“โรส คุณจะไม่พูดกับผมหน่อยเหรอ” นฤดลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ เธอรู้สึกว่าเหมือนเขากำลังกดประสาทเธออยู่เช่นนี้ โรซารี่จึงหันหลังมามอง ขณะที่เธอหลับตาอยู่
“ฉันมาขอคำมั่นสัญญาจากคุณ” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“คำมั่นสัญญาอะไร? ” นฤดลเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“สัญญาว่าคุณจะไม่มีเซ็กส์กับฉัน ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ในขณะเดียวกันคุณจะเอาใครมานอนที่บ้านก็เรื่องของคุณ แต่อย่าให้ผู้หญิงพวกนั้นเข้ามายุ่งกับฉัน” โรซารี่เอ่ยบอกเช่นนี้
“ลืมตาขึ้น หรือคุณจะหลับตาไปทั้งชีวิต” นฤดลเอ่ยถามเช่นนี้ เธอจึงลืมตาขึ้นช้าๆ เธอมองไม่เห็นเขาตรงหน้า แต่ว่าเขาเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์เทวิสกี้ใส่แก้วอยู่ อีกทั้งยังใส่ผ้าขนหนูปิดท่อนล่าง
“ว่าอย่างไง คุณจะสัญญากับฉันได้ไหม” โรซารี่เอ่ยถามเช่นนี้ เขาจึงหันกลับมามองเธอ และดื่มวิสกี้ในแก้วหนึ่งคำ
“ผมให้สัญญาว่าผมจะไม่แตะต้องคุณ ถ้าคุณไม่สมยอมพร้อมใจเป็นของผม โอเคไหม” นฤดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
“เช่นนั้นพรุ่งนี้เจอกันที่โบสถ์” โรซารี่เอ่ยบอกเช่นนี้ แล้วเดินไปที่ประตูอีกครั้ง แต่เธอต้องหยุดฝีเท้าอีกครั้ง
“ผมเชื่อมั่นว่าสัญญานี้ต้องเป็นโมฆะ เพราะผมคือเจ้าแห่งตัณหา และราคะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่อยากหลับนอนกับผม” นฤดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย โรซารี่หันกลับมามองใบหน้าเขาอีกครั้ง
“มันจะไม่มีวันนั้นแน่นอน” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น และก้าวเดินออกจากห้องนี้ไปทันที
เมื่อหญิงสาวออกไปแล้ว เขาเอามือกุมอกด้านซ้าย มันทำให้เขากลับรู้สึกใจสั่นแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็หาคำตอบให้กับเรื่องนี้ไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่
โรซารี่คิดถึงเรื่องราวของเมื่อวานนี้ทำให้เธอสงสัยกับตัวเองว่าทำไมถึงยอมแต่งงานกับเขา เพียงเพราะเขาเป็นลูกของเพื่อนสนิทของแม่อย่างนั้นเหรอ ย้อนไปเมื่อหนึ่งปีก่อนเธอคบกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่าอดัม บอสเนีย ชาวบัลแกเรีย ตลอดเวลาหนึ่งปีมานี้เขาดูแลและรักเธอมาก จนกระทั่งมีบุคคลที่สามเข้ามาแทรกระหว่างกลางทำให้เธอกับเขาทะเลาะกันทุกวันในเรื่องบุคคลที่สาม มาถึงวันหนึ่งเธอเห็นว่าอดัมนอนกับผู้หญิงคนนั้นในเพนท์เฮาส์ของเธอเอง เธอจึงตบและกระทืบเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย จนเขาแทบกระอักเลือด
โรม และเสือ บอดี้การ์ดของเธอที่คอยดูแลเธอจะเข้ามากระทืบซ้ำ แต่เธอกลับห้ามไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นอดัมคงตายแน่ แค่เธอคนเดียวก็ปางตายแล้ว เนื่องจากเธอเรียนยูโดถึงขั้นห้า จึงได้ทำให้อดัมถึงกับปางตาย
แต่พอเธอกลับมายังบ้านเธอเห็นแม่ของเธอ เธอมีชื่อว่าอัมรา ลอมบาร์ดี อยู่กับแม่ของนฤดล เธอมีชื่อว่าดารา จักรฤกษ์ พวกเธอสองคนเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่มัธยมต้น ซึ่งเธอเองก็เคยเจอเธออยู่ครั้งหนึ่งก่อนที่จะไปเรียนที่สวีเดนตอนอายุสิบสาม แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยเจอดาราตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โรซารี่ก้าวเดินเข้ามาในห้องรับแขก เธอจึงยกมือไหว้แม่ของเธอด้วยรอยยิ้ม และยกมือไหว้ดาราด้วยเช่นกัน
“สวัสดีค่ะแม่” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มยกมือไหว้แม่ของเธอและเข้าไปสวมกอดเธอที่ยืนขึ้น และคลายอ้อมกอด
“สวัสดีค่ะ ป้าดารา” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
ดาราทอดสายตามองโรซารี่ที่ความสวยสะพรั่ง เธอมองตั้งแต่หัวจรดอย่างพึงพอใจ มีรูปร่างอวบอิ่มสมบูรณ์แบบ ทั้งที่เธอใส่เสื้อยืด และมีเสื้อตัวใหญ่ทับ แต่ก็ไม่อาจพ้นสายตาของดาราได้
“ดารา นี่โรสลูกสาวของฉัน” อัมราเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“สวยมาก สวยสมเป็นลูกสะใภ้ของฉันอย่างยิ่ง” ดาราเอ่ยบอกเช่นนี้ ทำให้โรซารี่สงสัยที่ว่า ‘ลูกสะใภ้’
“ลูกสะใภ้อะไรคะ โรสงงไปหมดแล้ว” โรซารี่เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“โรสนั่งลงก่อน” อัมราเอ่ยบอกเช่นนี้ โรซารี่จึงนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ อัมรา อัมรามองใบหน้างดงามและจับมือเรียวของเธอ
“โรส ก่อนที่พ่อของหนูจะเสียไป พ่อของต้องการให้แต่งงานกับดล ลูกของป้าดารา และป้าดาราก็อยากให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเธอ ที่สำคัญหนูก็เลิกกับอดัมแล้ว แม่จึงอยากให้หนูเริ่มต้นชีวิตใหม่กับดลเขา” อัมราเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“ป้าเองก็ไม่บังคับหนู ถ้าไม่อยากแต่งป้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ถือว่าไม่มีวาสนาต่อกัน ถ้าโรสแต่งกับดลป้าจะดีใจมากๆ เพราะป้าเชื่อว่าหนูต้องดูแลดลได้ดีกว่าใครๆ” ดาราเอ่ยด้วยรอยยิ้ม โรซารี่เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
“ป้าดารา หนูขอคิดทบทวนดูก่อนว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง อีกสามวันหนูจะให้คำตอบ” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่นุ่มนวล
“เช่นนั้นป้ากลับก่อนนะ ป้าจะรอคำตอบจากหนู” ดาราเอ่ยบอกเช่นนี้และยิ้มกว้าง
อย่าลืมเข้ามากดหัวใจและคอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยน๊าาาาาา
1 เม้นท์ 1 กำลังใจ