ธีรวัตร สันติธำรงไพศาลหรือ ดินแดน ชายหนุ่มวัย 27 ปี ลูกชายเพียงคนเดียวของท่านธีระ สันติธำรงไพศาล มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ขาวสะอาดไปจนถึงธุรกิจสีเทาอย่างเช่น คาสิโน ดินแดนชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อราวกับลูกรักพระเจ้า รักในชีวิตอิสระ แม้จะควงสาวสวยแทบไม่ซ้ำหน้าที่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดอยู่ที่ใคร ณ ปัจจุบันกำลังดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่และในอีกไม่ช้าก็คงจะได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทแทนผู้เป็นพ่อและนอกจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้วเขายังต้องรับหน้าที่ทายาทมาเฟียต่อจากผู้เป็นพ่ออีกด้วย
@Cinderella Pub (ซิลเดอเรลล่า ผับ)
ผับหรูย่านใจกลางเมืองที่เหล่าผีเสื้อราตรีและนักดื่มมากมายต่างแย่งกันจองโต๊ะหนาแน่นแทบทุกคืนผับหรูที่การบริการดีที่สุดอีกทั้งยังมีสาวสวยมากมายคอยให้บริการและเป็นอีกหนึ่งสถานที่โปรดของดินแดนนอกจากเป็นสถานที่โปรดแล้วเขายังสนิทสนมกับเจ้าของผับแห่งนี้เป็นอย่างมาก
เอี๊ยด!
รถสปอร์ตหรูสีแดงเพลิงขับเข้าไปจอดยังที่จอดรถประจำของผับ สองขาแกร่งสาวเท้าลงจากรถเดินเข้าไปในผับทุกคู่สายตาจ้องมองมายังชายหนุ่มร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาไม่วางตา สาวๆต่างรู้จักดินแดนกันเป็นอย่างดีจากข่าวในจอแก้ว หน้านิตยสารหรือในออนไลน์ นอกจากความหล่อของเขาที่ดึงดูดความสนใจสาวๆได้แล้วก็คงจะเป็นความเฉลี่ยวฉลาดของเขานั่นเอง
“ ดิน ! ” เชอรีนสาวสวยเจ้าของผับหรูวัย 27 ปีเอ่ยเรียกดินแดนเสียงดังเมื่อเห็นร่างหนาแสนคุ้นเคยเดินเข้ามาในผับของเธอ กระบอกตาคมหันไปมองยังเจ้าของเสียงอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“ ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น ” นอกจากครอบครัวและเพื่อนสนิทเขามักไม่ชอบให้ใครมาเรียกชื่อเขาแบบนั้น
“ แต่เราก็… ”
“ แค่คู่นอนเชอรีน ต่างคนต่างได้ในสิ่งที่ต้องการไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ” เชอรีนเอ่ยไม่ทันจบประโยค ดินแดนเอ่ยแทรกออกไปทำให้คนฟังหน้าเสียลงไปทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นแต่เพียงแว็ปเดี๋ยวเธอก็ปรับสีหน้ากลับมาฉีกยิ้มกว้างได้อีกครั้ง
“ แหม๋ ! ดินแดนแค่นี้ทำเป็นไม่พอใจ คืนนี้ดื่มเสร็จเจอกันหน่อยไหม? ” เชอรีนเอ่ยพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม
“ ไม่! วันนี้ไม่มีอารมณ์ ” ชายหนุ่มเอ่ยปฏิเสธออกไปอย่างไม่คิดใยดี สองขาแกร่งสาวเท้าเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของผับที่มีเพื่อนนั่งรออยู่ทันที
“ หึ! สักวันฉันจะทำให้นายขาดฉันไม่เลยคอยดู ” เรียวปากสวยเอ่ยพึมพำออกมา ดวงตาคู่สวยก็เอาแต่มองตามแผ่นหลังหนาของดินแดนที่เดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของผับไม่วางตา
สองขาแกร่งสาวเท้าสุขุมเดินไปหาเพื่อนที่ห้อง vip ที่มีเพื่อนสนิททั้ง 3 คนกำลังนั่งรอเขาอยู่
