ไม่ชอบตื่นเช้า

1149 คำ
วันนี้เป็นวันทำงานอย่างจริงจังวันแรกหลังจากที่สองวันก่อนหน้านี้สาริศาเข้าไปรายงานตัวกับหัวหน้าสำนักงานหอสมุดมาแล้วเธอก็พอจะทราบเครือข่ายงานคร่าวๆ ว่าเธอต้องทำงานที่หอสมุดเป็นหลักแต่ก็อาจจะมีหมุนเวียนไปตามห้องสมุดคณะต่างๆ ถ้าหากว่าช่วงนั้นบรรณารักษ์ประจำคณะไม่อยู่ สาริศาค่อนข้างตื่นเต้นหญิงสาวแต่งตัวเสร็จตั้งแต่เจ็ดนาฬิกาและรอให้ถึงเวลาแปดนาฬิกาเพราะเธอนัดกับปีขาลไว้ พอถึงเวลาแปดนาฬิกาตรงหญิงสาวเปิดประตูออกมากำลังลังเลว่าจะกดออดเรียกปีขาลดีหรือเปล่าแต่มือเล็กๆ ที่กำลังจะเอื้อมก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเขาเปิดประตู “ทำไมอาเสือยังใส่ชุดนี้อยู่คะ หนูต้องรีบไปทำงานแล้วนะ” หญิงสาวโวยวายเมื่อเห็นปีขาลสวมกางเกงวอร์มกับเสื้อยืดดูยังไงก็ไม่เหมือนกับคนพร้อมจะไปทำงานเลย “อาก็กำลังจะไปส่งเจ้าเอยอยู่นี่ไง ถ้าไม่อยากสายก็เดินตามมา” ปีขาลก้าวเท้ายาวๆ เดินนำหน้าสาริศาวิ่งตาม “แล้วทำไมเอาเสือยังใส่ชุดนี้ล่ะคะ” “อาไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทแต่เช้าหรือเข้าบริษัททุกวันหรอกนะเจ้าเอย” “หนูลืมไปค่ะว่าอาเสือเป็นเจ้าของบริษัท แล้วแบบนี้ลูกน้องจะไม่ว่าอะไรเหรอคะ เจ้านายไปทำงานสาย” หญิงสาวถามขณะที่เขากำลังกดปิดประตูลิฟต์ “มีลูกน้องที่ไหนมันนินทาเจ้านายบ้างล่ะ” “มีเยอะแยะไปค่ะ ตอนหนูไปฝึกงานนะพอเจ้านายไม่อยู่พวกเขาก็นินทา” “รวมถึงเธอด้วยใช่ไหมล่ะ” “ก็มีนิดหน่อยค่ะ บริษัทของอาเสือก็คงจะมีเหมือนกันนั่นแหละ” “มันก็มีทุกที่อย่างที่เธอว่านั่นแหละแต่อาไม่สนใจหรอกจะถ้าทำงานออกมามีประสิทธิภาพก็ไม่เห็นจะต้องสนใจเลย” “แล้วตอนเย็นอาเสือจะไปรับหนูหรือเปล่า” “ถ้าอาไม่ไปรับเจ้าเอยจะกลับคนเดียวได้ไหมล่ะ” เพราะสองวันมาที่ผ่านมาเขาเธอไปส่งที่มหาวิทยาลัยและพยายามสอนเธอว่าเวลาต้องขึ้นรถไฟฟ้าต้องลงที่สถานีไหมถึงจะใกล้ที่สุด “หนูยังไม่กล้ากลับคนเดียวอาเสือไปรับได้ไหมคะ” “ถ้ายังไม่กล้ากลับคนเดียวแล้วจะถามทำไม ว่าอาจะไปรับไหม” ปีขาลรู้สึกหงุดหงิดเพราะปกติแล้วเขาไม่ใช่คนตื่นเช้าเท่าไหร่ ระยะทางจากคอนโดมิเนียมของเขาไปมหาวิทยาลัยที่สาริศาทำงานอยู่กินเวลาไม่ถึงสิบนาที “อย่าลืมมารับหนูนะคะอาเสือ” “รู้แล้วไม่ต้องย้ำแล้วจะให้มารับกี่โมง” ปีขาลถามเมื่อจอดรถหน้าสำนักหอสมุด “เดือนนี้หนูเลิกงานประมาณห้าโมงเย็นค่ะ” “หมายความว่ายังไงเดือนนี้เลิกงานห้าโมงเย็นแล้วเดือนหน้าล่ะ” “เดือนหน้าก็แล้วแต่ว่าวันไหนจะเลิกงานตอนไหน เพราะหอสมุดปิดสองทุ่มถ้าเป็นช่วงสอบก็ปิดสี่ทุ่ม” “แล้วเธอไม่ต้องทำงานตั้งแต่เช้าถึงสี่ทุ่มเลยเหรอ” “ถ้าวันไหนต้องทำถึงสี่ทุ่มหนูก็เข้างานประมาณสิบโมงค่ะเราจะสลับกันไปไม่ได้ทำดึกทุกวันสักหน่อย” “แล้วมีวันหยุดกับเขาไหมล่ะ” ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เพราะสมัยที่ตนเองเรียนก็ไม่ได้ค่อยเข้าห้องสมุดเลย “วันเสาร์ทำงานเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นค่ะ แต่ก็จะมีบางเสาร์ที่เราได้หยุดส่วนวันอาทิตย์และก็วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ได้หยุดเหมือนคนอื่น” เธออธิบายตามที่หัวหน้าบอก “ค่อยยังชั่วหน่อยนึกว่าจะทำงานตลอด” “ใครเขาจะทำงานตลอดทั้งเจ็ดวันแบบนั้นล่ะคะ” “เย็นนี้ก็รออยู่ที่นี่เข้าใจไหม” “เข้าใจค่ะ” หญิงสาวมาถึงก่อนเวลาทำงาน 15 นาทีเธอตอกบัตรเข้างาน จากนั้นก็เดินเข้าไปนั่งรอหัวหน้าหอสมุดเพราะวันนี้นอกจากเธอจะมาทำงานเป็นบรรณารักษ์แล้วยังมีเจ้าหน้าที่หอสมุดยังมีพนักงานอีกสองคนที่มาเริ่มงานพร้อมกับเธอ สำนักหอห้องสมุดแห่งนี้เป็นหอสมุดขนาดใหญ่เดิมที่มีบรรณารักษ์อยู่แค่สองคนและทางมหาวิทยาลัยก็รับเธอมาเพิ่มซึ่งกว่าสาริศาจะได้มาที่นี่ทำงานที่นี่ก็ต้องมีการสอบแข่งขันทั้งข้อเขียนสอบปฏิบัติและสอบสัมภาษณ์วุ่นวายไปหมดแต่เธอก็สามารถผ่านด่านนั้นมาได้อย่างดี “มาแต่เช้าเลยนะเจ้าเอย” “สวัสดีค่ะพี่หญิง สวัสดีค่ะพี่แป้ง” สาริศายกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองที่ตามมาทีหลังเธอไม่ถึงห้านาที “สวัสดีจ้ะเจ้าเอย เดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บด้านหลังนะที่นี่จะมีล็อกเกอร์ให้ไว้เก็บของมีค่า” “ค่ะพี่แป้ง” สาริศาเดินตามรุ่นบรรณารักษ์ไปยังห้องทางด้านหลัง ห้องล็อกเกอร์เป็นห้องไม่กว้างมากมีล็อกเกอร์อยู่ประมาณ 20 ล็อก ตรงกลางห้องครึ่งมีโต๊ะสองตัววาง มุมหนึ่งเป็นตู้เย็นและมุมกาแฟ “ที่นี่จะเป็นห้องพักนะ เอยเราสามารถเข้ามาพักที่นี่ได้ถ้าถึงเวลาพักของเรา มุมกาแฟกับขนมตรงนั้นใครจะกินอะไรก็ได้พวกเราจะผัดกันซื้อมาน่ะ” “แต่วันนี้เอยยังไม่ได้ซื้อมาเลย” “ไม่เป็นไรเอยก็กินของพี่ๆ ไปก่อนเอาไว้โอกาสหน้าก็ค่อยซื้อมาเติมก็ได้ ส่วนการทานข้าวจะทานที่นี่หรือจะไปทานที่โรงอาหารของมหาลัยก็ได้นะแต่ที่นั่นคนจะเยอะหน่อยแล้วก็มีอีกที่ตรงตึกคณะวิศวะตรงนั้นจะมีก็จะมีร้านอาหารเหมือนกัน” “แล้วส่วนใหญ่พี่ๆ ที่นี่เขาจะทานข้าวที่ไหนกันเหรอคะ” “คนอื่นก็ไปทานโรงอาหารของมหาลัยบ้างออกไปกินข้างนอกหรืออาจจะสั่งมาทานที่นี่ก็ได้ ส่วนก็ทำมาจากบ้าน” “พี่แป้งขยันจังเลยนะคะ” “พี่ไม่ได้ขยันอะไรหรอกเอยพี่เป็นความดันโลหิตสูง ทานอาหารนอกบ้านไม่ค่อยได้เพราะเขาจะใส่ผงชูรสเยอะก็เลยเลือกที่จะทำมาจากบ้านดีกว่า แต่ถ้าช่วงไหนยุ่งจริงๆ ก็ต้องพึ่งร้านค้าแต่ก็ต้องบอกเขาว่าไม่ใส่ผงชูรส เดี๋ยวเราเก็บของและแล้วออกไปข้างนอกนะเดี๋ยวพี่จะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น” “ค่ะพี่แป้ง” สาริศาเอาของเก็บในล็อกเกอร์ล็อกกุญแจและเดินตามพี่ปิยธิดาหรือพี่แป้งออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม