EPISSODE2

1106 คำ
"เสียใจด้วยจริงๆนะคะ แต่ทีมแพทย์พยายามกันสุดความสามารถแล้วจริงๆค่ะ" มือเล็กประสานกันบีบแน่นจนเกร็งไปหมด ก่อนจะพูดประโยคถัดไปเมื่อเห็นว่าญาติยังคงยืนนิ่ง "คุณดอกแก้วมีอาการบาดเจ็บสาหัสมาก เธอทนบาดพิษของแผลไม่ไหว..เธอก็เลย.." พยาบาลสาวหยุดประโยคคำพูดไว้เพียงแค่นั้นเมื่อเห็นชายตรงหน้าทรุดตัวลงกับพื้นทางเดินหน้าห้องฉุกเฉิน เธอก้มศีรษะให้เล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป "..." สิงห์ทรุดตัวลงกับพื้นราวกับคนที่ไร้เรี่ยวแรง ขอบตาร้อนผ่าวจนเริ่มแดงก่อนที่น้ำตาหยดใสๆจะไหลอาบสองข้างแก้มต่อหน้าคนเป็นแม่ของดอกแก้วที่ตอนนี้มีอาการป่วยจากโรคมะเร็งระยะสุดท้าย "ดอกแก้วลูกแม่.." น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะตวัดสายตาดุดันอย่างเอาเรื่องให้กับชายหนุ่มที่นั่งสะอื้นไห้อยู่ที่พื้น "แม่บอกแล้วใช่ไหม ว่าสักวันจะต้องเกิดเรื่อง แม่ห้ามแล้วว่าอย่าคบกัน อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับลูกแม่...และเป็นแกที่ทำให้ดอกแก้วต้องจากไปด้วยสภาพที่น่าสงสาร ฮึก..ดอกแก้วลูกแม่" เป็นเสียงที่ยังคงฝังแน่นอยู่ภายในใจของสิงห์แม้ว่ามันจะผ่านมากี่ปีก็ตาม และมันก็คือความจริง ครอบครัวของเขาเป็นมาเฟียที่มักจะมีคู่อริและคนที่ต้องการจะล้มตระกูลเขาคอยจะหาวิธีต่างๆนาๆที่จะเอาชีวิตตนเองและรวมไปถึงคนในครอบครัวทุกคน และดอกแก้วก็เป็นหนึ่งในรายชื่อที่พวกมันต้องกำจัดทิ้งแม้มันจะมีบางอย่างที่ผิดพลาด แต่เขาเชื่อไปแล้วว่าเป็นเพราะเขา เขาทำให้ดอกแก้วต้องxาย สิงห์กับดอกแก้วคบกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งในวิทยาลัยในใจกลางเมือง และตกลงคบหากันหลังจากที่รู้จักกันมาสี่เดือน จนทั้งคู่ตกลงกันว่าจะแต่งงานกันเมื่อเรียนจบ โดยที่รับรู้มาตลอดว่าทางครอบครัวของสิงห์เป็นมาเฟียที่มีทั้งธุระกิจขาวและดำ และความเสี่ยงที่ดอกแก้วต้องได้รับเมื่อทันทีที่ได้แต่งงานกับสิงห์ ทุกอย่างมันเกินการควบคุมเมื่อรถคันที่ดอกแก้วนั่งถูกดักสุ่มโจมตีในระหว่างที่เดินทางไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ดอกแก้วกับคนขับรถถูกรถบรรทุกชน สิงห์เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคู่อริจนรถพลิกคว่ำหลายตลบ และในที่สุดดอกแก้วและคนขับรถก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นับตั้งแต่วันนั้นสิงห์ก็กลับไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดของพ่อในตอนใต้ เขาใช้ชีวิตในแบบที่ใครๆก็ต่างไม่กล้าเข้าใกล้ สิงห์กลายเป็นคนที่เฉยชา เลือดเย็นและถูกขนานนามว่า..คนไร้หัวใจ..แต่ใครจะรู้ว่าลึกๆแล้วภายใต้ใบหน้าที่นิ่งขรึม เฉยชานั้นกำลังรู้สึกอะไรอยู่ "ไปไหนต่อครับนาย" องอาจเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนเป็นนายยังคงนั่งนิ่งเงียบ "ไปดูผับ" "ครับนาย" หน้าลานกิจกรรมรับน้องปีหนึ่ง วันนี้หลังจากที่รุ่นน้องปีหนึ่งได้รับแชทจากรุ่นพี่ว่าให้มารวมตัวกันที่ลานกิจกรรมเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง หลังจากพ้นผ่านช่วงการเรียนการสอน ช่วงเย็นก็มารวมตัวกันตามที่รุ่นพี่ได้บอกไว้ "เอาล่ะทุกคน พี่ให้เวลาสามวันนะครับในการถามชื่อและทำความรู้จักกันให้ครบตามที่พี่ได้ให้ไว้ในสมุดที่แจกไป" "ใครมีอะไรจะถามไหมครับ" รุ่นพี่ถามขึ้นอีกครั้ง ในเมื่อไม่มีใครถามหรือสงสัยอะไร รุ่นพี่จึงสั่งปล่อยทันที "งั้นเลิกกิจกรรมครับ" สิ้นเสียงของรุ่นพี่บอก นักศึกษาชั้นปีหนึ่งก็ต่างพากันแยกย้ายกลับหอบ้าง บางคนก็ไปกินเลี้ยงทำความรู้จักกันต่อต่างจากน้ำอิง ร่างเล็กเดินตรงออกไปที่ป้ายรถเมล์ทันทีพร้อมกับกระเป๋าผ้าใบโปรด แต่ระหว่างที่นั่งรอรถเมล์อยู่นั้น ไลออนชายหนุ่มที่เรียนอยู่คณะเดียวกันและเป็นเพื่อนคนที่นั่งข้างหน้าตนระหว่างทำกิจกรรมรับน้อง เขาสั่งให้คนขับรถจอดที่ตรงหน้าเธอทันทีที่เห็น "น้ำอิง!!" "อ้าวไลออน มีอะไรเหรอ" "ให้เราไปส่งที่อพาร์ตเมนต์ไหมทางผ่านเราพอดี" ไลออนเด็กหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อคม เพราะความเป็นลูกครึ่งเลยทำให้เป็นที่สะดุดตากับสาวๆ "ไม่เป็นไร พอดีเราต้องไปทำงานต่อน่ะ" น้ำอิงเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ "โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ" "อือ..ขอบใจนะ" ดวงตาหวานมองตามรถยนต์คันหรูที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากป้ายรถเมล์ ทำให้น้ำอิงนึกถึงความจนที่ตนเองเป็นอยู่ขึ้นมาทันที เพราะความจนมันน่ากลัว ยามที่ไม่มีเงินมันก็คือไม่มีจริงๆ ทุกครั้งที่เงินออกก็แบ่งเงินเป็นส่วนๆ อีกส่วนเก็บไว้เพื่อเป็นค่าเทอมและอีกส่วนก็แค่พอได้ซื้อข้าวสาร ไข่ไก่ มาม่า ปลากระป๋องไว้ประทังชีวิต จนกว่าจะถึงรอบเงินเดือนออกอีกครั้ง ระหว่างที่นั่งบนรถเมล์ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมือเล็กหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นคุณลุงโทรมา จึงกดรับสายทันที "ค่ะคุณลุง" "เห็นเงินที่ลุงโอนไปให้หรือยังน้ำอิง" แค่ประโยคนี้ ประโยคสั้นกลับทำให้ขอบตาของน้ำอิงถึงกับร้อนผ่าวขึ้นมา เพราะเธอรู้ดีว่าคุณลุงของเธอก็ลำบากไม่แพ้กัน ยังจะเจียนเงินไม่กี่ร้อยมาให้ ยิ่งสร้างความซึ้งใจและรักลุงของเธอมากขึ้น "เห็นแล้วค่ะ แต่หนูไม่มีเงินในโทรศัพท์หนูเลยไม่ได้โทรบอกคุณลุงค่ะ" "ไม่เป็นไร เดี๋ยวลุงจะคอยให้นะ มันอาจจะไม่ได้มากมายอะไร ก็รับไว้เถอะนะ" "ขอบคุณคุณลุงมากๆนะคะ" น้ำอิงพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "อือๆ แค่นี้นะลุงกำลังจะไปทำงานต่อ" "ค่ะคุณลุง" ปลายนิ้วเรียวกดปิดโทรศัพท์ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่มันกำลังไหลออกมาจากหางตา นั่งมาแค่ไม่กี่ป้ายรถเมล์ก็ถึงที่ทำงานของเธอ ผับโซแอล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม