“คุณอนันต์กำลังจะแต่งงานในอีกสองเดือนข้างหน้าครับคุณเจโรม”
“คราวนี้เป็นใครอีกล่ะครับคุณสาธิต นางแบบหรือดาราที่ไหนกันล่ะ” เจโรมนักธุรกิจหนุ่มวัย 32 ปีถามพลางหัวเราะเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บิดาของเขาจะแต่งงาน ตั้งแต่หย่าขาดจากมารดาท่านก็แต่งงานอีกหลายครั้งและแต่ละครั้งก็จบลงในเวลาไม่นาน
“ไม่ใช่เลยครับ ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง” น้ำเสียงของคุณสาธิตจริงจังและดูเป็นกังวล
“ต่างยังไงครับ”
“ก็คนนี้ดูคุณท่านจริงจังมากว่าทุกครั้งนะครับ งานแต่งครั้งนี้จัดใหญ่มาก ท่านอยากประกาศให้ทุกคนรู้”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครครับ”
“เธอเป็นพยาบาล”
“พยาบาลเหรอครับ พ่อคงอยากได้คนดูแลหรือเปล่า” เจโรมยังมองโลกในแง่ดี
“ถ้าอยากให้เธอมาดูแลก็คงไม่แต่งงาน อ้อ...ผมลืมบอกคุณอีกอย่างหนึ่งครับ เธอคนนี้อายุแค่ยี่สิบห้าเองนะครับ”
“อะไรนะครับคุณสาธิต เธออายุเท่าไหร่นะครับ” เจโรมตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเขาจึงถามซ้ำอีกครั้ง
“เธออายุยี่สิบห้าครับ”
“ผมว่าครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ ครับ เธออายุน้อยกว่าผมอีกนะครับ แล้วจะมาเป็นแม่เลี้ยงผมได้ยังไง ผมคงต้องจัดการเรื่องนี้”
“ที่ผมโทรมาบอกก็เพราะอยากให้คุณช่วยพูดกับท่านหน่อยครับ ผมไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ยอมแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อนั้นมีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า”
“ผมขอเคลียร์งานที่นี่สักสามวันนะแล้วจะกลับเมืองไทย”
“ให้ผมจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับคุณสาธิตเดี๋ยวผมให้เลขาของผมจัดการเอง”
“ได้ครับ”
“ระหว่างนี่คุณสาธิตช่วยไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้มาให้ละเอียดที่สุดด้วยนะครับ”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมส่งข้อมูลให้ทางเมลนะครับ”
“มีอะไรคืบหน้ารีบแจ้งผมด้วยนะครับคุณสาธิต”
เมื่อวางสายจากคุณสาธิตผู้ช่วยของบิดาแล้วเจโรมก็มีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของบิดาเลยแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
ก่อนจะเดินทางไปหาบิดาเจโรมจัดการเคลียร์งานของตัวเองและสั่งงานผู้ช่วยไว้อย่างละเอียดเพราะเขาไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอยู่ที่เมืองไทยนานแค่ไหนแต่ก็คิดว่าจะต้องขัดขวางการแต่งงานของบิดาให้ได้
แล้วเรื่องที่เจโรมจะเดินทางกลับเมื่องไทยก็ถึงหูคุณมาเรียมารดาของวันนี้ท่านเลยโทรศัพท์มานัดให้ชายหนุ่มมาทานอาหารค่ำด้วยกัน
“เจโรมลูกจะไปเมืองไทยใช่ไหม” คุณมาเรียถามอย่างไม่อ้อมค้อม
“แม่รู้ได้ยังไงครับว่าผมจะไปเมืองไทย”
“แม่บังเอิญเจอผู้ช่วยของลูก เขาเลยบอกว่าช่วงนี้ลูกกำลังเคลียร์งานอย่างหนักเพื่อที่จะเตรียมไปที่ประเทศไทย มีอะไรที่นั่นหรือเปล่าหรือโรงแรมมีปัญหา” คุณมาเรียถามถึงธุรกิจของลูกชายที่มีโรงแรมอยู่หลายแห่งทั้งในเอเชียและยุโรป
“โรงแรมไม่มีปัญหาหรอกครับแม่ ทุกอย่างโอเคดีแต่ผมจะไปหาพ่อ”
“นึกยังไงจะไปหาพ่อละ ปกติไม่เห็นจะติดต่อกันเท่าไหร่มีอะไรหรือเปล่า” เธอแปลกใจเพราะเจโรมกับบิดาแทบจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกัน
“พ่อจะแต่งงานใหม่ครับ”
“แม่ก็นึกว่าเรื่องสำคัญอะไร พ่อเขาจะแต่งงานใหม่ก็เรื่องของเขาสิ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยนะเจโรม เขาจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไปเถอะ” คุณมาเรียพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“แม่ครับแต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับทุกครั้งนะครับ”
“ไม่เหมือนยังไง ไหนลองบอกแม่มาหน่อยสิ”
“ก็ผู้หญิงที่พ่อจะแต่งงานด้วยเธอเพิ่งอายุยี่สิบห้าเองนะครับ อายุน้อยกว่าผมอีกนะ ผมว่าพ่อน่าจะโดนเธอหลอก”
“ช่างเขาเถอะเจโรมเขาอยากแต่งงานมีความสุขก็ปล่อยเขาไปเถอะ”
“ไม่ได้หรอกครับแม่ ที่ผ่านมาผมไม่เคยห้ามเลยนะถ้าพ่อจะแต่งงานกับใคร แต่ครั้งนี้ผมยอมรับไม่ได้จริงๆ ดูก็รู้ว่าผู้หญิงตั้งใจมาหลอก มีใครที่ไหนจะแต่งงานกับผู้ชายอายุคราวพ่อแบบนั้น ผมว่าเธอต้องมีจุดประสงค์บางอย่าง อาจจะหวังเงินของพ่อก็ได้” เจโรมจะไม่ยอมให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
“เขาจะยกให้ใครก็ช่างเขาเถอะ แล้วลูกคิดเหรอว่าไปห้ามแล้วพ่อจะฟังไหมล่ะ” มาเรียรู้นิสัยของอดีตสามีดีว่าเขาเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ไปครั้งนี้ก็อยากจะไปเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นด้วย บางทีถ้าผมพูดกับพ่อแล้วไม่ยอม ผมอาจจะพูดกับเธอก็ได้”
“จะไม่คิดดูอีกทีเหรอเจโรม”
“ผมคิดดีแล้วครับแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วผมจะจัดการเรื่องนี้เอง ยังไงพ่อก็ต้องไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”
“แม่ไม่ได้ห่วงเลยว่าเขาแต่งงานกับใครหรือทำอะไรที่ไหนแม่กับเขาเลิกกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว แม่จะเป็นห่วงแต่เจโรมนั่นแหละลูกมันจะเสียเวลาเปล่าๆ นะ”
“ผมว่ามันไม่เสียเวลาเลยครับแม่ ไปแล้วผมก็ถือโอกาสดูโรงแรมที่เมืองไทยแล้วก็พักผ่อนไปด้วย”
“แล้วจะไปนานแค่ไหนล่ะ”
“ยังไม่รู้เหมือนกันครับแต่คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานแม่อยากได้อะไรที่เมืองไทยไหม”
“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ”
“ครับแม่ ถ้าผมจัดการเรื่องพ่อเสร็จแล้วจะรีบกลับมา ผมฝากบอกพ่อด้วยนะครับแม่”
“ได้จ้ะ แม่จะบอกไรอัลให้นะ” มาเรียหมายถึงไรอัลสามีคนใหม่ที่แต่งงานกันมานานยี่สิบกว่าปีแล้ว