ครืด~
เสียงข้อความดังขึ้นทำลายความเงียบ ส่งผลให้เจ้าของเครื่องหันกลับไปมองทันที ไวเท่าความคิดไม่ลังเลเลยที่จะเปิดอ่านข้อความปริศนาที่ถูกส่งเข้ามา
ความรู้สึกจุกหน่วงในอกกระแทกเข้าใส่อย่างจังเมื่อเห็นรูปภาพพร้อมข้อความระบุอยู่บนนั้น หน้าชาจนไม่รู้สึกอะไรเลยไปชั่วขณะ
สุดท้ายวันนี้ก็มาถึงจริงๆ สักที!
‘…ปล่อยมือจากลูกชายของฉันซะ มีผู้หญิงที่เหมาะสมกับเคนมากกว่าเธอ ถ้าเธอรักลูกฉันจริง ไม่คาดหวังอะไรจากเขาจริงๆ ปล่อยเขาเป็นอิสระเถอะ ปล่อยเขาไปมีชีวิตที่มันดีกว่า ถือว่าคนเป็นแม่ขอร้องก็แล้วกัน’
ใบหม่อนกำโทรศัพท์ในมือจนแน่น ชาไปทั้งใบหน้าจนเหมือนอีกคนที่ยังมองเธออยู่จะรู้สึกได้
“อะไร มีคนยุ่งกับแฟนเธอ?” ใบหน้าสะสวยสั่นรัวแทนคำตอบ แม้ไบรอันจะเห็นทุกอย่างในโทรศัพท์เธอตอนที่เธอมัวแต่อึ้งแล้วก็ตาม
ก่อนจะได้คุยอะไรไปมากกว่านั้น โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือก็สั่นสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง แว๊บหนึ่งที่ตากลมใสหันมองเจ้าของห้อง ลึกๆ ก็รู้สึกเกรงใจและยังวางตัวในการอยู่ร่วมกันได้ยังไม่ดีพอ
“ตามสบาย ฉันไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธออยู่แล้ว” บอกแค่นั้นไบรอันก็กระชากตัวลุก ขายาวก้าวเข้าไปในห้องนอน ปล่อยตากลมใสให้มองตามหลังจนลับสายตาถึงได้หันกลับมาโฟกัสที่โทรศัพท์แทน
รายชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอและแรงสั่นสะเทือนยังคงไม่หยุดส่งผลให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ
ใบหม่อนเคยรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้คุยกับคนในสาย เคยมีความสุขมากกว่าตอนนี้ ตอนที่เราแค่คุยกัน แค่สนิทกัน แต่พอตัดสินใจที่จะคบกัน ทุกอย่างมันกลับไม่สวยงาม
เหตุผลก็แค่สั้นๆ เราต่างกันมากเกินไป เขาอยู่สูง ในขณะที่เธอติดดินจนถูกมองว่าไม่เหมาะสม เอาจริงๆ แทบไม่รู้เลยว่าไอ้คำว่ารอที่เราทั้งคู่มีให้กันเราจะรักษามันไว้นานแค่ไหน
“พี่เคน…”
(หม่อน มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ไปหาหม่อนที่บ้านถึงไม่เจอ รู้หรือเปล่าว่ามีคนอื่นย้ายเข้าไปอยู่บ้านหม่อนแล้วนะ) น้ำเสียงร้อนอกร้อนใจทำให้เข้าใจได้ว่าเขายังห่วงเธอ ยังคงไปหาเธอที่บ้าน แม้ว่าครอบครัวของเขาจะไม่ชอบอะไรในตัวเธอเลยก็ตาม
(เจ้าของที่กลั่นแกล้งอะไรหรือเปล่า มันติดปัญหาตรงไหน หม่อนบอกพี่ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจเลย)
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ หม่อนย้ายออกแล้ว”
(ย้ายออกเหรอ ทำไมมันถึงปุบปับขนาดนี้ล่ะ มีอะไรหรือเปล่า มีเรื่องอะไรไม่สบายใจไหม หม่อนรู้ใช่ไหมว่าหม่อนคุยกับพี่ได้ทุกเรื่อง หม่อนย้ายไปอยู่ที่ไหน)
“แล้วพี่เคนล่ะคะ พี่คุยกับหม่อนทุกเรื่องไหม มีเรื่องอะไรที่หม่อนต้องรู้แล้วพี่ยังไม่บอกหรือเปล่า” เอ่ยถามออกมาตรงๆ เพราะตัวเธอเองก็ทำใจเอาไว้นานแล้ว
ต่อให้เราสองคนจะรู้สึกดีต่อกันมากแค่ไหน สุดท้ายคนระดับเขามันก็ต้องมีปัจจัยอย่างอื่นเข้ามาข้องเกี่ยวอยู่ดี ครอบครัวของเขาไม่ได้ยินดีที่จะต้อนรับเธอ เขามองเห็นคนอื่นที่เหมาะสมมากกว่า แล้วจะให้เธอเอาอะไรไปสู้ มันไม่มีหรอก ไม่มีจริงๆ
(หม่อน คือพี่…)
“หม่อนขอบคุณพี่มากนะคะสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา มันดีทุกอย่าง มันดีมากจริงๆ และหม่อนก็เข้าใจด้วยว่าปัญหาของเราที่มันเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ มันเป็นเพราะตัวหม่อนเอง”
(แต่พี่ไม่ได้ต้องการให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนั้น)
“แต่จริงๆ แล้ว พี่เคนกับคุณหมอคนนั้น ก็เหมาะสมกันดีนะคะ”
(หม่อน…)
“ในเมื่อที่บ้านของพี่ชอบเขา ทุกอย่างมันมีแต่คำว่าเหมาะสม และถ้าพี่สองคนคบกันตัวพี่เองก็จะก้าวหน้า มันก็มีแต่เรื่องดีๆ ไม่ใช่เหรอคะ หม่อนไม่โอเคนะคะถ้าจะต้องเข้าไปเป็นตัวถ่วงในชีวิตพี่ หม่อนไม่ได้ต้องการแบบนั้นจริงๆ นะพี่เคน”
(แต่หม่อนเองก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าหัวใจของพี่มันเป็นของใคร เรารู้สึกแบบเดียวกัน เรารู้สึกดีต่อกัน เราควรจับมือกันด้วยความเข้าใจไม่ใช่เหรอ)
“หม่อนว่าเราเสียเวลามามากพอแล้วนะคะ เราไปต่อไม่ได้หรอก พี่เคนไปต่อเถอะนะคะ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเถอะ ระหว่างเรามันได้แค่นั้นจริงๆ”
(หม่อน หมายความว่า…)
“เราเลิกกันเถอะค่ะ หม่อนว่ามันถึงเวลาแล้วนะคะที่เราจะพูดคำนี้และแยกย้ายกันจริงๆ สักที”
(ทำไมถึงคิดแบบนี้ มีใครไปพูดอะไรใช่ไหม หม่อนแค่บอกพี่)
“มันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ มันไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ พอเถอะนะคะ พี่เคนกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองเถอะ และต่อไปก็ไม่ต้องโทรกลับมาเบอร์นี้แล้วนะคะ หม่อนไม่สะดวกที่จะรับสายพี่อีกต่อไป”
ไบรอันมองภาพเคลื่อนไหวของคนด้านนอกผ่านกล้องวงจนปิด ไอแพดวางบนต้นขาแกร่ง สายตาที่มองยากเกินจะคาดเดา
“บอกเลิกเองแท้ๆ แต่ดันขี้แยร้องไห้นี่นะ ย้อนแย้งดีจริงๆ” ริมฝีปากหยักได้รูปพร่ำออกมาเบาๆ ทิ้งสายตามองคนที่ซุกหน้ากับฝ่ามือของตัวเองก่อนจะดึงไอแพดออกจากต้นขา
เท่าที่เคยได้ยินมาและประเมินสถานการณ์ตรงหน้าก็รู้แล้วว่าเธอยอมโดนเทเพราะรู้ว่ามันไม่มีทางไปต่อได้ อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้เขาพอใจว่าหากถึงทีของเขา เธอก็จะไม่ทำตัวให้มีปัญหา ไม่ล้ำเส้นวุ่นวายสร้างความรำคาญใจให้เขาอย่างแน่นอน
**********************
ชอบบ้างไหมคะ ถ้าชอบฝากกดไลก์และคอมเมนต์ให้เนมหน่อยน้าาาา~ 🫶🏻🫶🏻🫶🏻🧸🧸