ไม่นานลิฟต์ก็เคลื่อนมาหยุดลงตรงชั้นที่เธออาศัยอยู่ พงษ์สวัสดิ์ประคองร่างอ่อนระโหยโรยแรงเข้าไปในห้อง หลังจากที่เธอไขกุญแจให้ประตูเปิดออก แล้วพาอีกฝ่ายไปนั่งลงตรงโซฟาหน้าโทรทัศน์ จากนั้นก็นั่งเป็นเพื่อนข้างๆ ฟังเสียงร้องไห้อยู่เงียบๆ มีหันไปปลอบประโลมบ้างในจังหวะที่เธอร้องไห้ฟูมฟายอย่างน่าเวทนาเป็นที่สุด ครั้นเห็นว่าหญิงสาวหยุดร้องไห้ และเหมือนจะควบคุมตัวเองได้แล้ว คุณหมอหนุ่มก็ลุกขึ้น แล้วถือวิสาสะเดินไปเปิดตู้เย็น ก่อนจะรินน้ำเย็นๆ มาส่งให้เธอ “เอ้า…นี่น้ำ ดื่มซะเผื่อจะได้ใจเย็นลงบ้าง พงษ์เป็นห่วงนะรู้ไหม” “ขอบใจนะพงษ์” ธารธารายื่นมือมารับแก้วน้ำพร้อมเอ่ยขอบคุณ จากนั้นก็ยกขึ้นจิบเล็กน้อย แล้ววางมันลงที่โต๊ะตัวเตี้ยๆ เข้าชุดกับโซฟาซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้า “แล้วน้ำจะเอายังไงต่อ” เขาเอ่ยถามเบาๆ ขณะทรุดกายลงนั่งที่เดิม จากนั้นก็หยิบรีโมตโทรทัศน์มากดเปิด กะว่าจะหารายการตลกให้เธอดูคลายความเศ

