ลดาวีดียืนมองหน้าตัวเองในกระจกพลางบอกตัวเองว่า
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ อย่าไปหลงเชื่อคารมผู้ชาย เพลย์บอยคนนั้น ไม่จริง ไม่จริงลดา” หญิงสาวเตือนสติตัวเองแต่ก็อดหวั่นไหวหัวใจเต้นแรงกับเรื่องไม่คาดฝันนี้ไม่ได้ เธอยอมรับว่าธีรภัทรมีเสน่ห์น่าหลงใหลจนน่ากลัวแม้เธอจะเคยเห็นแค่ในนิตยสารหรือสื่อต่างๆ เท่านั้น แล้วหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอจะต้านทานเขาได้แค่ไหนกันหากเขาคิดจะรุกเข้าหาเธอจริงๆ
“ทำงาน ทำงาน ลดาอย่าฟุ้งซ่าน” ลดาวดีบอกตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป
“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” ลดาวดีเอ่ยขอโทษออกไปโดยอัติโนมัติเมื่อรู้สึกว่าเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอถึงกับชะงักเมื่อคนที่เธอชนคือเจ้าของนามบัตรเขย่าหัวใจคนนั้นนั่นเอง
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามอย่างห่วงใยในสถานภาพของคนที่เดินดุ่มๆ มาชนเขาเข้าอย่างจัง สวรรค์เป็นใจมากกว่าที่คิดธีรภัทรคิดในใจเมื่อนางฟ้าตัวน้อยที่เขาหมายปองหล่นเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
“เอ่อ ปะ...เปล่าค่ะ” ลดาวดีเอ่ยออกมาอย่างกระท่อนกระแท่นด้วยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อคนที่กอดเธออยู่ตอนนี้คือเจ้าของนามบัตรสั่นหัวใจ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเขายิ่งทำให้เธอใจสั่นคิดอะไรไม่ออก
“คราวหลังระวังหน่อยนะสาวน้อย เอ๊ะ...คุณชื่ออะไรนะลดาใช่ไหม ถ้าผมรับไว้ไม่ทันคุณได้ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นแน่ๆ ” ธีรภัทรก้มหน้าลงมากระซิบเตือนชิดริมใบหูสวย ซึ่งไม่รู้เลยว่าการกระทำแบบนั้นทำให้หญิงสาวในอ้อมแขนลมหายใจติดขัดแค่ไหน
“เอ่อ...ค่ะ กรุณาปล่อยดิฉันด้วยค่ะ” ลดาวดีเอ่ยพลางดันตัวออกจากอ้อมกอดของเขาซึ่งธีรภัทรก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
ฝ่ายธีรภัทรเมื่อปล่อยสาวเจ้ากลับไปทำงานแล้วก็เดินกลับไปหาเพื่อนๆ แต่กลิ่นหอมของร่างบางยังติดอยู่ที่ปลายจมูกไม่จางหาย มองไกลๆ ว่าสวยแล้วยิ่งได้มาเห็นใกล้ๆ เขายอมรับเลยว่าผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ ลดาวดีดูสวยเย้ายวนน่าทะนุถนอมน่าหลงใหลไหนจะร่างนุ่มนิ่มที่เขาได้กอดเต็มๆ เมื่อสักครู่ยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าของเขาได้เป็นอย่างดี ‘แล้วเจอกันนางฟ้าของผม’ ธีรภัทรรำพึงในใจ
“ไงไอ้ธี ไปเจออะไรดีมาวะ เดินยิ้มกรุ้มกริ่มกลับมาเชียว” คีตภัทรถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มดวงตาทอประกายระยิบระยับ
“ไปเจอน้องลดาของพวกแกมา ผู้หญิงอะไรยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งสวยตัวก็ทั้งนิ่มทั้งหอม”
“หา/หา” สองหนุ่มอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ
“พวกแกไม่ต้องมาหา”
“อะไรมันจะรวดเร็วปานนั้นวะ”
“คงเป็นพรหมลิขิตมั้ง เขาเดินมาชนฉันหน้าห้องน้ำ” ธีรภัทรไขข้อข้องใจให้กับเพื่อน
“แล้วเขาว่าไงที่แกส่งสาห์นแสดงความสนใจไปให้น่ะ” ตติยะถามอย่างอยากรู้
“ฉันไม่ได้ถาม ไม่อยากให้ไก่ตื่น รออีกสักพักก่อน” ธีรภัทรกล่าวอย่างมีชั้นเชิง
“เออ...ไอ้คนเหลี่ยมจัด ระวังเหอะท่ามากจะเหลว มคปด หมาคาบไปแดก”
“ฝันไปเถอะ เขาเป็นของฉัน ลองมีหน้าไหนมาแหยมดูสิ”
“โอ้โหแฮะ...ยังไม่ทันไรแกออกอาการหวงขนาดนี้แล้วเหรอวะ” ธีรภัทรยักไหล่ไม่ตอบเสหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบสายตาจ้องมองไปยังสาวน้อยร่างบางน่าหลงใหลที่เคาน์เตอร์ด้านล่างอย่างหมายมาด สองหนุ่มเพื่อนสนิทมองหน้ากันเหมือนจะสื่อสารทางสายตาว่าพวกเขาคงต้องเตรียมตัวเสียเงินล้านให้ไอ้เพื่อนเพลย์บอยแน่แท้เชียว ถ้าธีรภัทรได้แสดงท่าทางเอาจริงชัดเจนขนาดนี้ เพราะไม่เห็นมีผู้หญิงคนไหนที่ธีรภัทรอยากได้แล้วจะพลาดสักราย
ฝ่ายลดาวดีก็จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคิดเงินผิดๆ ถูกๆ จนต้องดุตัวเอง
“เย็นไว้ลดา อย่าไปหลงคารมเขาง่ายๆ นะ ไม่จริงๆ ๆ ” หญิงสาวเตือนสติตัวเองพร้อมตั้งสมาธิให้จดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า แต่ก็มักจะเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นแวบเข้ามารบกวนสมาธิของเธอตลอดเวลาจนต้องภาวนาให้คืนนี้จบสิ้นลงเร็วๆ เธอจะได้มีเวลากลับบ้านไปตั้งหลัก หญิงสาวรู้สึกว่าโดนมองอยู่จากด้านบนของร้านเมื่อมองขึ้นไปจึงประสานสายตากับคนก่อกวนสมาธิของเธออย่างจัง
“โอ๊ย...คนบ้ามองอยู่ได้ คนเขาไม่มีสมาธิทำงานรู้ไหม” ลดาวดีสบถเบาๆ เจนิตาเห็นเพื่อนมีอาการแปลกๆ จึงเดินเข้ามาถามด้วยความห่วงใย
“เป็นอะไรหรือเปล่าลดา เจนเห็นท่าทางลดาแปลกๆ นะแล้ววันนี้ก็คิดเงินลูกค้าผิดหลายโต๊ะด้วย ลดาไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา”
“จะอะไรซะอีกล่ะ ขวัญใจเจนนั่นแหละกวนประสาท”
ลดาวดีว่าอย่างไม่สบอารมณ์
“ใครกัน... อ๋อคุณธีรภัทรทำไมเหรอ” เจนิตาออกอาการอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที
“เมื่อกี้ลดาเดินชนเขาหน้าห้องน้ำ”
“อุ๊ย..เหมือนในละครเลย สงสัยจะเป็นพรหมลิขิตจริงๆ ซะแล้วล่ะมั้งลดา แล้วไงต่อเหรอ”
“อีตาบ้านั่นก็ฉวยโอกาสกอดลดาซะแน่นเลยน่ะสิ คนอะไรก็ไม่รู้ชีกอจริงๆ ”ลดาวดีเอ่ยหน้างอง้ำ
“เอ๋...ไม่พอใจเขาแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ อย่างนี้ไม่เรียกว่าโกรธนะ เขาเรียกว่าเขินกิ้วๆ ” เจนิตาได้ทีเอ่ยแซว
“หยุดเลยนะเจน ไม่งั้นลดาจะโกรธจริงๆ ด้วย” ลดาวดีขู่
“โอ๋ๆ ๆ ไม่ล้อแล้วก็ได้”
“ดูสิ ไม่รู้จะมองอะไรนักหนา คนเขาจะทำงานมาทำเสียสมาธิหมด” ลดาวดีบ่นให้ตัวต้นเหตุ
“ใครมองเหรอ” เจนิตาถามอย่างสงสัย
“จะใครล่ะ โน่นไง” ลดาวดีบุ้ยใบ้ไปทางธีรภัทรบนชั้นสองที่มองตรงมายังเธอ เจนิตามองตามจึงเห็นว่าธีรภัทรกำลังมองเพื่อนเธอด้วยสายตาหยาดเยิ้มอยู่พอดี
“ต๊าย...คุณธีของเจน โอ๊ยเจนจะเป็นลมลดา คนอะไรก็ไม่รู้เท่ชะมัด” เจนิตาออกอาการเพ้อทันที
“ว่าแต่ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ เขาแสดงออกว่าสนใจลดาขนาดนี้จะไม่ลองให้โอกาสตัวเองหน่อยเหรอ”
“เจน ลดาเคยบอกแล้วนี่ว่าเรากับเขาน่ะมันคนละชั้นกัน
ลดาไม่อยากเป็นของเล่นของคนรวย ไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่า”
“โธ่ ลดา มันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้นะ” เจนิตาครวญอย่างเสียดายแทนเพื่อน
“ไม่ดีกว่า ตอนนี้ลดาไม่อยากสนใจเรื่องอื่น นอกจากทำงานหาเงินให้ได้เยอะๆ ไว้รักษายาย”
“เฮ้อ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่เพื่อนเจนจะขายออกกัน ทำไมน้า ทำไมคุณธีไม่สนใจเจนไม่อย่างนั้นจะตอบรับทันทีเลย” เจนิตาเอ่ยอย่างเสียดาย
“เอาไหมล่ะ ลดายกให้เลย”
“อุ๊ยตาย...ลดาไปเป็นเจ้าของเขาตอนไหนจ๊ะถึงได้เที่ยวมายกเขาให้คนนั้นคนนี้” เจนิตาเอ่ยกระเซ้าเพื่อนสนิท ลดาวดีชะงัก ‘นั่นน่ะสิ เธอนี่ท่าจะบ้าไปแล้วลดาเอ๊ย’ ลดาวดีคิดแล้วก็หน้าแดงเป็นเพราะอีตาคนนั้นคนเดียวเลยฮึ! หญิงสาวโยนความผิดให้คนต้นเรื่องทันที