“…ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า” ไบรอันหันหน้าไปถามลูกน้องคนสนิทในตอนที่รถจอดเทียบท่าเรือ
นิ้วยาวเหยียดหมุนนาฬิกาข้อมือพร้อมกับเหลือบตามองเวลาในขณะที่ประตูรถเปิดออกพอดี
“เรียบร้อยดีครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
“ดี” ตอบกลับลูกน้องก่อนจะหันไปรั้งข้อมือของคนที่นั่งรถมาด้วยกันตลอดทาง ดึงเธอลงจากรถพร้อมเขาก่อนที่ทุกคนจะมุ่งตรงไปยังเรือที่จอดเทียบฝั่งรออยู่
“นะ…นี่เราจะนั่งเรือกันเหรอคะ” ตากลมโตกลอกกลิ้งมองไปรอบๆ บริเวณอย่างหวาดระแวง สุดท้ายไบรอันคือที่พึ่งเพียงคนเดียวที่เธอไว้ใจได้ พลันความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว มือบางลวงตากระตุกท่อนแขนแกร่งอย่างแรงพร้อมกับดันตัวเข้าไปกอดแขน ส่งผลให้มาเฟียหนุ่มหยุดเดินทันที
“อะไร”
“หม่อนว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ”
“เดี๋ยวนะ โตขนาดนี้เธอบอกว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็น?” คนถูกถามพยักหน้าหงึกหงักพร้อมกับมองอีกฝ่ายตาใส
“ไอ้ที่กอดฉันแน่นนี่เพราะกลัวน้ำ หรือในความคิดเธอ เธอคิดว่าฉันจะส่งเธอไปขายกันแน่”
“มะ…ไม่”
“ไม่ได้คิดแบบที่ฉันพูด?”
“พี่ไบรท์ไม่คิดแบบนั้นหรอก อย่างหม่อนจะขายได้สักกี่บาท ไม่มีใครเขาซื้อหรอก ขืนซื้อไปก็เอาไปเป็นภาระเปล่าๆ”
“แล้วไม่บอกแบบนี้ตั้งแต่วันที่ฉันชวนเธอมาอยู่กับฉันล่ะ แบบนี้ภาระก็ตกอยู่ที่ฉันอ่ะดิ”
“ไม่หรอก อย่างน้อยๆ หม่อนก็ทำแกงจืดวุ้นเส้นได้ถูกใจพี่ไบรท์นะ”
“แค่นั้น?”
“ก็เราตกลงกันแล้วอ่ะ เราคุยกันแล้ว ถือว่าเลี้ยงหมูเลี้ยงหมาเอาบุญเถอะ หม่อนไม่ดื้อไม่ซนเลย” เสียงออดอ้อนพร้อมกับการกอดแขนมาเฟียหนุ่มจนแน่นกระตุ้นให้ลูกน้องของไบรอันพลอยยิ้มตาม จนกระทั่งผู้เป็นนายตวัดสายตามองแรงใส่ ทุกคนถึงกับมองไปคนละทิศคนละทาง
“ใครว่าฉันจะเอาเธอไปขาย ขายไปก็ไม่มีคนซื้ออยู่ดี นี่ถ้าปล่อยลงทะเลให้เป็นอาหารกุ้งอาหารปลา ปลามันยังไม่กินเลย”
“ใช่เลยครับนาย” โอมมือขวาคนสนิทเอ่ยสมทบ คนเป็นนายถึงกับยิ้มกริ่มขึ้นมาเลย
“ใช่ไหม มึงว่าเหมือนกูเลยใช่ไหมโอม”
“ใช่ครับ ผมว่าปลาไม่เข้าใกล้คุณหม่อนแน่ๆ”
“พี่โอม หม่อนอุตส่าห์ชมว่าพี่หน้าตาดีที่สุด หล่อสุดในทีมเชียวนะ” หันไปทำหน้างอใส่ลูกน้องของไบรอัน ซึ่งเป็นคนที่เธอเจอบ่อยและพูดคุยกันอยู่บ่อยครั้ง
ไอ้เราก็คิดว่าพวกพี่ๆ จะเอ็นดูเธอบ้าง ไหนไม่เป็นแบบที่คิดเลย
“ที่โอมมันพูดน่ะถูกแล้ว มีตรงไหนบ้างที่ไม่จริง” ไบรอันเลิกคิ้วใส่คนที่แต่งหน้ามาซะสวย แต่หน้าสวยๆ ผมหอมๆ กำลังถูกคลื่นของทะเลซัดลมเข้าใส่เป็นระลอกจนผมเกือบจะยุ่งเหยิง
“ใช่สิ หม่อนไม่มีพวกนี่นา”
“รู้ไว้ก็ดี นี่มันลูกน้องฉัน พวกมันไม่มีทางเข้าข้างเธอมากกว่าฉัน”
“เอ่อ..ที่ผมบอกว่าพวกกุ้งพวกปลามันไม่เข้าใกล้คุณหม่อน ไม่ได้แปลว่ามันเมินนะครับนาย”
“เอ๋…” คนไม่มีพวกหันไปมองมือขวามาเฟียทันที
“ที่ไม่เข้าใกล้ เพราะพวกมันคิดว่าคุณหม่อนเป็นหลอดไฟมากกว่า ขาวเป็นหลอดนีออนเลยนะครับนาย”
“เนี่ย~ ไม่เสียแรงที่หม่อนชมว่าหล่อสุดในทีม” คนพูดระบายรอยยิ้ม แตกต่างจากอีกคนที่มองแรงใส่ลูกน้องตัวเองทันที
“ตาบอดสี เดี๋ยวมีคำสั่งให้พักงานยาวๆ” คาดโทษใส่ลูกน้องของตัวเองก่อนจะมุ่งหน้าลงไปที่เรือ
“…นายจะเช็กของก่อนไหมครับ” ลูกน้องที่เฝ้าเรือเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ใบหม่อนสังเกตเห็นว่าลูกน้องของไบรอันในเรือเยอะมาก ไม่ได้แอบฟังอะไรขนาดนั้นเลยไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
จนกระทั่งมาเฟียหนุ่มเดินไปยังลังเก็บสินค้า เพียงแค่เขาเปิดออกแล้วหยิบของที่อยู่ในนั้น ใบหม่อนทำตาโตยกมือขึ้นปิดปากทันที
“นายครับ…” โอมส่งสัญญาณให้ผู้เป็นนายเล็กน้อย มาเฟียหนุ่มตวัดสายตาไปมองคนตัวเล็กทางด้านหลัง จากนั้นก็ดึงสายตากลับมายังอาวุธในมืออีกครั้ง ตรวจสอบจุดที่ควรตรวจสอบจนแน่ใจก่อนจะวางของในลังเก็บสินค้าตามเดิม
“ไมเคิลใกล้ถึงหรือยัง”
“ใกล้แล้วครับ เฮียเลอร์กับเฮียลันรออยู่ด้านใน” โอมผายมือเข้าไปยังห้องพักบนเรือ เห็นเจ้านายกดใบหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะผละตัวเข้าไปหาคนแปลกหน้าสำหรับที่นี่แทน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ตกใจงั้นเหรอ?”
“กล่องพวกนี้…ของพวกนี้คือปืนงั้นเหรอคะ” เอ่ยถามออกมาด้วยแววตาที่เริ่มแปลกไป
“ที่ตกใจเพราะเห็นว่าของด้านในคืออะไรสินะ”
“สรุปเหตุผลที่พี่โดนลอบทำร้าย มันเป็นเพราะงานพวกนี้ใช่ไหม ธุรกิจสีเทา” ท่าทีของเธอที่ถอยห่างจากเขาส่งผลให้ไบรอันหลุดเสียงหัวเราะออกมาทันที
“เธอแคร์งั้นเหรอ เงินของฉันหรือเปล่าคือสิ่งที่เธอต้องแคร์” แววตาจริงจังคือคำตอบว่าความคิดของเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรคนอย่างเขาได้ทั้งนั้น
เขาจ้างเธอมา สิ่งที่เธอควรแคร์มันก็เป็นแค่เงิน อย่าได้ริอ่านมาสนเรื่องอื่น เพราะสุดท้ายคนอย่างเขาก็ไม่แคร์อยู่ดี!
ทิ้งช่วงเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงเรืออีกลำก็มาจอดเทียบ ไมเคิลปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับลูกน้องอีกห้าคน
“ไบรอัน ยินดีที่ได้เจอ” ไมเคิลทักทายคนที่อายุน้อยกว่าตามประสาคนที่ทำธุรกิจร่วมกันมานาน คนถูกทักทายยิ้มรับ ปล่อยให้ลูกน้องของไมเคิลเช็กของก่อนจะพาไมเคิลเข้าไปสมทบกับพวกเฮียที่นั่งรออยู่ด้านใน
“อลัน ไคเลอร์ สบายดีนะ ไม่ได้เจอกันมาพักใหญ่ เหมือนจะมีคนที่ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงนะ” ไมเคิลทักทายทุกคนในห้อง กวาดสายตามองออกไปรอบๆ ก่อนจะหยุดสายตาที่ใบหม่อนอย่างตั้งใจ
“มึงก็ขี้เสือกเหมือนเดิมเลยนะ ไอ้ที่กำลังมองว่าชีวิตของคนอื่นมีความเปลี่ยนแปลง ตัวมึงล่ะ เลิกเหี้ยแล้วกลับตัวเป็นคนดีได้ไหม” ไคเลอร์ยกยิ้มที่มุมปาก สังเกตุเห็นความผิดปกติบนใบหน้าไบรอันเล็กน้อย เสมือนกับว่ามันกำลังรู้สึกไม่สบอารมณ์กับอะไรบางอย่าง
“กูจะเปลี่ยนก็ต่อมึงเปลี่ยนพร้อมกู”
“ไม่เช็กของพร้อมลูกน้องหน่อยเหรอ จะได้เสร็จเร็วๆ”
“มึงรีบเหรอลัน”
“อ่า พอดีว่าเมียท้อง” อลันตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาไม่ชอบสุงสิงกับคนอื่น วันนี้ก็ไม่ได้อยากดื่มหรืออยู่ดึกจนเมียต้องรอ
“อ้อ..มึงมีเมีย แล้วไอ้ไบรท์ล่ะ คนข้างๆ น่ะเด็กหรือเมีย”
***************************