ตอนที่ 1 ไล่ต้อน

1322 คำ
-คิมหันต์- ผมมองตัวเองในกระจกบานใหญ่เห็นตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ในห้องสี่เหลี่ยมทั้งกว้างและใหญ่พอสมควร ในมือของผมนั้นกำลังผูกโบสีดำ ให้เข้ากับสีสูทที่ใส่ เพื่อเตรียมตัวไปงานกาล่าดินเนอร์ที่จัดขึ้นในโรงแรมในย่านทองหล่อ ผมมองนาฬิกาหรูหราบนข้อมือตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ต้องไปถึงงานในเวลาสองทุ่ม ซึ่งโรงแรมนั้นก็ไม่ได้ห่างไกลจากบ้านนัก แต่ต้องรีบออกจากบ้านเร็วสักหน่อย เพราะช่วงเย็นถึงหัวค่ำรถมันติดเอาการ “ดิวไปก่อนนะคิม ถ้าว่างก็เรียกนะ จะรอ” ดิวเอ่ยบอกกับผมด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอจบที่แก้มของผมแผ่วเบา ผมเผยรอยยิ้มบางๆ ให้เธอเล็กน้อย “เดี๋ยวให้ไอ้นนท์ไปส่ง” ผมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะ” ดิวเอ่ยบอก และก้าวเดินไปที่ประตู เปิดลูกบิดออกไปช้าๆ ผมหันมามองมาที่กระจกอีกครั้ง มองสารรูปของตัวเองจนพอใจกับการแต่งตัวที่ดูเนี้ยบสุดเช่นนี้ ผมก้าวเดินมาด้านล่างบ้านหลังใหญ่ ขณะที่บอดี้การ์ดที่ยืนตามจุดของบ้าน และอยู่ใกล้ที่สุดนั้นก้มหัวให้กับผมโดยทันที มันจะเป็นเช่นนี้ทุกวันจนชินตา “พร้อมแล้วครับคุณคิม” อดุลหัวหน้าบอดี้การ์ดของผมก้าวเดินมาบอกกับผม ขณะที่ผมก้าวเดินมายังรถแวนสี่ประตู ที่จอดที่หน้าบ้านรอสแตนด์บายอยู่ที่หน้าบ้าน อดุลไม่รอช้าที่จะเปิดประตูรถให้กับผม ผมจึงขึ้นรถโดยทันที ผมมองรถแวนคันที่ที่ตามหลังรถเก๋งหรูสีดำ โดยมีบอดี้การ์ดนั่งไปแต่คันนี้นั้นไปเพียงสามคนเท่านั้น คืออดุล รุจ และผมเพียงแค่นั้น ส่วนคันหลังนั้นก็จะมีบอดี้การ์ดสี่คนเช่นเดียวกับคันด้านหน้า ตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่า ผมนำไอแพดขึ้นมาดูเพื่อฆ่าเวลาไปพลางๆ เพราะเชื่อมั่นว่ารถมันจะต้องติดแน่นนอน และเป็นไปตามคลาด มันก็ติดจริงๆ และคงอีกนานกว่ารถจะเคลื่อนออกไป ผมหันมาใส่ใจไอแพดอีกครั้ง มองตารางงานในวันพรุ่งนี้ที่เลขานุการนั้นส่งมาให้ ซึ่งต้องไปคุยกับลูกค้าตอนสิบโมงเช้า ตารางในช่วงบ่ายนั้นว่าเปล่า เพราะผมมีเรียนตั้งแต่บ่ายสองจนถึงห้าโมงเย็น ทำให้ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ (--) ผมก้าวเดินเข้ามาในงานกาล่าดินเนอร์ตรีมสีขาวและสีเทาที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ของงานที่ดูจืดชืดไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใด ผู้คนที่ผมและพ่อรู้จักต่างเข้ามาทักทาย จะเป็นพวกนักธุรกิจที่เป็นคู่ค้าของบริษัท และหุ้นส่วนที่มาในงานนี้ ส่วนคุณหญิงคุณนายนั้นประโคมเครื่องเพชรกันอย่างครึกโครมจนทำให้ผมแสบตา เมื่อมันกระทบกันสายตาที่มากเกินความจำเป็น “สวัสดีค่ะ คุณคิม ไม่เจอตั้งนาน สบายดีไหม” ผมออกจากพะวงเสียงของหญิงวัยกลางคนในชุดเรสราตรีสีน้ำเงินเป็นประกายแวววับเอ่ยถามผม ทำให้ผมหันไปโฟกัสเธอ และเผยรอยยิ้มกว้าง “สวัสดีครับ คุณน้าโย” ผมเอ่ยบอกเช่นนี้ “คุณสินทร เป็นอย่างไรบ้าง” “ป๊าสบายดีครับ เอ็นจอยนะครับ” ผมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เธอเผยรอยยิ้มแล้วเธอก็ก้าวเดินออกไปจากตรงนี้ น้าโย เธอเป็นหุ้นส่วนของบริษัทผมมานานหลายดี ทำให้ผมสนิทกับของครัวเธอในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก และอีกอย่างป๊าของผมนั้นมีธุรกิจมากมาย ทำให้ในงานนี้มีหุ้นส่วนและคู่ค้าเดินมาทักทายแทบทุกครั้งที่เจอในงานเช่นนี้ ผมก้าวเดินมายังหน้าห้องน้ำเพื่อจะไปทำธุระส่วนตัว โดยไม่มีบอดี้การ์ดเดินติดตามมาแม้แต่คนเดียว ถึงเขาไม่ได้เดินตามมา เขาก็ต้องเดินหาผมอยู่แล้ว ผมจึงเดินก้าวเข้าห้องน้ำ แต่ผมกลับสังเกตถึงความผิดปกติด้านซ้ายมือเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองผมอยู่ แต่ผมกลับก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยทันทีโดยไม่คิดอะไร ก้าวเดินออกมาอีกครั้งเห็นว่าไอ้อดุลยืนอยู่หน้าห้องน้ำกับบอดี้การ์ดอีกสามคนที่ยืนรอผมอยู่ และก้มหัวพร้อมกัน “ให้รถมาสแตนด์บายรอกูเลย” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงดังพอสมควร ให้พวกมันได้ยิน คิดว่าพวกก็คงรู้ว่าผมจะกลับออกจากที่แห่งนี้แล้ว “ครับท่าน” อดุลเอ่ยบอกเสียงเรียบ และเอ่ยบอกกับเอียบัดที่อยู่ในหูต่ออีกว่า “เตรียมตัว” ผมนั่งอยู่บนรถโดยมีบอดี้การ์ดสามคนและรถสองคันที่คอยตามหน้า และตามหลังเช่นเดิม ผมทอดสายตามองกระจกข้างเห็นว่ารถเก๋งคันสีดำ และมอเตอร์ไซค์สี่คันคอยตามรถคันนี้ ทันใดนั้นเสียงวิทยุของบอดี้การ์ดดังขึ้น ผมรู้โดยทันทีว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ทันใดนั้นอดุลใช้มือกดเอียบัดให้ฟังได้ชัดขึ้น มันหันหน้าไปมองกระจกข้างทันที และมีสีหน้าตื่นตระหนก “คุณคิมครับมีรถตามเรามาพร้อมด้วยมอเตอร์ไซค์ประมาณสี่คัน รถที่ไอ้ดิวขับอยู่มันยางแตกไปแล้ว” อดุลเอ่ยบอกผมด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด แต่ทว่าเสียงปืนยิงขึ้นเป็นระยะ ผมเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลบกระสุนที่ยิงตัวรถ “ไอ้สิงห์มึงหาที่จอดให้กูด่วน” ผมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ถ้าเกาะเป็นกลุ่มแบบนี้เราจะตายกันหมด เพราะประเมินไม่ได้ว่าพวกมันมากี่คน กระสุนเหลือเท่าไหร่ หรือพวกมันมีระเบิดหรือไม่ “แต่คุณคิมครับ...” อดุลเอ่ยบอกกับผมด้วยน้ำเสียงตั้งคำถาม ผมเลยสวนทันที “นี่คือคำสั่ง” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน ไอ้สิงห์จึงขับรถเบี่ยงออกจากถนนใหญ่ มันยังคงตาม ไม่ยอมเลิกรา ไอ้สิงห์ยอมจอดรถ ก่อนที่มันจะมาถึงตัว ตามด้วยไอ้อดุลที่วิ่งตามลงมาโดยทันที และยิงสกัดพวกมันเอาไว้ ขณะที่พวกมันวิ่งไล่ต้อนผมให้จนมุง มีหรือว่าผมจะยอม ผมวิ่งไปและยิงปืนดักไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันที่ไอ้อดุลถูกยิงที่หน้าท้อง ผมมองมันด้วยความตื่นตระหนก “ไอ้อดุล มึงไหวไหม” ผมเอ่ยถามมันด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ขณะที่ผมประคองมันขึ้นมา แต่มันกลับฝืนตัว “คุณคิมหนีไปครับ อย่าให้ผมเป็นตัวถ่วง” มันเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมหันไปมองพวกมันที่กำลังยิงเข้ามา “มึงแกล้งตายด่วน” ผมเอ่ยบอกกับมัน และวิ่งไปโดยทันที โดยที่ไม่ได้มองกลับมาหาไอ้อดุลอีกเลย .......................................... ตอนแรกมาแล้ว!!! สนุกไหมคะ ตอนนี้มาเจอคิมหันต์พระเอกก่อน ตอนหน้าได้เจอดาราสุดแซ่บนางเอกของเราแน่นอน แล้วนางจะมากับความเสียวซาบซ่าน บทรักที่แสนเร่าร้อนบนเตียงนอนอย่างแน่นอน ทุกคนนิยายเรื่องนี้มีตัวละครหลักๆ มีประมาณสองตัวละคร คือ คิมหันต์ และ ดารา อาจมีตัวละครออกมาเรื่อยๆ และเนื้อหาเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไปตามบริบทของตัวละครเช่นกัน ไรท์ชอบอ่านคอมเม้นท์ของทุกๆ ท่าน อย่าลืมคอมเม้นท์ด้วยนะคะ เม้นท์แล้ว อย่าลืมกดหัวใจให้ด้วยนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม