นายหัว ตอนที่ : 07 ทุกอย่างจบลง

1540 คำ
#เวลาผ่านไป ในที่สุดวันที่รอคอยมันก็มาถึงสักที เธอเฝ้ารอและอดทนเวลานี้มานานมาก แต่ก็ใช่ว่าทุกวันเวลาที่อยู่ที่นี่มันจะไม่ทำให้เธอมีความสุขหรือได้อะไรกลับคืนมาเลย ก็ชีวิตคนธรรมดา มีสุขบ้างทุกข์บ้างเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้จะต้องปรับตัวอย่างยากลำบาก แต่เธอก็ผ่านมันมาได้ และก็ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ได้ฝึกให้มีความอดทน เข้าใจโลกภายนอกที่มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ตามพินัยกรรมว่าเอาไว้ว่า เมื่อไหร่ที่เธอนั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เวลานั้นจะเป็นเวลาที่เธอได้หลุดพ้น จากการมีผู้ปกครอง เธอจะได้รับอิสระ และวันนี้ก็เป็นวันเกิดที่อายุครบ 20 ปีของเธอ ก๊อก ๆ ๆ "คุณหนูคะ เสร็จแล้วหรือยัง นายหัวให้มาตามค่ะ" "ค่า ใกล้เสร็จแล้วค่ะ" ฉันขานรับป้าพร ขณะที่กำลังเร่งแต่งตัวอยู่ นายหัวบอกว่าจะพาฉันออกไปเลี้ยงฉลองวันเกิด พอทำอะไรเสร็จก็รีบเดินลงมาแต่ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ใจร้อนอยู่นายหัวคาวียืนเท้าเอวมองฉันคนอะไรมีหน้าเดียวตลอดทั้งวัน ไม่ยิ้มแย้ม เอาแต่หน้าบูดบึ้งดึงหน้าได้ทั้งวัน นี่ถ้าเป็นพ่อค้าขายของ ขายอะไรไม่ออกเลยนะเนี่ย หน้าตาไม่รับลูกค้าเลย "เสร็จแล้วค่ะ" "บอกว่าไม่ต้องแต่งตัวมาก" "หือ แต่งตัวมากที่ไหน มั่วแล้ว" เขาชอบบ่นยังไง จนตอนนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ฉันก้มตัวมองดูสภาพของตัวเองที่เขาบอกว่าฉันแต่งตัว กางเกงวอร์มกับเสื้อยืดเนี่ยนะ ที่ว่าแต่งตัวนาน ก็เขาเลิกงานมาสั่งนั่นนี่ให้รีบทำมีตัวเองรีบอยู่คนเดียว ร้านหมูกะทะมันไม่หนีไปไหนหรอกน่า !! จากนั้นนายหัวคาวีก็ขับรถออกไป มีฉันเขาและก็ป้าพรแค่นั้นแหละ ก็ตั้งแต่ที่มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ มีแค่สองคนนี้นี่แหละ ที่ฉันได้เห็นหน้าอยู่ทุกวัน ป้าพรที่ทำงานบ้านอยู่ที่นี่ก็เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวคนนึงเลย ขับรถมาประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ก็มาถึงร้านหมูกระทะ ที่นายหัวคาวีบอกว่าจะพาฉันมาเลี้ยงวันเกิด สองปีที่ผ่านมาไม่ได้มีการจัดงานวันเกิดอะไร ไม่ได้มีการเป่าเค้ก หรือมีการให้ของขวัญอะไร เขาดูใจร้ายนะ แต่ก็มีมุมใจดีอยู่เหมือนกัน ดูเหมือนคนดุแต่ก็แอบมีมุมอ่อนโยน มันบอกไม่ถูก แต่ก็ยังไม่ค่อยถูกชะตากับเขาเหมือนเดิม เพราะเจอหน้ากันทีไรเป็นอันต้องเถียงกันตลอด เมื่อก่อนอาจจะกลัวนะ แต่เดี๋ยวนี้เหมือนฉันชินมากกว่า ตอนนี้ฉันเองก็รู้สึกได้ว่า ตัวฉันน่ะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มาก จากที่เมื่อก่อนเป็นคนที่มีความอดทนแต่ก็ยังต่ำอยู่ ชนิดที่ว่าฟิวส์ขาดเมื่อไหร่ก็ฉิบหายกันไปข้างนึง ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองใจเย็นขึ้นมาก เพราะเวลาที่เจออะไรที่มันไม่ค่อยถูกหรือเข้าหูฉันก็ยังอดทนได้ และเลือกที่จะเดินหนี เพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร "อยากกินอะไรก็สั่ง ร้านนี้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์" เขาบอก "ป้ายหน้าร้านตัวเบ้อเร่อ เห็นอยู่ค่ะ" "จิ๊ ! ไม่ย้อนสักวันจะตายไหม" "ตาย เดี๋ยวหมดลมหายใจตรงนี้เลย" "คุณหนูคะ นายหัว ทะเลาะกันอีกแล้ว ถ้าป้าไม่มาด้วยคงไม่มีใครห้ามใช่ไหมคะเนี่ย" ป้าพรพูดขึ้น ทำให้บทสนทนาระหว่างเรามันเงียบลง ก่อนที่ฉันจะเดินไปตักของมาเตรียมที่จะนั่งกิน เพราะมันเป็นร้านแบบบุฟเฟ่ต์ ต้องบริการตัวเอง ก็จริงที่อะไร ๆ ที่นี่มันไม่เหมือนกับที่บ้านฉันเลย แต่พอปรับตัวได้ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะปกติฉันก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอะไรอยู่แล้วล่ะ "วันนี้วันเกิด อยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดล่ะ" ขณะที่กำลังนั่งกินอยู่ นายหัวคาวีก็ถามขึ้นมา ทำเอาฉันงง เพราะเขาไม่เคยซื้ออะไรให้ฉันเลย แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะขนาดตัวเขาเองยังไม่ซื้อเลย "ไม่มีค่ะ" "เค้ก ?" "ของแบบนี้จะซื้อต้องถามก่อนด้วยเหรอคะ นึกว่าจะเซอร์ไพรส์" "เห็นฉันเป็นพวกคนเอาใจใครหรือไง" "ก็ไม่เห็น และก็ไม่คิดด้วย เอาเป็นว่า ไม่มีอะไรที่อยากได้ค่ะ" "นั่นสินะ เดี๋ยวเธอก็จะได้กลับบ้านตัวเองแล้ว ถึงเวลานั้นฉันก็คงหมดความหมาย" "จะมาพูดเพื่อทวงบุญคุณหรือไงกันคะ" "ฉันจะทวงไปทำไม ฉันไม่ได้เลี้ยงเธอ ป้าพรต่างหากที่เลี้ยงเธอ" เขาก็พูดเรื่องจริงแหละ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เจอหน้าเขาทุกวันก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเขาที่คอยดูแลเธอ เป็นป้าพรมากกว่าที่คอยดูแลให้คำแนะนำ หรือแม้กระทั่งสอนงานต่าง ๆ เขาน่ะเหรอ ก็แค่คนที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน เห็นหน้ากันทุกวันก็เท่านั้นแหละ "อย่างน้อยก็ควรนึกถึงคนที่เลี้ยงดูเธอมาถึงจะแค่ไม่กี่ปีก็เถอะ แต่เขาก็ทำให้เด็กน้อยไม่รู้จักโตอย่างเธอ เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาได้บ้าง" "หนูสำนึกบุญคุณอยู่แล้ว" เรื่องนั้นฉันไม่ลืมหรอก ป้าพรดีกับฉันแค่ไหนฉันจำได้ดี และเขาก็ชอบต่อว่าฉันแค่ไหนฉันก็จำได้ดีเช่นกันไม่เคยลืม แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่ฉันจะต้องมาทดแทนบุญคุณอะไรนี่นา "คุณหนูเก่งมากเลยนะคะ สอบได้ที่หนึ่งทุกปีเลย" ป้าพรพูด "นี่น่ะเหรอครับ" เขามองฉันแถมทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าฉันจะสอบได้ที่ 1 ทุกปี ก็แหงอยู่แล้วล่ะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยถามเรื่องเรียนของฉันเลย นอกเสียจากว่าจะพูดเรื่องที่ฉันไปมีปัญหากับใคร และคอยพูดเรื่องที่ฉันเคยทำไม่ดี จะมีก็แต่ป้าพรเนี่ยแหละ ที่รู้และฉันก็เอาใบเกรดให้ดู เรียนจบม. ปลาย ฉันเลือกที่จะยังไม่สอบเข้ามหาวิทยาลัย ถึงจะรอเวลา 1 ปีเพื่อให้ตัวเองอายุครบ 20 ฉันว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไร ระหว่างนี้ก็ได้เรียนรู้งานต่าง ๆ และเลือกมหาวิทยาลัยที่ตัวเองจะสอบเข้า ทบทวนและอ่านข้อสอบที่ตัวเองจะต้องทำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะฉันไม่อยากให้มันผิดพลาด "พ่อแม่เธอคงภูมิใจ" "ยังหรอกค่ะ หนูต้องไปให้ไกลกว่านี้ ไปให้สูงกว่านี้ ไม่ใช่แค่จบม.ปลายได้ นั่นไม่ใช่ความฝันสูงสุดของหนู" "ก็ดีที่เธอคิดแบบนี้" "....." ความฝันของฉันก็คือ การได้เรียนสูง ๆ และเอาใบปริญญาไปเป็นหน้าตาให้กับพ่อแม่ เพราะฉันเป็นลูกคนเดียว แต่ก็ไม่คิดว่าอะไร ๆ มันจะเปลี่ยนไปแบบกระทันหัน แต่ถึงอย่างนั้นความคิดของฉันก็ไม่ได้เปลี่ยน ฉันจะยังคว้าใบปริญญามาให้ได้อีกเหมือนเดิม และจะใช้ใบปริญญาอันนี้สานต่อสิ่งที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้ "อยากขับรถไหม จะสอนให้" "กระบะนั่นน่ะนะ คงได้ขับลงข้างทางก่อนพอดี" "มันก็ต้องฝึกแบบนี้แหละ เวลาไปขี่รถออโต้ มันจะได้ขับได้สบาย" "ไม่เอา" "ทำไม ?" "คนอื่นสอนหนูก็พอได้อยู่นะ แต่ถ้าให้นายหัวสอน หนูไม่เอาด้วยหรอก ไม่อยากเส้นสมองแตกตาย" "เธอนี่มันยอกย้อนเก่งได้ใครนะ" "คนอื่นกลัว แต่หนูไม่ได้กลัวนะ ไม่ต้องมาทำหน้าตาแบบนั้น" คนอื่นเขาอาจจะเกรงกลัวในอำนาจ หรือหน้าตา หรือความขึงขังของเขา แต่คนอย่างฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น ฉันไม่ได้กลัวอะไรเขาเลย ไม่เลยสักนิด ( เหรอ ? ทำใจดีสู้เสือแหละ ) "หยุดทะเลาะกันได้แล้วค่ะ โตกันแล้วนะคะไม่ใช่เด็ก" "ป้าพรก็ดูเด็กของป้าพรสิครับ เถียงผมฉอด ๆ ย้อนเก่งด้วย" "คุณหนู" "ก็หนูไม่อยากเรียนกับเขานี่นา เขาชอบว่า ขืนไปเรียนกับเขา คงได้..เป็นบ้า ! " "เดี๊ยะ ๆ ๆ" "ชิ ! ทำเป็นขู่เก่ง" "พอกันทั้งคู่เลยค่ะ อยู่กันมาตั้งนาน ทำไมถึงยังทะเลาะกันไม่เลิกคะเนี่ย ป้าละปวดหัว" "หมูกระทะที่นี่อร่อยดีนะคะ" "ใครจ่าย ?" นายหัวถาม "ใครชวนมา คนนั้นก็จ่ายสิคะ" "ถือว่าเป็น ของขวัญวันเกิด" "ตามใจค่ะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม