หนึ่งเดือนต่อมา
โรสรินเริ่มที่จะปรับตัวเข้ากับทุกคนในบ้านได้ ไม่ว่าเธอจะทำงานบ้านอะไรก็จะมีแม่บ้านมาคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด
ความตั้งใจของโรสรินเริ่มส่งผลในทางที่ดีมากขึ้น จากช่วงแรกๆ ที่เธอทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาไปหมด แต่ตอนนี้ฟาร์ริกซ์ก็เริ่มชินกับการกระทำของเธอไปแล้ว
“อาหารเช้าวันนี้ค่ะ” โรสรินยกถ้วยข้าวต้มวางลงตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม
ตอนนี้อะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวไปหมด โรสรินก็แบ่งเวลาทำอาหารเช้าและอาหารเย็นช่วยแม่บ้านได้เป็นอย่างดี บอกแล้วว่าอะไรที่ทำเพื่อฟาร์ริกซ์เธอก็พร้อมที่จะทำ
“ระวังร้อนนะคะโรสพึ่งทำเสร็จ” หญิงสาวบอกด้วยความเป็นห่วงและหวังดี กลัวว่าชายหนุ่มจะรีบทานรีบออกไปทำงานเหมือนทุกวัน
“ขอบใจ” ถึงจะเป็นคำพูดและน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยเขาก็ได้บอกเธอ
ร่างบางนั่งลงข้างๆ ชายหนุ่ม มือบางกำชายกระโปรงจนยับยู่ยี่ไปหมด เพราะมีสิ่งที่เธออยากรู้แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะถาม
“มีอะไร” ฟาร์ริกซ์สังเกตเห็นท่าทางที่ปกติของอีกฝ่ายจึงถามและมองเธอด้วยความไม่เข้าใจ
“เอ่อ… โรสขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” เมื่อชายหนุ่มเปิดโอกาสโรสรินจึงตัดสินใจเอ่ยถามในสิ่งที่เธออยากรู้ออกมาตามตรง
“จะถามอะไร”
“ที่บริษัทของคุณพ่อโรสเป็นยังไงบ้างคะ”
โรสรินเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงบริษัทที่คุณพ่อสร้างเอาไว้ พอจะถามจากแม่เลี้ยงก็ติดต่อไม่ได้ ตั้งแต่ได้เงินสินสอดไปแม่เลี้ยงก็หายเงียบไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
“ก็ดีขึ้น ลูกค้าเริ่มติดต่อเข้ามาเยอะมากขึ้น คิดว่าสิ้นปีคงเคลียร์หนี้หมด” ฟาร์ริกซ์ตอบในขณะที่ทานข้าวอยู่ ซึ่งปกติแล้วเขาไม่จำเป็นต้องตอบด้วยซ้ำ แต่วันนี้เขากลับรู้สึกอยากคุยกับเธอ
“จริงเหรอคะ”
รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าสวย โรสรินดีใจที่อย่างน้อยเธอก็มีส่วนทำให้บริษัทของคุณพ่อดำเนินต่อไปได้ หากวันหนึ่งข้างหน้ามีโอกาส เธอก็อยากจะทำงานและรักษาบริษัทแทนคุณพ่อต่อไปให้ได้
“ฉันจะโกหกทำไม” ฟาร์ริกซ์ถามกลับเพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะโกหกเธอ
“แล้วแบบนี่พี่ฟาร์จะไม่ทำงานเยอะไปใช่ไหมคะ” หญิงสาวเป็นห่วงในเรื่องการทำงาน เพราะเขาเองก็มีงานที่บริษัทต้องดูแลอีก
“ไม่หรอก ฉันกับฟินนิคซ์สลับกันเข้าไปดูงานเกือบทุกอาทิตย์”
โชคดีที่มีฟินนิคซ์เข้ามาคอยช่วย ถ้าหากฟาร์ริกซ์ทำคนเดียวมีหวังไม่รอดแน่ แค่งานที่บริษัทเขาก็เยอะมากพอแล้ว ยังมาเจองานที่มีปัญหาใหญ่ของบริษัทคุณพ่อของโรสรินอีก
“ขอบคุณมากนะคะ” โรสรินขอบคุณจากใจและเธอก็ดีใจมากที่ทุกคนช่วยรักษาบริษัทของคุณพ่อเธอเอาไว้
“อาจจะต้องมีการเปลี่ยนพนักงานด้วยนิดหน่อย”
“ทำไมเหรอคะ?” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนพนักงาน
“เอกสารบางตัวไม่ชัดเจนทำให้การเงินผิดพลาดและมีปัญหา”
“ยังไงเหรอคะ?” โรสรินที่ไม่มีความรู้เรื่องการทำงานก็เริ่มฟังไม่เข้าใจกับคำพูดของชายหนุ่ม
“เรื่องมันซับซ้อน ไม่ต้องรู้หรอก”
ฟาร์ริกซ์ไม่อยากอธิบายให้เรื่องนี้วุ่นวายไปอีก เพราะเรื่องนี้ซับซ้อนเกินกว่าที่โรสรินจะเข้าใจและทำใจรับฟังได้ ถ้าหากเธอรู้ว่าที่บริษัทมีคนโกงเธอคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน
“ค่ะ ยังไงโรสก็ขอฝากบริษัทด้วยนะคะ โรสไม่อยากให้สิ่งที่คุณพ่อสร้างมาต้องพังเพราะโรส” หญิงสาวบอกชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มบางๆ
“อืม” ชายหนุ่มพนักหน้าตอบรับเชิงเข้าใจ
“ทานเยอะๆ นะคะ”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มปกคลุมไปด้วยความเงียบอีกครั้งเมื่อต่างคนต่างทานข้าวเงียบๆ ไม่พูดคุยกันอีก
“พี่ฟาร์อิ่มแล้วเหรอคะ” โรสรินถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
“อืม”
“เดี๋ยวโรสไปส่งค่ะ”
ทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จโรสรินก็จะทำหน้าที่ถือกระเป๋าเอกสารหรือไม่ก็ถือเสื้อสูทไปส่งสามีที่รถ การกระทำที่สม่ำเสมอของเธอทำให้ฟาร์ริกซ์พอใจเป็นอย่างมาก แต่ละวันเขาแทบจะไม่ได้ถืออะไรเพราะมีหญิงสาวคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง
“สู้ๆ นะคะ”
เมื่อมาถึงรถที่จอดรออยู่หน้าบ้านหญิงสาวก็อยากจะให้กำลังใจชายหนุ่มบ้าง เพราะอย่างน้อยเขาก็ช่วยดูแลบริษัทของคุณพ่อให้
“เย็นนี้ฉันอาจจะกลับดึกนะไม่ต้องรอทานข้าวเย็น” ฟาร์ริกซ์บอกไว้เผื่อว่าวันนี้เธอจะรอทานข้าวเย็นกับเขาเหมือนทุกวัน
“พี่ฟาร์จะไปไหนเหรอคะ”
“….” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วมองหญิงสาวด้วยความไม่เข้าใจและไม่ชอบที่มีคนมาคอยถามเวลาที่เขาจะไปไหนหรือทำอะไร
“โรสขอโทษค่ะ” หญิงสาวก้มหน้าพูดราวกับรู้สึกผิด ความจริงแล้วเธอไม่ควรที่จะถามหรือยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาด้วยซ้ำ
“ฉันจะไปดื่มกับเจย์เดน”
เมื่อเห็นใบหน้าและท่าทางรู้สึกผิดของเธอ ฟาร์ริกซ์จึงต้องตอบเพียงเพราะไม่อยากให้เธอทำหน้าแบบนั้นอีก
“ค่ะ อย่าดื่มเยอะนะคะเดี๋ยวตอนขับรถกลับบ้านจะอันตราย” โรสรินบอกด้วยความเป็นห่วงและกลัวว่าจะเกิดอันตราย ทางที่ดีเมาไม่ขับจะดีที่สุด
“ถ้าเมาก็ไม่กลับ” ชายหนุ่มตอบอย่างเรียบง่าย เพราะเมื่อก่อนเขาก็ทำแบบนี้เป็นประจำและไม่ใช่แค่จะไปดื่มแต่เขาอยากจะไปเจอผู้หญิงที่ทำให้เขาเร้าใจและตื่นเต้นมากกว่าภรรยาที่รออยู่บ้าน
“ถ้าขับรถไม่ไหวก็โทรหาโรสได้นะคะ” โรสรินยังคงเป็นห่วงชายหนุ่ม
“ทำไม เธอจะขับรถไปรับฉันเหรอ”
“ค่ะ”
คำตอบของโรสรินทำเอาชายหนุ่มพูดอะไรไม่ออก ก่อนจะหันหลังและเดินขึ้นรถไปพร้อมกับรอยยิ้ม ถึงเขาจะผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่ทุกคนก็ล้วนจบความสัมพันธ์แค่บนเตียงเท่านั้น เขาไม่เคยมีใครมาคอยถามและคอยเป็นห่วงแบบนี้มาก่อน ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย
^_^
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ความดีก็มีส่วนจริงๆ สู้ต่อไปนะโรสริน
ขอให้ความดีที่ทำเปลี่ยนใจฟาร์ริกซ์ได้นะ