“มะ...ไม่ใช่!”
มาธวีปฏิเสธ เธอก้าวถอยห่างจากทริสตัน แต่ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้เพราะเจ้านายหนุ่มยังคงจับตัวเธอเอาไว้ และสีหน้าเรียบเฉยเยือกเย็นของเขานั้นก็ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ในเวลานี้
“คุณจะปฏิเสธไปเพื่ออะไรน่ะผึ้ง”
มาธวีเม้มปากแน่นอีกครั้งในยามที่ได้ยินทริสตันเรียกชื่อเล่นของเธอ น้อยครั้งมากที่เธอได้ยินเขาเรียกเธออย่างนี้ ปกติแล้วทริสตันมักไม่เรียกชื่อเล่นเธอ เพราะระหว่างเธอกับเขาแต่ไหนแต่ไรก็สัมผัสได้ถึงเส้นกั้นระหว่างกันอยู่แล้ว แต่ยามนี้เวลาที่เขาเรียกกลับให้ความรู้สึกกดดันเสียจนทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก
“ก็เพื่อให้คุณรู้ว่ามันไม่ใช่ความจริงน่ะสิคะ เจ้านาย” มาธวีเน้นคำว่า ‘เจ้านาย’ เสียงหนัก ตัวเธอสั่นน้อยๆ อย่างยากจะควบคุม แต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามใจแข็งไม่ยอมรับสิ่งที่ทริสตันต้องการจะรู้
มาธวีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทริสตันจะเชื่อเธอ
“ตอนนี้เราไม่ได้พูดกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้องนะผึ้ง”
คิ้วเข้มของชายหนุ่มขมวดมุ่น เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาดุดันฉุนโกรธ มันวาบขึ้นมาในดวงตาสีน้ำตาลทองคู่นั้น เหมือนเขาไม่ชอบใจที่เธอเน้นย้ำสถานะของเธอกับเขา
แต่เขาต้องยอมรับว่ามันคือความจริง เขาเป็นเจ้านายและเธอเป็นลูกน้อง
ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเธอกับเขาคือรูปแบบนี้ และมันไม่ควรก้าวไปเป็นแบบอื่น!
“งั้นนี่ยิ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของผึ้งค่ะคุณทริสตัน” เธอบอกเขาเสียงสั่นน้อยๆ ก่อนจะโกหกออกไปว่า “อีกอย่างผึ้งไม่ได้ท้อง และยิ่งเป็นไปไม่ได้หรอกนะคะที่ผึ้งจะท้องกับคุณ”
เธอบอกเขาเสียงเข้มขึ้น ดวงหน้าเล็กเงยขึ้นสบตากับเขาอีกครั้ง ราวกับว่าพยายามจะตอกย้ำให้เขาเชื่อถือเธอว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง
แต่ทริสตันไม่ใช่คนโง่ ทำไมเขาจะมองไม่ออกว่ามาธวีกำลังโกหกเขา
แน่นอนว่าเขารู้แก่ใจดีกว่าใครเลยว่าเธอโกหก!
เธอโกหกเขามาตลอดตั้งแต่เรื่องคืนนั้นนั่นแหละ...เขารู้ดี แต่ไม่เคยคิดจะเปิดโปงเธอไวนัก จนกระทั่งวันนี้!
หลังจากคืนนั้น เขาถามเธอแค่ว่าเธอได้อยู่กับเขาหรือเปล่า พอมาธวีปฏิเสธ ทริสตันก็ไม่เคยถามอะไรอีกเลย และท่าทางเหมือนจำอะไรไม่ได้ของเขาก็ทำให้เธอโล่งใจ และคิดมาตลอดว่าเขาเชื่อที่เธอโกหก
ชายหนุ่มจ้องมองคนที่พยายามดิ้นรนหนีความจริง เธอหนีมันมากว่าสองเดือน และในเวลานี้มาธวีก็หมดเวลาที่จะหดหัวอยู่ในกระดองแล้ว เธอจะต้องออกมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงระหว่างเธอกับเขาเสียที ทริสตันจะไม่ยอมใจอ่อนให้เธอเอาแต่หลบอยู่ในโลกของตัวเองอีกต่อไปแล้ว
ทริสตันบีบไหล่เล็กที่ยังอยู่ในมือของเขาแน่นขึ้น มองดวงหน้าเล็กซีดเผือดและริมฝีปากที่สั่นน้อยๆ ด้วยความตื่นตระหนกของมาธวีแล้วยิ่งร้อนรุ่มในอก ความอดทนของเขามีขีดจำกัด และเขาไม่อยากเสียเวลากับความปากแข็งของเธออีกต่อไปแล้ว มาธวีไม่รู้หรอกว่าบนหน้าเธอน่ะมันชัดเจนออกขนาดนั้นว่าเธอโกหก เธอคิดว่าเขาจะเชื่อเธอหรือ
ไม่รวมว่าจริงๆ แล้วเขาไม่เคยลืมเลย...แต่ที่ไม่พูดก็แค่ให้เธอเข้าใจไปอย่างนั้นเองเพื่อความสบายใจของเธอน่ะ
“ทำไมถึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ล่ะผึ้ง” ทริสตันถามหญิงสาวเสียงเย็น “คุณรู้ดีนี่ว่าคืนนั้นน่ะ เป็นตัวคุณเองไม่ใช่คนอื่น!”
เขาเน้นคำว่า ‘คืนนั้น’ ให้เธอระลึกว่าเธอกับเขาผ่านค่ำคืนนั้นมาด้วยกัน
ดวงตาคนตัวเล็กกว่าเบิกกว้างนิดๆ ท่าทางคล้ายตกใจว่าเขาจดจำได้ว่าผู้หญิงที่เขาเคยถามถึงคือตนเอง ก่อนที่ต่อมาเธอจะเก็บท่าทีตื่นตระหนกลง แต่ถึงอย่างนั้นร่างเล็กๆ ก็ยังคงสั่นเทาในอุ้งมือของเขาอยู่ดี
ทว่าถึงอย่างนั้นมาธวีก็ยังคงพยายามอย่างยิ่งที่จะปากแข็งต่อไป
“ผึ้งบอกคุณทริสตันแล้วนะคะว่าคืนนั้นผึ้งก็อยู่ในห้องของผึ้ง ผึ้งจะเข้าห้องคุณได้ยังไงกัน”
คำตอบของเธอทำให้ดวงตาสีน้ำตาลทองของทริสตันยิ่งดุดันมากขึ้น
“โกหก!”
เขาตอบโต้ทันควัน น้ำเสียงทุ้มนุ่มนั้นแทบจะเป็นตวาดออกมาอยู่รอมร่อ
“คุณเอาอะไรมาว่าผึ้งโกหกล่ะคะ”
คนตัวเล็กกว่าแข็งใจเชิดหน้าถามอย่างท้าทาย
ถ้าเธอยอมรับ มันก็เหมือนเธอเปิดโปงตัวเองว่าเธอโกหกเขา
มาธวีไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับทริสตันมากไปกว่าเรื่องงาน เธอรู้ดีว่าเธอไม่ได้รู้สึกกับเขาเพียงแค่คนรู้จักผิวเผิน และเขาเองก็ให้ความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เธอไม่ไว้วางใจมาตลอด เธอไม่รู้ว่าจะเรียกสิ่งนั้นว่าอะไร แต่สัญชาตญาณในตัวเองบอกเธอว่าเธอไม่ควรยอมให้ความสัมพันธ์หรือความรู้สึกของเธอกับเขาเลยเถิดไปมากกว่านี้
อีกอย่าง...เธอไม่คิดจะแต่งงาน การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่เธอศรัทธา และเธอกลัวความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งนั้น
ความรัก...
ความรักคือความเจ็บปวด
เจ็บปวดเสียจนฆ่าคนคนหนึ่งให้ตายไปต่อหน้าต่อตาเธอ
มาธวีไม่อยากเป็นอย่างนั้น
“แกจำเอาไว้นะผึ้ง ถ้าไม่อยากเป็นอย่างแม่ แกต้องไม่รักผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น จำเอาไว้!”
“ผมเพิ่งรู้ว่าผึ้งเป็นผู้หญิงง่ายๆ แบบนี้”
วาจาร้ายกาจที่ตอบโต้กลับมาทำให้มาธวีแทบคุมตัวเองไม่อยู่
“คุณทริสตัน!”
เธอร้องเรียกชายหนุ่มเสียงดัง ใบหน้าเล็กพลันแดงก่ำขึ้นมาทันทีเพราะความโกรธ ดวงตาสีนิลของเธอวาววับจ้องมองชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว
ทว่าอาการนอตหลุดของหญิงสาวกลับทำให้คนเป็นเจ้านายเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ และนั่นทำให้มาธวีพลันรู้ตัวแล้วว่าเธอได้เผยพิรุธอะไรออกไป
แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้เอ่ยกลบเกลื่อนท่าทีเมื่อครู่ของตนเอง ทริสตันก็สาดความจริงอีกอย่างใส่หน้าเธออย่างไม่ปรานีทันที
“ผึ้งอย่าคิดว่าแค่โกหกผมเรื่องวันนั้นแล้วผมจะเชื่อ ถ้าผึ้งอยากได้หลักฐาน ผมก็หาให้ผึ้งได้”
“...”
มาธวีเม้มปากแน่น เธอแข็งใจจ้องมองใบหน้าของเขาและพยายามอย่างยิ่งที่จะทำเป็นเข้มแข็ง หญิงสาวเลือกที่จะไม่ตอบโต้อะไรชายหนุ่ม เพราะตระหนักได้ว่ายิ่งเธอตอบก็ยิ่งเป็นการเผยพิรุธของตัวเอง อีกอย่างเธอก็อยากจะรู้ ทริสตันมีหลักฐานอะไรที่จะมามัดตัวเธอได้ว่าผู้หญิงในคืนนั้นจะเป็นเธอ!
ทริสตันเองก็รู้ทันความคิดของหญิงสาว เขาจ้องมองใบหน้าเล็กของคนที่พยายามทำตัวต่อต้านแข็งขืนกับเขา แล้วเอ่ยต่อไปด้วยท่าทีเป็นต่อว่า
“คุณต้องไม่ลืมว่าโรงแรมนั้นเป็นของใคร! แค่ไปเช็กกล้องวงจรปิดก็รู้แล้วว่าผึ้งโกหกผมหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่อยากพูดอะไรออกมาเพราะไม่อยากกดดันอะไรผึ้ง”
“...”
“แต่ถ้าผึ้งต้องการหลักฐานชัดเจน ผมจะโทร.ให้คนเอาไฟล์ที่ผมสั่งให้เก็บของวันนั้นเอาไว้ส่งมาให้”