“ นั่นไงมันมาแล้ว ” อเล็กซ์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามา ร่างหนาเดินมาทิ้งสะโพกลงนั่งบนโซฟาอย่างเหนื่อยหน่าย
“ มาช้านะมึง นัด 3 ทุ่มมาถึง 4 ทุ่ม งานเยอะเหรอวะ? ” ราชันย์เอ่ยถามเพื่อนออกไป มือหนาก็ชงเครื่องดื่มสีอำพันให้เพื่อนอย่างรู้หน้าที่
“ นิดหน่อย ” ดินแดนเอ่ยบอกเพื่อนออกไปก่อนจะกระดกดื่มน้ำสีอำพันเข้าไปทีเดียวจนหมดแก้ว
“ ไอ้สัส! มาแล้วก็กรอกเลยเหรอวะ ” ครามที่นั่งอยู่ตรงข้ามเอ่ยถามเพื่อนออกไปเมื่อเห็นเพื่อนยกทีเดียวจนหมดแก้ว
“ มึงมีเรื่องเครียด ? ” ราชันย์เอ่ยถามเพื่อนขึ้นอีกครั้ง
“ อย่างบอกนะว่า เรื่องแต่งงาน ” ครามเอ่ยขึ้น เพราะนอกจากเรื่องนี้เพื่อนของเขาก็ไม่น่ามีอะไรให้เครียด
ปัง !
“ อืม ” ดินแดนเอ่ยตอบเพื่อนเบาๆในลำคอแกร่งก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันแก้วที่ 2 เข้าปากไป มือหนาวางแก้วลงบนโต๊ะเสียงดังจนเพื่อนๆได้แต่หันมองตากัน
“ มึงก็บอกคุณลุงไปสิวะว่า ไม่แต่ง ไม่รักกันจะแต่งกันได้ยังไงวะ ” อเล็กซ์เอ่ยบอกเพื่อนทั้ง 3 สนิทสนมกับท่านธีระและคุณหญิงกานจนาเป็นอย่างมากเพราะดินแดนและกลุ่มเพื่อนเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนอนุบาล
“ กูบอกจนไม่รู้จักบอกยังไงแล้ว ” ดินแดนเอ่ยบอกเพื่อนออกไป ใบหน้าหล่อเหล่าเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
“ จริงๆเรื่องงานแต่งของมึงแม่งก็นานแล้วนะเว้ย กูคิดว่าเขาจะยกเลิกไปแล้วซะอีก ” ครามเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง
“ ยกเลิกเหี้ยอะไร ที่นานเพราะรอให้ยัยนั่นอายุครบ 25 ปี แล้วตอนนี้ยัยนั่นก็จะอายุครบ 25 ปีแล้วพ่อกูเลยเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก ” ดินแดนเอ่ยบอกเพื่อน
“ ลูกหนี้ไม่ใช่เหรอวะ ? “ ครามเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
” เห็นพ่อกูบอกว่างั้น แต่กูว่าแม่งแปลกๆ “ ดินแดนเอ่ยพูดออกไป
” แปลกยังไงวะ ? “ ราชันย์เอ่ยขึ้น คิ้วคมของเพื่อนขมวดเข้าหากัน ทุกคนต่างจ้องมองมายังดินแดนอย่างต้องการคำตอบ
” ช่างเถอะ “ ดินแดนเอ่ยปัดออกไปก่อนจะมองลงไปด้านล่างของผับที่มีนักดื่มมากมายกำลังสนุกอยู่กับเสียงเพลงผ่านกระจกบานใส
” เอ้า ! ไอ้สัส แล้วมึงจะพูดให้กูอยากรู้ทำเหี้ยไรวะ “ ครามเอ่ยด่าเพื่อนออกไปทันทีเมื่อเพื่อนไม่ยอมบอก ดินแดนเอาแต่นั่งเงียบและนึกไปถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อเมื่อตอนเที่ยงที่ผ่านมา
~ ย้อนกลับไป ~
ช่วงเที่ยงภายในห้องทำงานของรองประธาน Tr property (บริษัททีอาร์ พร็อพเพอร์ตี้)
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
แกร๊ก…
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นร่างหนาของพลเลขารองประธานเปิดประตูเข้ามา
“ คุณดินแดนครับ ท่านประธานให้ไปพบที่ห้องครับ ” พลเอ่ยบอกผู้เป็นนายอย่างมีมารยาท
“ มีเรื่องอะไร ? ” ใบหน้าหล่อของรองประธานเงยหน้าจากกองเอกสารทำกำลังตั้งใจเซ็นอยู่พลางเอ่ยถามเลขาออกไป
“ ท่านประธานไม่ได้แจ้งไว้ครับ แค่บอกให้คุณดินแดนเข้าไปพบเดี๋ยวนี้ ”
พรึบ !
ร่างหนายืนขึ้นเต็มความสูงเดินออกจากห้องไปห้องท่านประธานตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
“ พ่อเรียกผมมามีอะไรรึป่าวครับ ” ดินแดนเอ่ยถามผู้เป็นพ่อเมื่อโดนเรียกให้เข้ามาพบ
“ หนูน้ำมนต์จะอายุครบ 25 ปี ในอีก 3 วันข้างหน้านี่แล้วแกพร้อมรึยัง ” ท่านธีระเอ่ยถามลูกชายออกไป
“ ไม่ครับ ผมบอกพ่อแล้วไงว่าผมไม่แต่งถ้าจะต้องแต่งจริงๆผมจะเลือกเจ้าสาวของผมเอง ” ดินแดนรีบเอ่ยปฏิเสธออกไปทันทีอย่างไม่ต้องคิด เพราะที่ผ่านมาเขาก็เอาแต่ปฏิเสธเรื่องนี้มาโดยตลอด
“ ยังไงแกก็ต้องแต่งกับหนูน้ำมนต์ ” ท่านธีระเอ่ยบอกลูกชายขึ้นอีกครั้ง
“ แค่ลูกหนีที่ไม่มีเงินมาปลดหนี้ พ่อจะอะไรนักหนา ”
“ มันไม่ใช่แค่นั้นดิน ” ท่านธีระเอ่ยบอกลูกชาย
“ ไม่ใช่แค่นั้นแล้วยังไงครับ พ่อคิดว่าคนที่ไม่รักกันแต่งงานกันได้จริงๆเหรอครับ ? ” ดินแดนเอ่ยถามผู้เป็นพ่อออกไป กระบอกตาคมเอาแต่จ้องมองผู้เป็นพ่ออย่างต้องการคำตอบ
“ ได้สิ สักวันแกจะรักหนูน้ำมนต์เอง ” ท่านธีระที่เคยเจอกับน้ำมนต์มาแล้วหลายต่อหลายครั้งเอ่ยบอกลูกชายออกไป ในสายตาผู้เป็นพ่อคงไม่มีใครจะเหมาะสมกับลูกชายของเขาเท่าเด็กสาวคนนี้อีกแล้ว
“ หึ ! ดูพ่อจะมั่นใจจังเลยนะครับ ” ดินแดนเค้นเสียงหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยพูดกับผู้เป็นพ่อออกไป
“ เพราะหนูน้ำมนต์น่ารัก นิสัยดี เรียนเก่ง งานบ้านงานเรือนไม่ขาดตกบกพร่องตรงไหนเลย เธอจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีของแกอย่างแน่นอน ” ท่านธีระเอ่ยบอกลูกชายขึ้นอีกครั้ง
“ ไม่มีทาง ” ดินแดนเอ่ยแค่นั้นแล้วลุกออกจากห้องทำงานผู้เป็นพ่อไปทันที ทิ้งให้ท่านธีระนั่งมือกุมขมับกับลูกชายที่ดูจะไม่ยอมแต่ สัญญา ก็ต้องเป็นสัญญา
^^