้นเดียวสภาพทรุดโทรมหนักกว่าบ้านตัวเองแต่ยังโชคดีที่มีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน แค่เอาเสื้อผ้ามาก็พร้อมอยู่ได้เลย ใบหน้าหวานแสดงอาการอิดโรยออกมาอย่างเห็นได้ชัดเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง ของต่างๆที่หิ้วมาถูกวางกองไว้กับพื้น ร่างอรชรเดินไปนั่งโซฟาที่ค่อนข้างเก่าภายในบ้าน คนอื่นเป็นหมอคงมีชีวิตที่สุขสบายกว่าฉัน บางคนอาจขับรถส่วนตัว บางคนอาจขึ้นเครื่องบิน แต่ฉันนั้นใช้บริการรถทัวร์ กว่าจะรอรอบ กว่าจะมาถึงจุดหมายก็กินเวลายาวนานจนฟ้ามืด หลายคนคิดกันว่าเป็นหมอแล้วสบายได้เงินเยอะ มันก็จริงอย่างที่พวกเขาพูดกันแต่ฉันยังไม่ถึงขั้นนั้น ฉันพึ่งจะจบและได้เรียกตัวเองว่าหมอเต็มปากเมื่อไม่นานมานี้เอง มีเงินพอที่จะใช้จ่าย พอที่จะเลี้ยงดูยาย ส่วนพวกรถยนต์ไม่เคยอยู่หัวของฉันเลยสักนิด ไม่เคยอิจฉาที่เพื่อนมีรถส่วนตัวกันหมดแล้ว และไม่เคยเอาสิ่งที่ตัวเองได้รับไปเปรียบเทียบกับเพื่อนคนอื่น บางคนอาจมีที่พักที่ดีกว่านี้แต่ก็แลกมาด้วยเงิน แต่ฉันเลือกที่จะอยู่ฟรีตามสวัสดิการของหมอในโรงพยาบาลชุมชน จุดที่ลำบากในชีวิตฉันผ่านมาหมดแล้ว หลังจากพ่อกับแม่เสียทุกอย่างก็มืดมน ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนและดีที่อาชีพหมอมีรัฐบาลช่วยค่าเทอม ค่าเทอมเรียนหมอไม่ใช่ถูกๆแต่เป็นอาชีพที่ฉันอยากเป็นและไม่มีทางที่จะล้มเลิกความตั้งใจ การที่ฉันมาเป็นหมออินเทิร์นที่ต่างจังหวัดเรียกง่ายๆว่ามาชดใช้ทุนค่าเรียนที่รัฐบาลได้ออกให้ระหว่างเรียนนั่นแหละ และการที่ฉันต้องมาอยู่โคราชมันคือเรื่องที่ไม่คาดคิด ไม่ต่างจากเหลืออะไรก็เลือกอันนั้นเพราะที่ดีๆคนอื่นเอาไปหมดแล้ว สุดท้ายที่นี่ก็เป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ยังพอใกล้กรุงเทพเลยเลือกมาที่นี่ อีกอย่างทำใจเรื่องสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ไว้ตั้งแต่แรก ไม่คาดหวังเท่ากับไม่ผิดหวัง ดวงตากลมโตจับจ้องไปบริเวณหน้าต่างเหล็กดัดที่มีสนิมเกาะหนาจนกลายเป็นสีน้ำตาลอมดำไปแล้ว "มันคงไม่แย่ไปทั้งชีวิตหรอกเนอะ หนึ่งปีกับการอยู่ที่นี่แค่แป๊บๆ หกปียังเรียนมาได้ ทำงานต่างถิ่นจะกลัวอะไร อีกเดี๋ยวคงชินกรุงเทพก็แค่หน้าปากซอย" ทันทีที่พูดให้กำลังใจตัวเองจบ รีบต่อสายหาคนที่ยังรอคอยโทรศัพท์จากฉัน "ยายจ๋า ฟ้าถึงบ้านพักแล้วนะจ๊ะ" (ยายค่อยหมดห่วงหน่อย เห็นฟ้ามืดแล้วยังไม่โทรมาสักที ห้องหับที่เขาเตรียมไว้ให้ดีหรือเปล่าลูก) ฟ้าใสมองไปรอบบ้านเมื่อยายถามถึงสภาพการเป็นอยู่ ประตูที่มีกลอนล็อกเพียงอันเดียว โชคดีที่หน้าต่างยังมีเหล็กดัดกันคนนอกเข้าหรือกันคนในหนีก็ไม่รู้ ผนังสีขาวกลายเป็นสีขุ่นขมุกขมัวบ่งบอกว่าที่นี่สร้างมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบปี คงใช้กันแบบรุ่นต่อรุ่น ยังดีที่มีเครื่องปรับอากาศให้คลายความร้อน "ดีมากเลยจ้ะ ประตูล็อกแน่นหนา หน้าต่างตัวล็อกไม่เสีย ทุกอย่างดูใหม่ และที่สำคัญปลอดภัยหายห่วงเลย" ปั้นคำโกหกเพื่อให้คนปลายสายสบายใจ ริมฝีปากคลี่ยิ้มต่อให้อีกคนไม่เห็น พอได้คุยกับยายทำให้ความเหนื่อยล้าหายไปเป็นปลิดทิ้ง (กินข้าวกินปลาพักผ่อนนะลูก ไม่ต้องห่วงยายเพื่อนบ้านมาหาไม่ได้พัก รับแขกไม่หยุดเพราะหลานสาวของยายบอกให้ทุกคนที่นี่ดูแลยาย) คำพูดของยายทำให้ฉันหัวเราะออกมา ก็แน่อยู่แล้วเมื่อต้องห่างกันฉันเลยบอกเพื่อนบ้านตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยให้คอยสอดส่องดูแลยายของฉันด้วย และเพื่อนบ้านของฉันนิสัยดีทุกคน อยู่กันเหมือนญาติพี่น้อง "ฟ้ารักยายนะจ๊ะ พรุ่งนี้จะเริ่มงานแล้วถ้าพอมีเวลาฟ้าจะโทรหานะ" ฉันกับยายร่ำลากันอยู่สักพักก่อนจะตัดสายกันไป บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง หลังจากพักจนหายเหนื่อยก็รีบไปเก็บของและเตรียมตัวเพื่อเริ่มงานในวันพรุ่งนี้ ________ บ้านพักสุดหรูใน จ.โคราช บ้านพักตากอากาศที่ถูกสร้างด้วยไม้สีน้ำตาลถูกเคลือบเงาวับในสไตล์โมเดิร์นเข้ากับบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกของพื้นที่แห่งนี้ บ้านไม้สีน้ำตาลอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ต้นไม้สีเขียวตัดกับสีของตัวบ้านทำให้บ้านหลังนี้ดูโดดเด่นขึ้นมา ยิ่งเมื่อฟ้ามืดลงไฟสีเหลืองอ่อนได้ทำงานส่องประกายให้บ้านหลังนี้ดูน่าหลงใหลและดึงดูดสายตา นอกจากด้านนอกจะเป็นไม้ที่ถูกประดับให้สวยหรูแล้วนั้น ด้านในก็สวยหรูไม่แพ้กัน เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ทุกอย่างทันสมัย และหรูหราสมฐานะเจ้าของบ้านหลังนี้ที่นั่งอยู่บริเวณโซฟากลางบ้าน หันหน้าออกมองวิวยามค่ำคืนที่เงียบสงบ พระจันทร์ดวงโตกำลังให้แสงสว่างไปทั่วท้องฟ้า ชายหนุ่มร่างสูงนั่งเอนกายอยู่ในอิริยาบถที่สบาย ทอดสายตามองวิวด้านนอกหน้าต่างกระจกบานใหญ่ มือหนาควงแก้วไวน์ไปพลางๆ ยกขึ้นมาจิบลิ้มรสบ้างเป็นครั้งคราว ครืด ครืด... เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังทำให้มือหนาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะกระจกด้านหน้า และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายเมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา "ว่า" คำพูดเพียงสั้นๆที่ออกจากปากบ่งบอกว่าคนที่โทรเข้ามาเป็นคนสนิท (กูให้มึงเข้ามาประชุมวันนี้นะไอ้ไฟ ไม่ใช่ให้มึงไปโคราช) "มึงเก่งอยู่แล้วไอ้ดิน" ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากกับคำพูดไม่สบอารมณ์ของพี่น้องฝาแฝดตัวเอง ไม่ได้โกรธเกลียดกันแต่เพราะความสนิททำให้พูดคุยกันแบบนี้อยู่แล้ว และไฟไม่ได้แสดงอาการสะทกสะท้านเลยสักนิด (เออ กูยอมรับว่าตัวเองเก่ง แต่มึงควรเข้ามารับรู้เรื่องราวของการประชุมด้วย) "กูรู้แล้ว" ไฟตอบทันควันเพราะมีคนคอยรายงานการประชุมวันนี้ให้เรียบร้อย แถมยังมีสรุปการประชุมเสร็จสรรพ ถึงจะไม่เข้าประชุมแต่เขาก็ไม่เคยละเลยธุรกิจครอบครัว แค่คิดว่าบางเรื่องไม่จำเป็นต้องเข้าไปนั่งฟังในห้องสี่เหลี่ยม ความอดทนกับสภาพแวดล้อมที่อุดอู้ต้องยกให้ดินพี่น้องฝาแฝด รายนั้นนิ่ง เงียบ สุขุม และทนนั่งฟังการประชุมได้เป็นวัน ซึ่งต่างกับเขาอย่างสิ้นเชิง เราเป็นพี่น้องฝาแฝดกันก็จริง แต่หน้าตาไม่ได้เหมือนกันจนแยกไม่ออก นิสัยต่างกัน การใช้ชีวิตต่างกัน รายนั้นชอบความมีขอบเขต แต่เขาชอบความอิสระ (ไปหลอกล่อใครให้ทำแบบนี้อีกล่ะ สาวๆที่บริษัทโดนมึงหลอกใช้มาไม่รู้กี่คนแล้ว) "ให้เรียกว่าใช้สมอง อย่าใช้คำว่าหลอก กูทำเพื่องานทั้งนั้น" (แต่ถ้าได้ก็เอา แล้วที่ไปโคราชนี่คงไม่ได้กกผู้หญิงไว้นะ มึงจะกกทุกจังหวัดที่ทำรีสอร์ทไม่ได้) "K คนอย่างกูไม่เคยกกใคร ถ้าชอบก็พาเข้าบ้านเลย" ไฟพูดทีเล่นทีจริง มีบ้างที่ผู้ชายจะหาเศษหาเลย ไม่ได้อยู่ในถ้ำจำศีลขนาดนั้น แต่ยังไม่เจอใครที่อยากพาเข้าบ้านสักคน สำหรับเขาถ้าถึงขั้น 'กกไข่' ด้วยความหวงแหน นั่นแปลว่า 'เธอคือคนที่ใช่' และพร้อมที่จะพาเข้าบ้านให้ครอบครัวได้รู้จัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม