ก่อนที่ชายหนุ่มจะส่งมือหนาของตนเองเข้าไปกอบกุมที่เต้าตูมเต่งทั้งสองข้าง แล้วเขาก็ฟ้อนเฟ้นมันด้วยความรุนแรง ไม่มีความทะนุถนอมแต่อย่างใด น่าแปลกที่หญิงสาวกลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสนั้นแต่อย่างใด ความรู้สึกร้อนวูบวาบแบบแปลกๆ กำลังแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง และชายหนุ่มยังไม่ยอมหยุดแค่นั้น เขายังคงรุกรานหญิงสาวต่อ แล้วค่อยๆ ดันหญิงสาวไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ที่เตียงนอน
ตวิษาแทบไม่ได้สติ เธอปล่อยให้เขานำพาเธอไปยังดินแดนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน แม้ว่าปากจะบอกว่าไม่เต็มใจ แต่ร่างกายของเธอมันกลับทรยศเธอจนเธอไม่สามารถควบคุมมันได้ กว่าที่หญิงสาวจะรู้สึกตัวอีกครั้งก็เมื่อตอนที่แผ่นหลังของเธอสัมผัสลงที่กลีบกุหลาบที่โรยอยู่บนที่นอน
แต่หญิงสาวก็ไม่อาจทัดทานสิ่งใดได้ เพราะนั่นมันคือความต้องการของเขา ต่อให้เธอหนีเขาได้วันนี้ แต่เธอก็ไม่อาจหนีเขาได้ทั้งชีวิต ดังนั้นวันนี้เธอจึงยอมปล่อยกายปล่อยใจไปกับเขา ให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ เผื่อว่าเขาจะได้ปลดปล่อยเธอจากความเกลียดชังที่เขาสร้างขึ้นมา
ส่วนแดนไทยนั้น เขาก็ยังคงรุกเข้าใส่หญิงสาวต่อ เขาไม่คิดว่าเธอจะหวานขนาดนี้ หวานเสียจนคนอย่างเขาแทบคลั่ง เขาเริ่มรุกรานไปยังส่วนสงวนของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะไปพบกับความฉ่ำแฉะที่กลางแอ่งของเธอ มันทำให้เขาต้องยกยิ้มด้วยความพอใจอีกครั้ง
ตวิษาคงพร้อมแล้วสำหรับ ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ส่งท่อนเอ็นใหญ่เข้าไปทักทายที่กลีบดอกไม้สีสดที่ยังปิดสนิทอยู่เขาดุนดันมันเข้าไปด้วยความต้องการที่มากล้น จนเขาลืมนึกถึงไปว่าหญิงสาวยังบริสุทธิ์อยู่ แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้มันทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เธอเกร็งตัวและผลักไสแผงอกกว้างของเขา แต่เป็นเขาเองที่มาไกลเกินถอยกลับ เขาจึงละริมฝีปากออกจากเรียวปากบาง แล้วจุมพิตเพื่อปลอบโยนหญิงสาว
ในขณะที่เธอเริ่มผ่อนคลายความเกร็งลง เขาก็กระแทกเจ้าท่อนเอ็นใหญ่ของเขาผ่านเส้นบางๆ ที่ขวางกั้นอยู่เข้าไปจนสุดลำ ตวิษาหวีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมถอดถอนกายออก เขาแช่ความใหญ่โตไว้ เพื่อให้หญิงสาวชินกับความใหญ่โตของเขา ก่อนที่เขาจะเริ่มตอกสะโพกเข้าใส่หญิงสาวอย่างช้าๆ ในจังหวะที่เนิบนาบ
ความเจ็บปวดเริ่มคลายหายไป ความเสียวซ่านอย่างประหลาดเริ่มเข้ามาแทนที่ ตวิษาไม่เคยรู้มาก่อนว่าสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายมันจะนำพาซึ่งความมหัศจรรย์ใจให้กับเธอได้มากเท่านี้ นี่ขนาดไม่เต็มใจ เธอยังมีอารมณ์ร่วมไปกับเขาขนาดนี้ หญิงสาวไม่อยากจะคิดเลยว่า หากเป็นคนที่รักกันแล้ว คงจะเป็นความสัมพันธ์ที่มีความสุขมากล้นอย่างแน่นอน
ระหว่างที่หญิงสาวหลงไปกับมนต์กามา ร่างสูงก็ควงสะโพกสอบเข้าใส่ด้วยความรวดเร็ว เขารู้สึกมีความสุขกับความคับแน่นของหญิงสาว เขากำลังจะถึงดินแดนแห่งความสุขสมในไม่ช้า แต่ก็เป็นหญิงสาวที่ไปเยือนดินแดนแห่งนั้นก่อนหน้าเขา เธอเกร็งตัวแน่น ก่อนที่จะปล่อยน้ำหวานเหนียวใสไหลปนออกมากับเลือดสีสด ส่วนเขาก็ตามมาติดๆ ด้วยสายธารรักสีขาวขุ่น ที่มันเจิ่งนองอยู่เต็มช่องทางรักสีสดของหญิงสาว
เมื่อผ่านสมรภูมิแห่งความหฤหรรษ์ ร่างสองร่างก็ผละออกจากกัน ความรู้สึกของทั้งคู่ตอนนี้มันช่างต่างไปจากเดิม แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไป มันได้ก้าวข้ามคำว่าพี่น้องที่มีมาตลอดเสียแล้ว ตอนนี้ทั้งสองจะจัดการกับความรู้สึกอย่างไร นั่นมันเป็นสิ่งที่ทั้งสองกังวลไม่ต่างกัน
“ปากก็บอกว่าไม่ต้องการ แต่เมื่อกี้เห็นครางเสียงหลงนี่นา” แดนไทยเอ่ยออกมาด้วยเสียงเย้นหยัน ความเจ็บปวดของเธอมันกลายเป็นความสุขของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นี่เขากลายเป็นคนที่ซาร์ดิสก์อย่างที่เป็นตอนนี้แล้วหรือ
“พี่แดนไม่รู้จักคำว่าให้กียรติผู้หญิงเหรอคะ” ตวิษาเอ่ยถามออกมาด้วยความเจ็บปวด นั่นก็เพราะว่าคำดูถูกที่พ่นออกมาจากปากของเขามันทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าตอนที่เขาทำลายพรหมจรรย์ของเธอเสียอีก หัวใจของเธอที่เคยรักและเคารพเขามาตลอด ตอนนี้กำลังถูกเขาย่ำยีและเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดี มันเจ็บปวดจนไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้เลย
“รู้จักสิ แต่เผอิญผู้หญิงที่ต้องให้เกียรติมันไม่ใช่เธอ เพราะฉะนั้นอย่าเรียกร้องในสิ่งที่คนอย่างเธอไม่ควรได้รับมัน” แดนไทยยังคงเอ่ยออกมาเสียงหยัน ส่วนฝ่ายหญิงสาวก็มองเขาด้วยความเจ็บปวด น้ำตามันกำลังจะเอ่อคลอออกมา แต่เธอก็ต้องพยายามที่จะห้ามมันเอาไว้ เธอจะคิดเสียว่านี่คือเวรกรรมของเธอ ที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งที่เธอไม่ได้ผิดอะไร ถ้าเขาจะหูหนวกหรือว่าตาบอดต่อไปนั่นมันก็เรื่องของเขา เธอก็แค่รับกรรมมันจะได้จบๆ ไปเสียที สิ้นสุดกันทีความรักที่เธอเคยมีให้เขาในฐานะพี่ชาย ตอนนี้พี่ชายคนนั้นของเธอได้ตายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามีของเธอ แล้วเธอไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วยซ้ำ
“ก็ตามนั้นค่ะ ถ้าได้ในสิ่งที่พอใจแล้ว มันก็ควรจะพอแล้วนะ” ตวิษาข่มความน้อยใจเอาไว้ แล้วเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจ เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขาแม้แต่วินาทีเดียว ในเมื่อเขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว เธอก็ไม่ควรที่จะรออะไรอีกต่อไป เธอควรจะออกไปจากห้องนี้เสียที ไม่ใช่แค่ใจของเธอเท่านั้นที่คิดจะหนีออกไป แต่ร่างบางก็พยายามพยุงร่างของตนเองให้ลุกขึ้น แล้วก็ใช้ผ้าห่มพันกาย เพื่อจะหนีไปให้พ้นจากความอัปยศนี้เสียที แต่ทว่าเธอยังไม่ได้ลุกไปไหนแล้ว เธอก็โดนมือที่แข็งแรงราวกับคีมคีบเหล็กมาล็อคที่แขนของเธอเอาไว้ ตวิษามองหน้าเขาทันทีด้วยความไม่เข้าใจ เขามีอะไรที่จะพูดกับเธออีกเหรอ
“ปล่อยค่ะ ตาวจะออกไป จะได้ไม่ต้องขวางหูขวางตาพี่แดนอีกต่อไป” ตวิษาเอ่ยออกมาด้วยเสียงแข็ง ส่วนเขาก็มองหน้าเธอแล้วก็ส่ายหน้าน้อยๆ อย่ามาทำตลกเลย ไม่มีผู้ชายที่ไหนหรอกนะได้ผู้หญิงครั้งเดียวแล้วจะพอ ท่าทางใสๆ แบบนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงเชื่อหรอกนะ แต่ว่ามันเป็นตอนนี้ไง ตอนที่เขาตาสว่างแล้ว เขาไม่มีทางที่จะเชื่อผู้หญิงอย่างเธอหรอก ผู้หญิงโลภมากและทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ตอนนี้เขาต้องมาแต่งงานกับเธอ คนอย่างเขาไม่มีทางยอมขาดทุนหรอก เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อหาความสุขจากเธอ ไม่ว่าเธอจะเจ็บปวดหรือไม่ เขาก็ไม่สนใจหรอกนะ
“เธอต้องอยู่ห้องนี้กับฉัน ในเมื่ออยากเป็นเมียฉันมาก เธอก็ต้องทำหน้าที่เมียของเธอสิ จะออกไปไหนไม่ทราบ” แดนไทยเอ่ยออกมาพร้อมทั้งส่งสายตาเหยียดหยามไปที่เธอ ส่วนหญิงสาวน่ะเหรอ เธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เพราะเธอรู้ดีว่าการอยู่ห้องนี้ของเธอ มันก็คือการหาความสุขจากเธอสินะ ทำไมเขาไม่รังเกียจเธอให้ได้แบบที่ปากพูด เขาจะได้ไม่ต้องมาหาความสุขจากร่างกายของเธออีก
“ทำไม ในเมื่อเกลียดกันก็แค่ไม่ต้องเห็นหน้ากัน แล้วก็ไม่มีคนที่เกลียดกันคนไหนหรอกนะที่เขาจะอยากมีความสัมพันธ์อย่างที่พี่แดนพูดถึง” ตวิษาเอ่ยออกมาด้วยความไม่เข้าใจ ปากกับใจเขาไม่ตรงกันหรือไง ทำไมต้องทำเหมือนอยากจะมาใกล้ชิดเธอแบบนี้
“เกลียดน่ะใช่ แต่ว่าอยากให้ได้รับบทเรียนก็ส่วนหนึ่ง” ว่าแล้วใบหน้าคมสันของเขาก็บดจูบลงมาเพื่อปกปิดความสงสัยที่หญิงสาวกำลังเอ่ยถามเขาทั้งหมด ไม่ต้องพูดพล่ามอะไรแล้ว หน้าที่ของเธอมีแค่มอบความสุขให้เขาเท่านั้น อย่าสงสัยในสิ่งที่ไม่ควรสงสัย ในเมื่อเขายอมแต่งงานกับเธอแล้ว เธอก็ต้องยอมทำหน้าที่ของภรรยา โดยไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น
ทันทีที่ถูกครอบครองด้วยเรียวปากหยักของเขา หญิงสาวก็ตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ความเสียวซ่านจะเริ่มเข้ามาครอบครองที่กายบางของเธออีกครั้ง ผ้าห่มที่พันกายอยู่ ถูกเขากระชากออกไปอย่างง่ายดาย ทำให้เรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอโผล่ออกมาอวดสายตาของเขาอีกครั้ง
นอกจากเรียวปากหยักแล้ว มือหนาของเขาก็ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างงานของเธอ ไม่ว่ามือหนาของเขาจะเคลื่อนไปที่ใด ความร้อนวูบวาบก็แผ่ซ่านไปทั่วส่วนนั้น ตวิษาเกลียดตัวเองจริงๆ ทำไมถึงกลายเป็นคนที่น่าอายแบบนี้ เธอไม่สามารถสั่งร่างกายให้ทัดทานเขาได้เลย มันยินยอมตามเขาไปทุกที่ ขอเพียงแค่เขานำทางเท่านั้น เธอไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นเลยสักนิด ยิ่งเขาเห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาก็ยิ่งดูถูกเธอมากกว่าเดิม แต่จะทำยังไงด้ล่ะ ในเมื่อตอนนี้ร่างกายของเธอมันไร้แรงต้านทานเขาเสียแล้ว
ชายหนุ่มยังคงเดินหน้าต่อเพื่อที่จะหาความสุขจากร่างงามของหญิงสาว เขาเคลื่อนมือไปทั่วทุกที่ ก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่ปากทางรักสีสดของหญิงสาว แล้วเขาก็พบว่ามันเต็มไปด้วยน้ำหวานหนียวใส เธอคงพร้อมแล้วสินะ พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปกับเขา เขาจึงดันร่างบางลงที่เตียงนอนอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะตามทาบทับลงไปติดๆ แล้วก็ส่งเจ้าความใหญ่โตขงเขาถูไล้ที่ปากทางรักสีสดของหญิงสาว
เพียงแค่ปลายบานสัมผัสที่ปากทางรักของเธอเท่านั้น มันทำให้หญิงสาวถึงกับบิดเร่าไปมาอย่างเสียอาการ เธอไม่อาจต้านทานเขาได้จริงๆ แล้ว ต่อให้เขาพาเธอไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนเธอก็ยอม ส่วนชายหนุ่มก็ค่อยๆ ดุนดันเจ้าความใหญ่โฃตของเขาเข้าไปในช่องทางรักสีสดของหญิงสาว
เจ้าความใหญ่โตของเขาดุนดันเข้าไปเรื่อยๆ ก่อนที่เจ้าความใหญ่โตของเขาจะสามารถเข้าไปได้สุดลำ ตวิษายังเจ็บปวดอยู่ และแดนไทยก็ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไป เขาสอดแช่ความใหญ่โตเอาไว้สักพัก ก่อนที่เขาจะเริ่มบรรเลงเพลงรักเข้าใส่หญิงสาว
เพลงรักที่เต็มไปด้วยความปรารถนามันยังบรรเลงอยู่อย่างนั้น ก่อนที่มันจะสามารถส่งหญิงสาวไปถึงปลายทางแห่งความสุขสมได้ เสียงหวีดร้องและน้ำหวานเหนียวใสที่ไหลออกมามากมาย มันทำให้เขารับรู้แล้วว่าหญิงสาวไปถึงปลายทางแห่งความสุขสมแล้ว
เขาจึงเร่งเครื่องเพื่อที่จะพาตนเองไปถึงปลายทางแห่งความสุขสมเช่นกัน และเพียงไม่นานเขาก็สามารถพาตนเองไปถึงปลายทางแห่งความสุขสมได้ ลาวารักสีขาวขุ่นถูกฉีดพ่นเข้าไปในช่องทางรักสีสดของหญิงสาวจนหมดทุกหยาดหยด ก่อนที่เขาจะถอดถอนมันออกจากกายบาง แล้วก็นอนพักเอาแรงอยู่ข้างๆ เธอ
และนี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างที่หญิงสาวเข้าใจ เพราะว่าตลอดทั้งคืน ชายหนุ่มหาความสุขจากร่างงามของหญิงสาวจนหมดแรงแล้วก็หลับไปอยู่ข้างๆ กัน