มันคือที่ไหน

1281 คำ
กีรติกาเดินทางกลับเมืองไทยก่อนกำหนดเกือบหนึ่งเดือนเพราะหญิงสาวรู้สึกเกรงใจคุณสุธีถ้าหากจะอยู่ต่อที่ประเทศอังกฤษอีกหนึ่งเดือนโดยไม่ทำอะไรเลย แต่เธอก็ไม่ได้แจ้งทางบ้านไว้ว่าจะเดินทางกลับวันนี้เพราะไม่อยากรบกวนให้ใครต้องมารับที่สนามบิน ครั้งสุดท้ายที่หญิงสาวกลับมาเมืองไทยก็ตั้งแต่งานศพของบิดาเมื่อสองปีก่อนจากนั้นเธอก็ไม่มีโอกาสได้กลับเมืองไทยอีกเลย ตอนนี้กีรติกาเหลือที่ซุกหัวนอนเพียงที่เดียวก็คือคอนโดที่บิดาซื้อให้เป็นชื่อของตัวเธอเอง หญิงสาวคิดว่ากลับมาเมืองไทยครั้งนี้เธอจะไปพักอยู่ที่นั่นก่อน เพราะถ้าหากกลับไปที่บ้านของคุณท่านตอนนี้ก็กลัวว่าจะถูกจับให้แต่งงานกับกิตติเดชเร็วขึ้น กีรติกาไม่ได้สนิทสนมหรือคุ้นเคยกับคู่หมั้นคนนี้เลยทุกอย่างเป็นไปตามที่บิดาของเธอและบิดาของกิตติเดชเป็นคนจัดการทั้งหมด การจากไปอย่างกะทันหันของบิดาทำให้กีรติการู้สึกเคว้งคว้าง และไร้ที่พึ่งเมื่อคุณท่านยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวก็ยอมรับด้วยความเต็มใจเธอไม่เหลือทรัพย์สินอะไรอีกแล้วนอกจากคอนโดมิเนียมห้องเล็กห้องหนึ่ง เมื่อลงจากเครื่องหญิงสาวก็ต้องแปลกใจเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาหาเธอ “สวัสดีครับคุณกรีนผมชื่อชาตรีเป็นคนขับรถที่บ้านของคุณท่านยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยครับ คุณท่านให้ผมมารับคุณกลับบ้านครับ” ชายวัยกลางคนแนะนำตัวเองกับหญิงสาวด้วยท่าทางสุภาพ “คุณท่านรู้เหรอคะว่าฉันจะกลับมา” หญิงสาวถามเพราะเธอไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับใครมาก่อนอีกทั้งชายที่ชื่อชาตรีเธอก็ไม่เคยเห็นหรือรู้จักมาก่อนเลย “คุณท่านรู้ทุกความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคุณกรีนครับ ท่านก็เลยให้ผมมารอรับ อันที่จริงท่านก็จะมาเองแต่มันดึกไปหน่อยก็เลยให้ผมมารับแทน” “แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณเป็นคนขับรถที่บ้านของคุณท่านจริงๆ” “ผมจะเอารูปที่ผมถ่ายขอบคุณท่านให้คุณกรีนดูนะครับ แต่ถ้าคุณยังไม่เชื่อจะโทรไปถามคุณท่านตอนนี้ก็ได้แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณท่านจะรับโทรศัพท์หรือเปล่าเพราะนี่มันก็เที่ยงคืนแล้ว” ผู้ชายที่ชื่อชาตรีส่งโทรศัพท์มือถือของตนเองที่คุณสุธีอยู่หลายรูปให้กีรติกาดูทำให้หญิงสาวเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาคือคนขับรถของคุณท่านจริงๆ “แล้วถ้าฉันกลับเข้าบ้านไปดึกๆ แบบนี้จะไม่เป็นการรบกวนคุณท่านเหรอคะ” หญิงสาวถามต่อ “ไม่หรอกครับเพราะคุณท่านเข้านอนแล้วก็ยากที่จะตื่น แต่คนที่รอรับคุณกรีนอยู่ที่บ้านน่าจะเป็นคุณกิตติเดชลูกชายของท่านมากกว่าจริงๆ แล้วคุณกิตติเดชก็อยากจะมารับคุณเองนั่นแหละแต่ เขายังทำงานไม่เสร็จผมก็เลยมารับคุณแค่คนเดียวครับ ผมว่ารีบไปกันดีกว่าไหมครับกรีนจะได้รีบกลับไปพักผ่อน” เพราะผู้ชายคนนี้ท่าทางไว้ใจอีกทั้งยังรู้จักทั้งคุณท่านและกิตติเดชทำให้กีรติกาไว้ใจและเดินตามมายังรถตู้คันหรูที่จอดอยู่ “ผมเอากระเป๋าไปเก็บหลังรถให้นะครับ” เขาเปิดประตูรถให้กีรติกาเข้าไปนั่งส่วนตัวเองก็เดินอ้อมมาทางหลังรถและหยิบกระเป๋าขึ้นไปวางก่อนจะเข้ามาประจำที่ตำแหน่งคนขับอีกครั้ง “คุณกรีนเดินทางมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำก่อนนะครับคุณท่านบอกว่าน้ำดื่มยี่ห้อนี้คุณกรีนชอบมาก” หญิงสาวมองขวดน้ำที่วางอยู่ด้านหน้าแล้วยิ้มเพราะมันเป็นขวดน้ำยี่ห้อที่ไม่ค่อยมีคนดื่มเท่าไหร่และเธอก็เคยพูดว่าชอบดื่มน้ำยี่ห้อนี้มากๆ กีรติกาจึงไม่ลังเลเลยที่เปิดแล้วดื่มอย่างรวดเร็วเพราะตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องเธอแทบไม่แตะต้องอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรเลย หลังจากดื่มน้ำไปได้ไม่นานกีรติกาก็รู้สึกง่วงเผลอหลับไป หญิงสาวไม่รู้ว่าตนเองเผลอหลับไปนานมากแค่ไหนรู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงคุณคุยกัน เธอตกใจมากเพราะจำได้ว่าตัวเองนั่งรถออกมาจากสนามบินแต่ตอนนี้กลับมานอนอยู่บนเตียง หญิงสาวรีบลุกขึ้นและเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว “ตื่นแล้วเหรอคะคุณ” หญิงสูงวัยคนหนึ่งถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร “ค่ะ ที่นี่ที่ไหนคะแล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เธอมองไปรอบๆ บ้านดูยังไงก็ไม่เหมือนบ้านคุณท่านที่เธอเคยไปพักอยู่เมื่อสองปีก่อนเลยสักนิด “คุณหิวไหมเดี๋ยวป้าทำอะไรให้กิน” หญิงสูงวัยไม่คำถามของกีรติกาเพราะถูกเจ้านายสั่งห้ามไว้ “ป้าคะที่นี่มันคือที่ไหนแล้วฉันมาที่นี่ยังไง” ขณะที่ถามหญิงสาวก็มองไปบริเวณนอกรั้วบ้านและก็ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งใบหน้าสวยซีดลงอย่างเห็นได้ชัด “ป้าคะ มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันแล้วทำไมฉันมาอยู่ที่นี่” หญิงสาวถามอีกครั้ง “ป้าตอบคำถามที่คุณถามป้าไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณอยากจะรู้จริงๆ ก็รอให้เจ้านายของป้ากลับมาก่อนก็แล้วกันนะคะ” “แล้วเจ้านายของป้าเป็นใครคะแล้วเมื่อไหร่เขาจะกลับมา” “เย็นนี้เจ้านายของป้าก็คงจะมาถึงที่นี่ระหว่างนี้คุณกินอะไรก่อนดีกว่าไหมนี่มันก็บ่ายแล้ว” “ไม่ค่ะ ฉันจะกลับบ้าน แล้วกระเป๋าของฉันไปไหน คนที่พามาเมื่อวานอยู่ไหนคะ” หญิงสาวโวยวายและทำท่าจะเดินลงจากบ้านก็พอดีกับชาตรีเดินสวนขึ้นมา “คุณจะกลับไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้านายของผม” “พวกคุณเป็นใครมีสิทธิ์มาขังฉันไว้ที่นี่ได้ยังไง ฉันจะกลับบ้านเอากระเป๋ามาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวโวยวายเสียงดังลั่นจนชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งเดินตามหลังคนขับรถเข้ามา “ผมว่าคุณกลับขึ้นไปบนบ้านดีกว่านะ” เขาพูดด้วยเสียงที่เข้มกับท่าทางที่ดูน่ากลัว “ทำไมฉันจะต้องเชื่อฟังพวกนายด้วยล่ะ” “ที่ผมบอกคุณก็เพราะหวังดีนะไม่มีใครออกไปจากที่นี่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต” “จะบ้าหรือเปล่านี่มันไม่ใช่ในละครนะที่จะจับคนมาขังไว้” หญิงสาวเถียงจากนั้นก็ลงจากบ้านแต่ชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ก็ขวางทางเธอไว้ก่อน “หลีกไปนะฉันจะกลับบ้าน” “คุณรู้เหรอว่า จะออกไปจากที่นี่ยังไง” ชายร่างใหญ่ถาม “นายก็บอกฉันมาซิว่าที่นี่มันที่ไหนเดี๋ยวฉันก็หาทางกลับไปได้เองแล้วน่า” “อย่าเสียเวลาเลยคุณที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวการจะเข้าออกจากที่นี่มีแค่ทางเดียวคือนั่งเรือเร็วเท่านั้นและตอนนี้กุญแจมันก็อยู่ที่ผม” ชายฉกรรจ์ชูกุญแจให้หญิงสาวดูก่อนจะใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม