10

1506 คำ
“ทำค่ะ งานอะไรหนูก็ทำ ขอแค่ให้เป็นงานสุจริตแล้วก็มีเงินเลี้ยงตัวเอง” “งั้นก็นอนพักให้หายดีก่อน หายดีเมื่อไหร่ค่อยเริ่มงานกัน ค่ารักษาน่ะไม่เป็นไรหรอก ค่อยหักกันไป เดี๋ยวฉันจะคุยกับหัวหน้าให้เอง ว่าขอฝากเธอเข้าทำงานสักคน เพราะกำลังขาดคนงานอยู่พอดี” “หนูขอบคุณพี่มาก ๆ นะคะ” มีนาก้มลงกราบ หลังจากได้งานเธอก็ทำงานอย่างแข็งขัน พยาบาลแก้วตาหาที่อยู่ให้เธอเสร็จสรรพ มีบ้านพักว่างอยู่ทางด้านหลังโรงพยาบาลพอดี เธอจึงได้ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลและมีที่พักไม่ไกลกันนัก มีนายังไม่มีเงินเดือน แก้วตาจึงให้เงินเธอมาก่อนเพราะสงสาร มีนามีน้ำใจคอยช่วยเหลือคนอื่นอย่างไม่เกี่ยงงอน เธอจึงได้กินอาหารฟรีของโรงพยาบาลแบบไม่ต้องหาซื้อ กับข้าวรสชาติอร่อยหรือไม่อร่อย เธอก็ไม่เกี่ยงขอแค่มีข้าวกินเป็นพอ “หนูอยากเจอหน้าลูก แต่ไม่รู้จะไปหาลูกยังไง พี่พาหนูไปหน่อยได้ไหมคะ ถือว่าหนูขอร้อง หนูรู้ว่าหนูรบกวนพี่หลายเรื่องแล้ว แต่ขอให้ได้เจอหน้าลูกสักครั้ง แค่ครั้งเดียวเท่านั้น” ความหวังว่าจะได้เจอลูกทำให้มีนามีแรงกายแรงใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ “ก็ได้” แก้วตาเป็นคนกรุงเทพฯ จึงรู้จักเส้นทางดี เธอค้นหาประวัติของคุณหญิงดาวเรืองทางอินเตอร์เน็ตให้มีนาดู เพราะคุณหญิงเป็นคนดัง จึงไม่ยากที่จะพามีนาไปที่บ้านหลังนั้น บ้านปิดเงียบ มีเพียงคนรับใช้เท่านั้นที่คอยเฝ้าบ้านให้ ถามไถ่กันไปมา จึงรู้ว่าคุณหญิงพาลูกชายและลูกสาวไปอยู่ต่างประเทศ และปิดบ้านเอาไว้นานนับเดือนแล้ว เธอจำได้ว่าเริงฤทธิ์กำลังจะเรียนจบเหลือแค่สอบจบเท่านั้น ส่วนรังรองเรียนอยู่ปีสอง ย้ายไปอยู่ที่โน่นคงหาที่เรียนใหม่ได้ไม่ยาก เพราะคนมีเงินจะทำอะไรก็ได้ มีนาปล่อยโฮ ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก แก้วตาลูบหลังลูบไหล่ให้อย่างปลอบโยน ประตูบานใหญ่ของบ้านถูกปิดลงตรงหน้า เป็นการบอกว่าเธอหมดหนทางที่จะเจอลูกอีกต่อไปแล้ว “หนูแค่อยากเห็นหน้าลูกสักครั้ง สักครั้งจริง ๆ ไม่ได้อยากจะให้ลูกมาลำบากด้วย เพราะเขาคงมีชีวิตที่ดีที่ได้อยู่กับพ่อและย่าของเขา ตั้งแต่ลูกคลอดหนูก็ยังไม่ได้เห็นหน้าลูกเลย” มีนาสะอื้นแทบขาดใจ ตอนเธอเบ่งคลอด พอลูกออกมาเธอก็สลบไปเสียก่อน หมอกับพยาบาลต้องปฐมพยาบาลกันใหญ่กว่าจะฟื้นขึ้นมา เธอจึงไม่ได้เห็นหน้าลูกแม้แต่น้อย ลูกที่เธออุ้มท้องมาถึงเก้าเดือน แค่อยากเห็นหน้าสักครั้งเท่านั้นเองจริง ๆ ห้าปีต่อมา... มีนายืนครุ่นคิดอะไรมากมายในหัว เรื่องราวในอดีตมันฉายชัดในห้วงความทรงจำของเธอ บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าคือบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งของชีวิต