แพ้รักเก่า - 9 เซอร์ไพรส์

1219 คำ
งานเลี้ยงดำเนินไปเรื่อยๆ มันช่างแสนจะน่าเบื่อสำหรับฉัน มองไปทางไหนก็เจอแต่คนที่มีฐานะ มีหน้าตาทางสังคม ทุกคนต่างพูดคุยกันเรื่องธุรกิจ ส่วนฉันก็ได้แต่ฟังเงียบๆ มาลิคไม่ปล่อยให้ฉันไปไหนคนเดียว ขนาดเข้าห้องน้ำก็ยังสั่งให้ลูกน้องตามไปด้วย มันอึดอัดมากอยากให้งานนี้จบลงสักที ฉันมองมาลิคที่กำลังพูดคุยกับผู้ใหญ่ในงาน ลูกน้องเขาก็ออกไปสูบบุหรี่ด้านนอก จึงใช้จังหวะนี้ปลีกตัวออกมาห้องน้ำ รู้ว่าหากมาลิครู้เขาคงหงุดหงิดมาก แต่อยู่ตรงนั้นฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของตัวเองเลยจริงๆ “อื้อ ใจร้อนจังเลย เบาๆ สิคะช้ำหมดแล้ว” “เดี๋ยวมีคนมาได้ยินนะคะ อื้อ ตัวแดงหมดแล้ว” ทันทีที่ก้าวขาเดินเข้ามาในห้องน้ำก็ได้ยินเสียงแว่วมา ฉันรีบเม้มปากแน่นเพราะน้ำเสียงแบบนั้นบวกกับคำพูดชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหน นี่ขนาดห้องน้ำงานเลี้ยงที่มีแต่คนใหญ่คนโตก็ยังไม่เว้นหรอเนี่ย คนรวยชอบแบบนี้สินะ มันคงเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับพวกเขา ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำอีกห้องที่ว่าง ไม่ได้จะทำธุระส่วนตัวอะไรแค่กลัวลูกน้องของมาลิคจะหาตัวเจอก็เลยเข้ามาแอบ ขอนั่งเงียบๆ ในนี้สักครึ่งชั่วโมง “คุณคาแลน อื้อ อารมณ์ร้อนไม่เปลี่ยนเลยนะคะ” “หุบปากไปซะ ร้องอะไรนักหนากลัวคนอื่นไม่ได้ยินรึไง” เฮือก!! หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไหวเมื่อได้ยินชื่อที่ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขึ้นไหนจะน้ำเสียงตอบกลับที่คุ้นหู ฉันกำมือแน่นพยายามเตือนตัวเองว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันคาแลนมีสิทธิ์จะทำกับใครก็ได้ แต่ทำไมมันหน่วงและเจ็บที่อกข้างซ้ายขนาดนี้กัน เพราะไม่อยากได้ยินเสียงอะไรต่อ ไม่อยากรับรู้ ฉันตัดสินใจเปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินออกมา ไม่คิดว่าห้องตรงข้ามก็จะเปิดประตูออกมาพร้อมกัน สายตาทั้งสองคู่ประสานกันอย่างไม่ตั้งใจ เป็นคาแลนจริงๆ เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ไม่ค่อยเรียบร้อยบ่งบอกว่าทั้งคู่เข้าไปทำอะไรกันในห้องน้ำ ผู้หญิงคนนั้นดูหงุดหงิดนิดหน่อย เธอไม่สนใจว่าฉันจะสงสัยอะไรไหม ออกมาจากห้องน้ำแล้วก็รีบเดินออกไปเลย ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ฉันกับคาแลนที่ยังยืนมองหน้ากันอยู่ “อะ เอ่อ ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะไม่บอกใคร” พอตั้งสติได้ก็รีบบอกทันที นี่มันจังหวะนรกจริงๆ “เรื่องอะไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามพร้อมหัวคิ้วที่ขมวดเค้ม “ก็….ที่คุณกับผู้หญิงคนนั้น” “หืม?” “ปะ เปล่าๆ ค่ะ คือ ขะ ขอตัวก่อน….” ยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ คาแลนก็ดึงฉันมาที่หน้ากระจก เขาใช้สองมือจับสะโพกยกตัวฉันลอยขึ้นมานั่งบนขอบอ่างล้างมือ “ได้ยินว่าอะไรบ้าง” “ไม่ได้ยินอะไรเลยค่ะ” ตอบแล้วก็รีบก้มหลบสายตาที่กำลังจับผิด หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวๆ ในตอนที่ใบหน้าคมคายก้มลงมาใกล้ “มาลิคมันไม่ส่งหมาคอยตามเธอหรือไง” “จริงสิป่านนี้คงกำลังตามหาฉันอยู่ ขอตัวนะคะ” ฉันพยายามหาทางหนี ดันแผงอกแกร่งออกห่างแต่เหมือนคาแลนจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ เราไม่ควรอยู่ใกล้กันแบบนี้อีกแล้วไม่ใช่หรือไง แต่ทำไมถึงทำไม่เคยได้เลยสักครั้ง “นอกจากเจ้านาย มาลิคมันเป็นอะไรสำหรับเธออีก?” ฉันรู้ รู้ว่าคาแลนหวังคำตอบ และฉันก็รู้ว่าควรตอบยังไงเพื่อให้อีกฝ่ายยอมถอยห่างออกไป “ควงมางานแบบนี้ต้องให้บอกด้วยหรอคะ คุณคาแลนเป็นคนฉลาดคงเดาได้ไม่ยาก” “นั่นสิ ฉันไม่น่าสงสัย” แววตาที่เคยสงสัยเปลี่ยนเป็นดุดัน ลมหายใจร้อนผ่าวถูกพ่นออกมากระทบใบหน้าของฉัน “ปล่อยได้แล้วค่ะ ฉันไม่อยากมีปัญหากับคุณมาลิค” ฉันพยายามดันตัวเองออก แต่คาแลนกลับโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ “มันเลี้ยงเธอด้วยอะไรทำไมถึงเชื่องขนาดนี้” ฉันมองหน้าเขาและเตือนตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ว่าอย่าหวั่นไหว ก่อนจะตอบ “เงินไงคะ” “ฉันก็มี เธออยากได้มากขนาดไหน?” “ไปหาดูในห้องน้ำสิ” เสียงลูกน้องของมาลิคกำลังวุ่นวายอยู่หน้าห้องน้ำพอได้ยินแบบนั้นฉันก็เบิกตากว้าง พยายามดันตัวเองออกจากคนตัวสูงตรงหน้า “อย่าทำแบบนี้ อยากเดือดร้อนหรอคะ” “เดือดร้อน? หึ! มันจะทำอะไรได้” “เขาทำได้มากกว่าที่คุณคิดก็แล้วกัน” ฉันพยายามเตือนอ้อมๆ แต่เหมือนคาแลนจะไม่ค่อยใส่ใจ ใบหน้าคมคายก้มลงมาบดขยี้จูบบนริมฝีปาก ทำให้ฉันตกใจเพราะถ้าลูกน้องมาลิคมาเจอมีเรื่องแน่ๆ แต่ไม่นานคนตัวสูงก็ถอดถอนริมฝีปากออก จากนั้นก็ถอยห่างจากตัวฉัน ไม่มีเวลาให้คิดอะไรมากพอเป็นอิสระฉันก็รีบออกจากห้องน้ำทันที “หายไปไหนมาครับ นายหงุดหงิดมากเลยตอนนี้” พอลูกน้องมาลิคเจอฉันก็รีบมาประชิดตัวแล้วถามทันที ฉันไม่ตอบอะไรเดินตามชายที่อยู่ในชุดสูทสีดำกลับมาในงานเลี้ยงอีกครั้ง พอเจอมาลิคก็ถูกสายตาของเขาจ้องเขม็งทันที แต่เพราะมีผู้ใหญ่ในงานเขาก็เลยไม่ทำอะไร “ฉันต้องขึ้นไปพูดอะไรบนเวทีนิดหน่อย เธอต้องขึ้นไปด้วยเตรียมตัวดีๆ” “ทำไมต้องขึ้นไปกับคุณด้วยละคะ งานนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับมิลาเลย” “เกี่ยวสิ เธอเป็นคนสำคัญของฉันนะมิลา” รู้สึกไม่ค่อยดีกับรอยยิ้มมุมปากของคนเจ้าเล่ห์อย่างมาลิคเลย ไม่นานมาลิคก็ต้องขึ้นไปพูดกล่าวขอบคุณแขกในงานโดยมีฉันยืนอยู่ข้างๆ เขาบนเวที มองไปด้านหน้าตรงนี้เห็นคาแลนชัดมากๆ และแน่นอนว่าสายตาเย็นชาคู่นั้นของเขากำลังจดจ้องมายังใบหน้าของฉัน มาลิคกล่าวขอบคุณคาแลนที่มาร่วมลงทุนด้วยกัน คำพูดสวยหรูพวกนั้นล้วนเป็นคำลวงทั้งหมด “ผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่อยากจะบอกให้ทุกคนรู้” จู่ๆ มาลิคก็เอาแขนโอบมาที่เอวของฉันแล้วดึงให้แนบชิดกับตัวเอง ก่อนจะพูดต่อ “หลายคนคงสงสัยว่าผู้หญิงที่ยืนข้างๆ ผมตอนนี้คือใคร” “………..” ตอนนี้มาลิคกำลังจ้องหน้าคาแลนอยู่ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ “เธอชื่อมิลา เป็นว่าที่คู่หมั้นของผมครับ” หลังจากเสียงประกาศลั่นของมาลิคแขกในงานต่างฮือฮากันใหญ่ ส่วนฉันก็นิ่งค้างเพราะไม่รู้อะไรเลย เขาทำเกินไปแล้ว มายัดเยียดสถานะบ้านี่ให้ทั้งที่ไม่ต้องการได้ยังไง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม