บทที่3

1732 คำ
@ออฟฟิศจันทร์เจ้า “น้องจันทร์เจ้า สวัสดียามเช้าจ้า” พี่พิมพ์เลขาประจำตัวของฉันเดินหน้าบานมาทักฉันแต่เช้าเมื่อเห็นฉันเดินมา “นายแบบที่น้องเจ้าบอกว่าตามใจพี่พิมพ์มาแล้วนะคะ หล่อมากเลยค่ะ อิอิ เขารอน้องเจ้าอยู่ในห้องนะคะ” “อ๋อขอบคุณค่ะ” พี่พิมพ์รายงานเรื่องนายแบบที่จะมาถ่ายกับชุดที่ฉันออกแบบคอลเลกชันใหม่จนเก็บอาการเขินไม่อยู่บิดตัวไปมาอยู่นั่นแหละ เฮ้อ พี่พิมพ์น่ะพี่พิมพ์เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้ออกอาการตลอด “เก็บอาการหน่อยค่ะพี่พิมพ์ บิดตัวจนจะเป็นเลขแปดอยู่แล้วค่ะ” “น้องเจ้าอ่า~อย่าแซวพี่สิคะ คนนี้หล่อจริง ๆ นะคะ พี่เห็นแวบแรกก็แบบใจสั่นเลยค่ะ ^^” “ค้า~ เดี๋ยวเจ้าไปดูเองว่าจะหล่อจริงและทำให้พี่ใจสั่นได้เนี่ยจะขนาดไหนกันเชียว” “เตรียมใจให้ดีก็พอค่ะ เดี๋ยวขาอ่อนพรึบสักก่อนถ้าได้เห็นหน้าพ่อสุดหล่อ” ” ค่ะๆ จะเตรียมใจให้ดีเลย ^^” หลังจากคุยกับพี่พิมพ์จบฉันก็เดินผ่านพี่เขาเพื่อไปยังห้องทำงานตัวเอง ซึ่งเรื่องจัดการนายแบบฉันให้พี่พิมพ์จัดการให้หมด เพราะช่วงนี้ฉันยุ่ง ๆ ด้วย ก็เลยปล่อยให้พี่เขาจัดการได้ตามใจเพราะฉันไว้ใจฝีมือในการหานายแบบของพี่พิมพ์อยู่แล้วได้มาแต่ละคนนี้คือสุด ๆ อะ รอบนี้ก็คงไม่ต่างกันถึงได้โม้ขนาดนั้น . . ตึก ตึก ตึก ปึก!!! ฉันผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานหลังจากที่เดินมาถึงห้องทำงานที่พี่พิมพ์แจ้งว่ามีแขกรอพบอยู่ข้างใน พอฉันผลักประตูเข้าไปก็เห็นผู้ชายรูปร่างโดดเด่นไหล่กว้างใช้ได้ สวมชุดที่เรียกว่าAll Blackทั้งตัวกำลังนั่งหันหลังให้ฉันที่โซฟา ซึ่งคิดว่าเขาน่าจะกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ จึงไม่ได้สนใจเจ้าของห้องอย่างฉันที่เดินเข้ามา แวบแรกตอนที่ฉันจ้องไปยังแผ่นหลังของเขาฉันรู้สึกคุ้นๆ เหมือนคนที่ฉันเคยรู้จัก แต่ฉันก็สลัดความคิดนั่นทิ้งไปเพราะคงไม่ใช่เขาหรอก เขาจะกลับมาทำไม แล้วจะกลับมาหาฉันทำไม เมื่อตัดความคิดนั่นออกไปแล้วฉันจึงเดินไปหาแขกที่นั่งรออยู่ที่โซฟา... “อะฮึ่ม” เสียงฉันกระแอมไอเล็กน้อยเพื่อที่จะให้แขกรู้ตัวว่าฉันมาถึงแล้ว แต่พอได้เข้าไปใกล้ ๆ แขกมากขึ้น ฉันก็รู้สึกว่ามันเหมือนเขาคนนั้นมาก จนกระทั่งที่เขาหันมาทางฉันและฉันได้เห็นใบหน้าเต็มๆ ของเขา คนที่จะมาเป็นนายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าของฉัน... O_O “....พายุ” ฉันเผลอเรียกชื่อของผู้ชายที่กำลังลุกจากโซฟาตรงหน้าฉันอย่างเหม่อลอย ผู้ชายที่เคยเป็นอดีตแฟนของฉัน ผู้ชายที่เป็นรักแรกของฉันเมื่อ2ปีที่แล้ว ผู้ชายที่จู่ ๆ เขาก็หายไปจากชีวิตของฉันโดยไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เขามาอยู่ตรงนี้ เขาอยู่ตรงหน้าฉันในฐานะนายแบบของฉัน แล้วทำไมเขาถึงได้กลับมาตอนนี้แล้วทำไมถึงกลับมาหาฉันในวันนี้... ??? “สวัสดีครับคุณจันทร์เจ้า” “อะเอ๋อ...สวัสดีค่ะ อะฮึ่ม เอ๋อ..ชะเชิญนั่งก่อนค่ะ” หลังจากที่ยืนขมวดคิ้วเพราะความสงสัยมากมายอยู่สักพัก ฉันก็ได้สติกลับมาเพราะเสียงทุ้มที่ทักทายฉัน ฉันเลยต้องรีบผายมือให้บุคคลตรงหน้านั่งที่โซฟาตัวเดิมอย่างตะกุกตะกักเหมือนไม่ใช่ฉันที่มั่นใจในตัวเองอยู่ตลอดเวลาแบบทุกวัน คือฉันรู้สึกลนลานจนมือเย็นและสั่นไปหมดเช่นเดียวกับใจของฉันตอนนี้ที่สั่นและรู้สึกหวั่นไหวเหมือนครั้งแรกที่ถูกคนตรงหน้าขอเป็นแฟนเมื่อ2ปีที่แล้ว... แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายไปจากชีวิตฉัน พอนึกมาถึงตรงนี้ก็ทำให้ใจฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่กลางใจทันที พร้อมกับรู้สึกว่าน้ำตามันพานจะไหลลงมาเอาดื้อๆ แต่ฉันก็ต้องกลั้นมันเอาไว้ ใช่ ฉันจะมาร้องไห้เสียน้ำตากับอดีตอย่างเขาไม่ได้... “เป็นอะไรรึเปล่าพี่เห็น... เอ๋อ ผมเห็นเหมือนคุณตาแดงๆ น่ะ ไม่สบายหรือเปล่าครับ ถ้าไม่พร้อมค่อยนัดมาคุยกันวันอื่นก็ได้นะครับ” “เอ๋อ...ปะเปล่าค่ะฉันแค่เป็นหวัดนิดหน่อย ฉันโอเคค่ะ เรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่านะคะ” ฉันรีบยกมือขึ้นมาปัดจมูกและเช็ดหน้าเช็ดตาของตัวเองอย่างลวกๆ “ครับ” หลังจากที่เขาตอบรับฉัน ฉันก็เริ่มคุยเรื่องงานกับเขาทันทีอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ที่จะให้เขามาเป็นนายแบบให้ จนเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ อยู่ ๆ ฉันก็แอบมองไปที่เขาที่กำลังดูรายละเอียดงานอย่างตั้งใจ ฉันรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปเขาดูห่างเหินและไม่ตกใจที่เจอฉัน ผิดกับฉันที่เห็นหน้าเขาเมื่อกี้ลมแทบจับ แต่เขาดูไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันนอกจากดูนิ่งและเย็นชาราวกับว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน... ใช่ เขาไม่ใช่คนเดิมที่ฉันเคยรู้จักอีกแล้ว ความรู้สึกฉันมันบอกแบบนั้น . . 20นาทีผ่านไป... “ตกลงตามนี้นะคะ คอลเลกชันนี้เราจะเริ่มถ่ายกันเดือนหน้า และเริ่มวางขายทันทีที่ทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ” “โอเคครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับคุณจันทร์เจ้า” พายุยื่นมือมาข้างหน้าฉันพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง ๆ โดยที่ฉันได้แต่ยืนมองไปที่มือของเขาอย่างนิ่งๆ มือที่ฉันเคยจับไว้ตอนเดินไปกินข้าวที่ห้างหรือเดินไปดูหนังด้วยกันแต่ตอนนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว มันคือการจับมือกันในฐานะเพื่อนร่วมงาน.. “ค่ะ ยินดีที่ได้ทำงานร่วมกันค่ะ” สุดท้ายฉันก็สลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไว้ข้างหลังแล้วอยู่กับปัจจุบันแทน ก่อนจะยื่นมือไปจับมือเขาเพื่อเป็นสัญญาณของการร่วมงานกัน หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ปล่อยมือลง พร้อมกับเขาที่หมุนตัวเดินออกไปจากห้องของฉัน ทิ้งไว้แค่ฉันที่ทรุดลงบนโซฟาอย่างหมดแรง ฉันทนทำตัวไม่รู้สึกอะไรไม่ไหวแล้ว ฉันเลือกที่จะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ โดยไม่มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา TT เรื่องของฉันกับพายุมันคืออดีต อดีตที่ฉันคิดว่ามันทรมานสำหรับฉันอยู่เหมือนกันในช่วงนั้น เพราะเป็นรักแรกที่ฉันคิดว่ามันควรเพอร์เฟคแต่มันกลับล้มไม่เป็นท่า เมื่ออยู่ ๆ เขาทิ้งฉันไปโดยไม่มีคำร่ำลาใด ๆ ปล่อยให้ฉันจมอยู่กับความทุกข์คนเดียวมาตลอดหลังจากเขาหายไป ส่วนสาเหตุที่ทำให้ฉันไม่สามารถลืมเขาได้ง่ายๆ ก็เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง มีความสุภาพบุรุษกับฉัน เขาให้เกียรติฉัน และตอนที่คบกันตอนนั้นเขาไม่เคยล่วงเกินฉันแม้แต่นิดเดียว ฉันจึงไว้ใจเขาและคิดว่าอยากฝากชีวิตไว้กับเขาคนเดียวแต่แล้วทุกอย่างก็ต้องจบเมื่อเขาหายไป....จนคนที่คิดว่าเดี๋ยวเขาจะกลับมาอย่างฉันหมดหวังไป...และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแค่อดีต Rrrr ครืด~ ครืด~ ติ๊ด. [อีเจ้า มึงรู้ยังว่าพายุมันกลับมารับงานถ่ายแบบอีกครั้งหลังจากที่หายไปอะ] “อืม เขามาถ่ายแบบให้กับคอลเลกชันใหม่ของกู” [เฮ้ย!! จริงดิ แล้วมึงโอเคป่ะเนี่ย กูว่าถ้ามึงไม่โอเคก็ถอนตัวมันแล้วเอาคนอื่นมาแทนก็ได้นี่] “กูโอเค งานคืองาน เรื่องกูกับมันมันจบไปนานแล้วมึง กูไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับมันแล้ว” [ถ้ามึงคิดแบบนี้ กูค่อยสบายใจหน่อย สู้ๆ มึง ไม่ไหวอย่าเก็บคนเดียว มึงยังมีกูกับอีเฌออยู่ข้างๆ เสมอ] “อืม ชอบใจมึงมาก กูโอเค กูไหว” [เออๆ ไหวก็ไหว อย่าแอบร้องไห้ละมึงเดี๋ยวคืนนี้ต้องไปเที่ยวผับกับพวกกูอีก หน้าไม่สวยกูไม่เดินด้วยนะคะบอกไว้ก่อน] “ค่ะ อีดอก” ติ๊ด. ฉันรีบกดวางสายทันทีที่เริ่มรู้สึกว่าอีเบมันเริ่มจะกวนประสาทฉัน “เฮ้อ~” ถ่ายรูปลงไอจีดีกว่า เรียกกำลังใจให้ตัวเองหน่อย จะมัวมานั่งทุกข์ทำไมเพราะมันคืออดีตจันทร์เจ้ามันคืออดีต INSTAGRAM Photo ❤️345567Like J.jao ก็แค่ยิ้มให้กับอดีตที่ผ่านมา ? Babe.bb เพื่อนกูสตรองอยู่แล้วค่ะ❤️ cher_tam เจ้าสู้ ๆ ? cbg.xx น้องเจ้าเป็นอะไรครับ ถ้าอยากมาซบไหล่ปัจจุบันอย่างพี่ก็ได้นะครับ พี่ยินดี View all 239 Comments... Golf_12 @xxx_xx ไอ้เอ็กซ์มึงมาเก็บเพื่อนมึงด่วนเลอะเทอะใหญ่ละ xxx_xx หัดดูสารรูปตัวเองด้วยครับเพื่อน @cbg.xx . . หลังจากที่ฉันลงรูปตัวเองเสร็จก็นั่งเลื่อนอ่านคอมเม้นต่าง ๆ ใต้ภาพที่มีทั้งของเพื่อนสนิทฉันสองคนที่รู้เรื่องทุกอย่างเข้ามาคอมเม้นให้กำลังใจเพราะตอนที่อกหักใหม่ๆ ก็มีพวกมันนี่แหละที่คอยอยู่ข้างๆ ฉัน นอกนั้นก็เป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่ที่เข้ามากวนบ้างเข้ามาให้กำลังใจบ้างประปรายกันไป เมื่อเลื่อน ๆ ดูจนเบื่อแล้วฉันจึงวางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะทำงานแล้วหันมาจับเมาส์แทนพร้อมกับสูดหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะเริ่มทำงานตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ....
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม