น้ำรินและเมริญา

1316 คำ
ท่ามกลางเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง น้ำรินยืนกอดอกอยู่ริมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ฟังเสียงเกลียวคลื่นซัดสาดเขากระทบฝั่งระคนเสียงดังระงมของสัญญาณเตือนไฟไหม้ ดวงตากลมโตทอดมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบ วาดนิ้วเรียวลูบเล่นอยู่บนจี้นาฬิกาลูกสนิชที่แขวนอยู่บนคอเรียวระหง ท่ามกลางผู้ชายที่อยู่ในอาการมึนเมานับสิบชีวิต ซึ่งกำลังวิ่งหนีตายจากเหตุการณ์ไฟไหม้หลอกๆ "ผมจัดการตามที่คุณน้ำรินสั่งแล้วครับ" "ขอบคุณนะเจโร บอกคนของเราอีกสิบนาทีเราต้องออกจากที่นี่" เจ้าของใบหน้าสวยหวานหันมากล่าวขอบคุณเลขาหนุ่มมือซ้ายของพ่อบุญธรรมที่พาเธอบุกป่าฝ่าดงมาจนถึงที่นี่ เจโรค้อมศีรษะให้แล้วเดินตรงไปทางท่าเรือตามคำสั่ง น้ำรินใช้เวลาสองวันถ้วนหาตัวเมริญา คราวนี้น้องสาวต่างสายเลือดหนีมาซ่อนแอบไกลถึงเกาะกลางทะเล ทว่าหากไม่มีเรื่องด่วนที่กระทบต่อธุรกิจของวงศ์ตระกูล เธอคงไม่มารบกวนความสุขของเมริญาให้เกินความจำเป็น "มาถึงเร็วกว่าที่คิดนะ" เสียงฝีเท้าวิ่งมาแต่ไกล เมริญาวิ่งเข้าไปสวมกอดเจ้าของร่างบางที่ยืนหันหลังอยู่ริมสระว่ายน้ำ ทันทีที่เจอกันมันน่าจับตีนักที่เธอมาซื้อเกาะส่วนตัวอยู่ที่นี่ เกาะที่เข้า-ออกได้เฉพาะตอนเช้า "อี๋...ถอยไปเลยนะญ่า กลิ่นละมุดชวนอ้วกไม่ไหวอ่ะ" น้ำรินยกมือขึ้นปิดจมูก "ไม่เอาจะกอด คิดถึงจังเลยค่ะริน พี่น่าจะมาให้ทันปาร์ตีเมื่อคืน หนุ่มๆ แซ่บๆ ทั้งนั้น" แทนที่เมริญาจะโกรธเธอกลับหัวเราะคิกคักแล้วหอมแก้มน้ำรินทั้งแก้มซ้ายแก้มขวา โดยที่ไม่สนใจว่าคนที่นับถือเป็นพี่สาวจะทำหน้าเหม็นเปรี้ยวใส่ แม้อายุเท่ากันแต่เมริญาสะดวกเรียกน้ำรินว่าพี่และเรียกมานานถึงสิบปีแล้ว “แล้วนี่ทำไมขอบตาคล้ำขนาดนั้น บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ใช้ตัวที่ไม่แรงอ่ะ” น้ำรินจับแก้มของเมริญาเอียงไปมา เมื่อพบว่าหญิงสาวอยู่ในสภาพตาเยิ้ม ขอบขาดำคล้ำคล้ายคนไม่ได้นอนมาหลายวัน “ยาตัวใหม่น่ะ ดีดทั้งวันสนุกมาก” เมริญาบอกอย่างอารมณ์ดี แต่พอเห็นใบหน้าบูดบึ้งของน้ำรินก็รู้ได้ทันทีว่าได้ทำเรื่องหนักใจให้คนตรงหน้าเข้าอีกแล้ว "เกมจบแล้วญ่า พักความสนุกแล้วกลับบ้านเราเถอะ คุณพ่อท่านเป็นห่วง" "กลับแน่ แต่ไม่ใช่กลับไปแต่งงานกับอีตามาเฟียนั่นนะ" เมริญาประกาศกร้าวถึงว่าที่สามีที่พ่อยัดเยียดให้แต่งงานด้วย "เสียใจด้วย กำหนดงานแต่งอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้วค่ะ" น้ำรินยักคิ้วใส่ เรื่องงานแต่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจัดการเองทั้งหมด ทั้งๆ ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ยินยอมทั้งคู่ "ไม่เอา ญ่าจะอยู่กับริน เราแต่งงานกันเองดีมั้ย ญ่าสัญญาว่าจะเลิกเกเรค่ะ" เมริญายกมือขึ้นทำท่าสาบาน แต่ก็ต้องลดมือลงทำหน้าหงอยเมื่อน้ำรินส่ายหน้าให้แทนคำตอบ "อย่าพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ กลับไปเตรียมตัวนะคะ ทุกคนรออยู่" "อะไรกัน รินก็รู้ว่าญ่าเป็นอะไร ยังไงก็แต่งกับตานั่นไม่ได้เด็ดขาด" เมริญาอ้างถึงโรคประจำตัวที่เธอเป็นอยู่ ซึ่งแม้แต่พ่อแท้ๆ ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้มีเพียงน้ำรินเท่านั้นที่รู้ "น้ำรินนัดหมอเฉพาะทางเอาไว้แล้ว ญ่าต้องหาย แล้วกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ" "แต่ญ่าชอบอยู่แบบนี้มากกว่า" "แบบนี้มันมีแต่เสียนะ" น้ำรินรีบแย้งทันควัน ยังไงวันนี้ก็ต้องเอาตัวเมริญากลับไปให้ได้ เธอเสียเวลาเล่นเกมนี้มาหลายวันแล้ว "ญ่าเลิกทำตัวเล่นไปวันๆ แล้วกลับไปคุยกับคุณพ่อเรื่องนี้เถอะ" "ไหนรินบอกว่าเข้าใจสิ่งที่ญ่าเป็น เอาเข้าจริงก็ไม่เข้าใจสักนิด" มือเล็กยกขึ้นเสยผมสลวยเสมองไปทางอื่นอย่างขัดใจ และเริ่มโวยวายเสียงดัง "อย่าใช้อารมณ์สิเมญ่า" น้ำรินกดเสียงต่ำ ทำให้เมริญาเริ่มสงบสติอารมณ์ของตัวเองแล้วพูดต่อ "ก็รินไม่ยอมเข้าใจญ่าเลย บอกแล้วว่าไม่อยากกลับ" "ไม่กลับไม่ได้ เรื่องแต่งงานถึงบ้านแล้วเราค่อยคุยกัน สำคัญคือตอนนี้ญ่าต้องกลับไปหาคุณพ่อก่อน หนีมาแบบนี้ท่านเป็นห่วงมากนะรู้มั้ย อีกอย่างน้ำจะลงแล้วน้ำรินไม่อยากติดอยู่ที่นี่" "แต่ญ่า...ยังสนุกอยู่เลย "เกมนี้รินชนะ ญ่าอย่าโกงสิ" น้ำรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและสีหน้าขึงขัง จนในที่สุดเมริญาไม่กล้าขัด "ก็ได้ ๆ ..." เมริญาพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้ เกมนี้เธอแพ้ก็ต้องทำตามผู้ชนะ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เธอกำหนดเอง ว่าถ้าหากน้ำรินตามหาตัวเธอจนเจอก็จะยอมกลับบ้านแต่โดยดี ตอนอายุสิบห้าขวบเมริญาสูญเสียแม่ไปจากอุบัติเหตุ หลังจากนั้นเธอก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพราะคนเป็นพ่อเอาแต่ทำงานงกๆ จนไม่มีเวลาดูแล นอกจากอัดฉีดเงินให้ตามที่เธอต้องการ โชคดีที่เด็กกำพร้าอย่างน้ำรินถูกรับเข้ามาเลี้ยงพอดี เมริญาจึงมีคนคอยดูแลอยู่ข้างๆ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมาความผูกพันระหว่างเธอกับน้ำรินมีมากกว่าพ่อแท้ๆ เสียอีก ฉะนั้น ไม่ว่าน้ำรินจะชี้แนะไปทางไหนเมริญาจะทำตามเสมอ ทว่าคงไม่ใช่เรื่องนี้ ...เรื่องแต่งงานไม่เคยมีในสมองคนรักสนุกอย่างเธอ @ คฤหาสน์ของอลัน ทันทีที่เดินทางกลับมาถึงบ้านเมริญาก็รีบเข้าไปเจรจากับคนเป็นพ่อทันที โดยน้ำรินตั้งใจให้สองคนพ่อลูกได้คุยกันตามลำพัง จึงทำเพียงยืนรออยู่ด้านนอกแม้ฟังดูแล้วสองคนพ่อลูกจะทะเลาะกันมากกว่าคุยดีๆ ก็ตาม กระทั่งเสียงกรีดร้องของเมริญาดังขึ้น ทุกคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูตกใจมาก ทันทีที่เข้าไปภายในห้องทำงานก็ทำให้น้ำรินแทบหยุดหายใจ เมื่อเห็นอลันกำลังกอดประคองเมริญาอยู่บนพื้นโดยที่เธอยังร้องกรี๊ดไม่หยุด "เกิดอะไรขึ้นคะคุณพ่อ! เมญ่า!" "น้ำรินลูก ช่วยน้องด้วย" อลันร้องเรียกบุตรบุญธรรม น้ำรินกับเจโรรีบวิ่งเข้าไปช่วยอลันประคองเมริญาที่นอนกรีดร้องอยู่บนพื้น หลายปีแล้วที่เธอไม่มีอาการแบบนี้ ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายตอนเกรดเก้าที่อลันขัดใจไม่ให้เธอขับรถไปเรียนเอง หลังจากนั้นอลันก็ตามใจเมริญาทุกเรื่องไม่เคยขัดใจเลยสักครั้ง "กรี๊ดดดด ญ่าไม่แต่ง กรี๊ด!!" "เมญ่าใจเย็นๆ ลูก" เมริญาชักเกร็งจนตาของเธอเหลือกโปน มือทั้งสองข้างงอหงิกและลิ้นจุกปาก น้ำรินรีบโทรเรียกรถโรงพยาบาล จับเมญ่านอนตะแคงข้างป้องกันไม่ให้น้ำลายไหลลงคอแล้วเกิดสำลัก อีกทั้งแกะนิ้วที่เกร็งอยู่ออกจากกัน "อ๊ากกกก!!" เจโรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเขาเอามือของตัวเองให้เมริญากัด เพราะกลัวว่าเธอจะกัดลิ้นตัวเอง น้ำรินกับแม่บ้านช่วยกันนวดมือนวดเท้าของเมริญาให้เส้นคลายออก อีกทั้งประคองศีรษะเอาไว้ไม่ให้กระแทกกับพื้น "อย่าเป็นอะไรไปนะลูก! เมญ่า"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม