“ งานที่โรงพยาบาลเป็นไงบ้างเห็นว่ายุ่งมากจนไม่มีเวลาให้น้องเลยหรอ ” คุณแม่เป็นคนแรกที่เปิดประเด็นตามที่ผมสงสัย ท่าทางเวลาที่จิบชามองเผินๆอาจจะไม่มีอะไรแต่ถ้ามองในมุมของคนในครอบครัวอย่างผมแล้วดูก็รู้ทันทีเลยว่าคุณแม่กำลังต่อว่าที่ผมละเลยลูกสะใภ้คนโปรด “ นิดหน่อยครับช่วงนี้คนไข้ที่โรงพยาบาลเยอะมากผมเลยต้องอยู่เวรบ่อยขึ้น ” ผมเอ่ยด้วยท่าทีที่นิ่งพอสมควรก่อนจะยกชาขึ้นมาจิบบ้าง ผมกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่เมื่อถูกสายตาของคนเป็นแม่จ้องตลอดเวลา “ ปีนี้น้องก็จะเรียนจบแล้วใช่ไหม ” คำถามต่อมาของแม่ผมเข้าประเด็นเร็วกว่าที่ผมคิดเอาไว้ผมกังวลจนต้องมองที่ยังคนที่กำลังวุ่นวายกับการจัดจานสลัดอยู่ที่ครัวแต่จากตรงนี้ถ้าไม่ได้คุยกันเสียงดังเดาว่าคงจะไม่ได้ยินว่าพวกเรากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่ “ ครับอีกสองเดือนน้องก็จะฝึกงานแล้ว ” ผมพยักหน้าอย่างกระอักกระอ่วนเพราะคำตอบของผมมันจะกลายเป็นเชือกเส้นใหญ่ที