ป้ายประกาศรับสมัครพี่เลี้ยงเด็กถูกติดหราอยู่หน้าบ้าน ทำให้เธอรีบมาสมัครงานที่นี่ในทันที แต่จริง ๆ แก้วตาเป็นคนบอกเธอ เพราะอีกฝ่ายขับรถผ่านจึงเห็นป้ายประกาศอันนี้ ใจของมีนาเต้นรัวไม่เป็นส่ำ เมื่อคิดว่าเด็กที่เธอจะได้ดูแลคือลูกน้อยกลอยใจที่จากกันนานนับห้าปี หลังจากที่แก้วตา พยาบาลใจดีช่วยเหลือเธอเอาไว้ในครั้งนั้น เธอก็ได้ทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่โรงพยาบาล ขัดห้องน้ำ กวาดขยะ ถูพื้นตามหน้าที่ ลำบากแค่ไหนก็ทน และคิดว่าโชคดีที่มีงานทำ วุฒิการศึกษาแค่ม. 6 คงทำอะไรไม่ได้มาก อยู่ไปปีกว่าแก้วตาซึ่งเป็นพยาบาลใจดีที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้ บอกให้เธอไปเรียนเพิ่มด้านผู้ช่วยพยาบาล เพราะทางโรงพยาบาลจะมีการรับสมัครตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล เนื่องจากทางโรงพยาบาลมีการทุบตึกเก่าและจะสร้างตึกใหม่ จึงรับสมัครงานเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่มีเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เธอไปเรียนต่อผู้ช่วยพยาบาลเพิ่มและยังทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดโรงพยาบาลอยู่เช่นเดิม ก่อนที่ห้องคลอดจะรับสมัครผู้ช่วยพยาบาลในห้องคลอด ห้องดูแลเด็กและคุณแม่หลังคลอด ทำให้เธอเปลี่ยนจากงานแม่บ้านเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่แผนกสูตินารีเวช ถือว่าได้ประสบการณ์การ การทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยความช่วยเหลือของแก้วตา ทุกวันเธอได้แต่ยืนมองเด็กน้อยที่ถูกมารดาอุ้มให้นมด้วยความรู้สึกเศร้าใจ พานน้ำตาจะไหลอยู่เสมอ เพราะคิดถึงลูกน้อยของตนเอง ที่ไม่เคยแม้แต่จะได้อุ้มหรือให้นมเลยสักหยดเดียว ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเพราะแก้วตาดีกับเธอมาก คอยช่วยเหลือเธอโดยไม่หวังผล ในขณะที่ข่าวคราวของมารดาจางหายไปราวกับสายลม ป่านนี้ท่านคงมีความสุขกับสามีใหม่ไปแล้ว “เชิญด้านในค่ะ” ภวังค์ความคิดของมีนาจบลงเมื่อมีเสียงเชิญเข้าบ้าน เธอมาสมัครงานที่นี่ก็เพราะแก้วตาอีกนั่นแหละบอกเธอว่าที่นี่รับสมัครงาน เธอป้วนเปี้ยนสืบข่าวอยู่นานหลายวันจนรู้ว่าครอบครัวของคุณหญิงดาวเรืองย้ายกลับมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่อีกครั้ง และคุณหญิงดาวเรืองก็เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปีกลาย การมาสมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่นี่ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นรัว ไม่รู้เลยว่าเขาจะรับเธอเข้าทำงานหรือไม่ หรือจะโดนเฉดหัวออกจากบ้านตั้งแต่เห็นหน้ากันก็ไม่รู้ “คุณเริงรออยู่ด้านในค่ะ” สาวใช้คนนี้เธอไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คงจะเป็นคนใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามา “มาแล้วเหรอ” เสียงคุ้นเคยนี้คือรังรองน้องสาวคนเดียวของเริงฤทธิ์ อีกฝ่ายกำลังมองเธออยู่ก่อนแล้ว รอยยิ้มจริงใจของคนตรงหน้าทำให้มีนาหายใจคล่องขึ้นมาหน่อย “สวัสดีค่ะคุณเริง” ห้าปีเต็มที่ไม่ได้เจอกัน รังรองยังเหมือนเดิมคือยิ้มเก่ง และดูฉลาดรู้ทันคนอื่นไปเสียหมด “ไม่คิดเลยว่าพี่เลี้ยงคนใหม่ของเริงกริชจะเป็นมีนนะ แต่พี่แก้วบอกว่ามีนดูแลเด็กดีมาก จนมีหลายบ้านจ้างไปดูแลเป็นพิเศษในช่วงเย็นและเสาร์อาทิตย์ใช่ไหมจ๊ะ” “มีคนจ้างบ้างค่ะ แต่ยังทำงานประจำที่โรงพยาบาลเป็นหลักน่ะค่ะ” มีนาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “ถ้าจะมาทำงานกับฉันที่นี่ก็ต้องลาออกจากโรงพยาบาลมาประจำอยู่ที่บ้านเลย มีนจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” รังรองเอ่ยถาม เพราะไม่อยากบังคับจิตใจใคร “มีนคงจะไม่ตกงานกะทันหันใช่ไหมคะ” “ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกจ้ะ ลาออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว ฉันจะรับมีนเข้ามาทำงานที่นี่เลย ไม่มีใครไล่มีนออกได้แน่ ถ้าฉันยังอยู่” “ทำไมคุณเริงถึงรับมีนเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงล่ะคะ” หัวใจของมีนาเต้นแรง อยากเห็นหน้าลูกสักครั้ง อยากรู้ว่าลูกชายของเธอจะหน้าตาเป็นอย่างไร “ข้อแรกเลย คือมีนเป็นแม่ของเริงกริช เป็นแม่ก็ต้องดูแลลูกดีอยู่แล้ว และพี่ฤทธิ์ก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วยสิ พี่ฤทธิ์ให้หน้าที่การตัดสินใจดูแลเริงกริชเป็นหน้าที่ของฉัน ฉันก็เลยต้องหาพี่เลี้ยงที่คิดว่าจะรักเริงกริชจริงๆ มาดูแล และฉันก็คิดว่ามีนทำหน้าที่นี้ได้ดีทีเดียวเชียวล่ะ” รังรองพูดแล้วยิ้มกว้างออกมา ทำให้มีนาโล่งใจไปได้มากว่าถึงแม้คนรับเธอเข้าทำงานจะเป็นรังรอง แต่เธอคงไม่ถูกไล่ออกกลางคัน ถ้าเริงฤทธิ์มาเห็นเธอเข้าแล้วเขาไม่พอใจอยากจะไล่เธอออกเพราะไม่ชอบหน้าเธอ ไม่รู้ทำไมเธอถึงคิดว่าเขาจะไม่ชอบหน้าเธอ อาจเพราะว่าเขากับมารดาไล่เธอออกจากบ้าน และพาลูกหนีไปกระมัง ทำให้เธอคิดว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้ว ทั้ง ๆ ที่เขาก็ดูรักใคร่เธอดีในตอนนั้น แต่พอมาคิดดู เขาอาจจะไม่ได้รักใคร่ไยดีอะไรเธอมากนักหรอก เขาแค่อยากได้เธอก็เลยเอาของมาล่อ ให้โน่นให้นี่เพื่อให้เธอยอมนอนกับเขา คิดมาถึงตรงนี้มีนาก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย ที่เธอเองก็ยอมใจง่ายไปกับเขาในครั้งต่อๆ มา “ลูกของ... ของมีนเป็นอย่างไรบ้างคะ” มีนาเอ่ยถามถึงลูกน้อยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม