“ผมขอเลี้ยงไวน์คุณได้มั้ยครับ” พูดพลางส่งสายตาระยิบให้แก่นาราริน พร้อมส่งแก้วไวน์ให้แก่เธอ อีกสองสาวถึงกับยิ้มกริ่ม พวกเธอมักเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ จนชินชาซะแล้ว
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันคงรับความมีน้ำใจของคุณไม่ได้ เพราะคืนนี้ฉันมีหน้าที่ขับรถส่งเพื่อน ๆ น่ะค่ะ”
เธอโกหก เพราะสามสาวต่างขับรถกันมาเองแท้ ๆ หากขากลับเมามายไม่ไหว ไม่โทรเรียกสามีมารับก็คงเรียกให้คนขับรถมารับกลับไปเหมือนทุกครั้ง
“งั้นให้ผมไปส่งก็ได้” เขายังตื๊อต่อ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา แต่แววตาระยิบ...
“คือฉันขับรถมาเองน่ะค่ะ” ไม่ได้ยินเหรอ...ถึงเขาจะดูหล่อเหลาเหมือนเทพบุตรสักแค่ไหนก็เหอะ แต่วินาทีนี้คงไม่มีใครสู้คู่หมั่นของเธอได้หรอก “ขอโทษด้วยนะคะ ได้เวลากลับบ้านพอดีเลย”
“งั้นผมขอเบอร์โทรคุณละกัน”
เขาตื๊อด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม เธอหันมองเพื่อน ๆเชิงปรึกษาว่าจะเอาไงดีหว่า ทว่า พวกหล่อนกลับส่ายหน้าไม่ขอออกความเห็นใดๆทั้งนั้น อยู่ที่การตัดสินใจของเธอแต่เพียงผู้เดียว
หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนเธอจะโดนกัปตันภูขอแต่งงาน เธอคงให้เบอร์เขาไปแล้วล่ะ เพราะผับนี้เป็นผับหรูระดับอีลิท ผู้ชายเข้าได้ก็แค่สมาชิกวีไอพีขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งก็จะอยู่ในระดับที่ร่ำรวยขั้นเศรษฐี หรือไม่ก็ต้องมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง การรู้จักกับคนระดับนี้ ย่อมเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว มันจะขยายคอนเนกชั่นได้ แต่...
“ต้องขอโทษคุณอีกครั้งนะคะ คือฉันมีแฟนแล้ว”
“แต่ยังไม่ได้แต่งงานใช่มั้ย”
เอ๊ะ! หมอนี่ ! เธอบอกขนาดนี้แล้วยังหน้าด้านอีก
“ถึงยังไม่ได้แต่งงานแต่ฉันก็รักแฟนฉันมากค่ะ ฉันว่าคุณกลับไปหาสาว ๆ ที่โต๊ะคุณจะดีกว่าค่ะ” พูดใส่แบบเชิ่ดๆเลิศๆไปเลย
“คุณรู้ว่าผมนั่งอยู่โต๊ะไหน ก็แสดงว่าคุณเองก็มองผมอยู่เหมือนกันล่ะสิ” เขาดื่มไวน์ที่ถือมาเองจนหมดแก้วแล้ววางลงบนโต๊ะของพวกเธอ
“อย่าเล่นตัวเลยน่า ผมไม่ได้ขอเบอร์ใครง่าย ๆนะ มีแต่ผู้หญิงวิ่งตามขอเบอร์ผม คุณควรจะรีบคว้าโอกาสนี้ไว้นะ มันเป็นโอกาสเดียวนะคุณ”
แต่เธอไม่คว้าไว้ ไม่รู้สึกเสียดายอะไรทั้งนั้น ถึงเขาจะหล่อตรงสเป๊คสุดๆก็ตาม
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่สนใจคุณ หลีกทางให้ด้วย ฉันจะกลับแล้วค่ะ”
แต่เขาไม่หลีก กลับเข้าประชิดตัวในระยะอันตราย กลิ่นน้ำหอมหมอนี่มันหรูหราราคาแพงสุดๆ นาฬิกาที่ใส่นั่นก็แบรนด์หรู ราคาเกือบสามสิบล้าน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าก็คงจะเป็นลูกเศรษฐีสักคนนั่นแหละ ก็เลยเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้
“แต่คุณอ้าขาให้ผมนะ ผมแค่ตอบรับคุณ”