ก่อนที่อาจารย์จะเริ่มสอน สายตานักเรียนทุกคนก็นั่งมองอาจารย์อย่างใจจดใจจ่อโดยเฉพาะพระพาย เธอสังเกตว่าอาจารย์ชอบมองมาที่น่านน้ำบ่อยๆ แล้วน่านน้ำก็ยิ้มให้อาจารย์ หรือว่าเธอจะคิดมาก
“ น่านน้ำ !มึงยิ้มอะไรของมึง ”
ภาคินขย้ำกระดาษเป็นก้อนกลมปาใส่น่านน้ำ คำถามที่พระพายอยากจะถามน่านน้ำโดนภาคินถามแทนเรียบร้อย ขนาดภาคินนั่งอยู่ไกลๆยังรู้เลยว่าน่านน้ำยิ้ม แล้วนับประสาอะไรกับพระพายที่นั่งอยู่ข้างๆจะไม่เห็นว่าเขายิ้ม
“ เปล่า !”
“ มีพิรุจนะมึงอ่ะ ตั้งแต่อาจารย์เข้ามาแล้ว”
น่านน้ำขมวดคิ้วเข้มก่อนจะหันไปหาภาคิน มองเขาด้วยสายตาที่อยากจะแยกเขี้ยวใส่มัน ถ้าไม่ติดว่าอาจารย์กำลังสอนอยู่คงเดินไปเหลากะบาลมันแล้ว
ถ้าคนอื่นได้ยินเขาจะคิดยังไง จู่ๆก็มาหาว่าเขายิ้มให้อาจารย์ตั้งแต่เข้ามา บ้ารึไงใครจะไปคิดอะไรแบบนั้นกัน ทางที่น่านน้ำหันไปคุยกับภาคินดันอยู่ฝั่งพระพาย
ทำให้น่านน้ำต้องก้มเข้าไปไกล้ๆเธอ เพราะกลัวอาจารย์ได้ยินว่ากำลังคุยกันอยู่ในขณะที่อาจารย์สอน ได้โอกาสไอ้น่านเหมือนอยู่ในระดับที่จะหอมแก้มพระพายได้เลยนะ
“พิรุจเหี้ยอะไรกูยิ้มตามมารยาท อาจารย์ยิ้มมากูก็ยิ้มกลับผิดตรงไหน ?”
“ มึงสนิทกับอาจารย์หรอวะ ”
น่านน้ำยังไม่ทันได้ตอบเขาก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาไกล้ มันคือเสียงรองเท้าอาจารย์สาวที่ชื่อฮาน่า ถือว่าเป็นสาวสวยหุ่นดีสูง172 อก40เอวคอด25นิดๆสะโพก40 อายุ30กว่าๆ แต่ยังหน้าตาดูเด็ก
จัดว่าเป็นคนเซ็กซี่คนนึงเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่ได้อยู่ในชุดอาจารย์จะเซ็กซี่ขนาดไหนกัน แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชุดอาจารย์ก็ยังโดนนักศึกษาชายบางคนแซวอยู่บ่อยๆ เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าน่านน้ำ
“ น่านน้ำ จะคุยกับเพื่อนอีกนานมั้ย หรืออยากเรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์สักชั่วโมงดี ตอนนี้เป็นนักเรียนนะไม่ใช่Djทำไมคุยเก่งจัง ไม่ฟังอาจารย์สอนรึไง ”
“ ขอโทษครับอาจารย์ผมจะตั้งใจฟังแล้วครับ ”
น่านน้ำไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่อาจารย์เรียกแบบนั้น มันก็เป็นปกติที่ใครๆชอบเรียกเขา แม้แต่รุ่นน้องยันรุ่นพี่ในวิทลัยก็เรียกแบบนี้ รวมถึงอาจารย์อีกหลายท่าน
อาจารย์สาวเดินกลับไปที่โต๊ะทำให้พระพายรู้สึกไม่ชอบจริตในการเดินของเธอ สายตาที่พระพายมองอาจารย์มองลงมาจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าเธอไม่ชอบอาจารย์สาวคนนี้
“ จะเดินสับอะไรขนาดนั้น ”
เสียงพระพายพูดออกมาลอยๆแต่น่านน้ำได้ยิน ทำให้เขาหันไปมองเห็นพระพายที่นั่งทำหน้าหงุดหงิดอยู่ข้างๆ น่านน้ำยิ้มบางๆให้กับท่าทางของเธอ จึงคิดอยากแหย่เธอเล่นๆ
“ อิจฉาที่อาจารย์สวยกว่า เซ็กซี่กว่า เดินสับกว่าหรือว่าหุ่นดีกว่ามึงหรอพระพาย ”
“ น่านน้ำ !นายกล้าว่าฉันไม่สวย ไม่เซ็กซี่ หุ่นไม่ดีหรอ คอยดูนะกลับบ้านไปฉันจะฟ้องป๊าว่านายเอาฉันไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่น ”
เขาแหย่เธอได้สำเร็จ พระพายสะบัดหน้าหนีน่านน้ำ ยิ่งทำให้เขาพอใจ ไหนจะทำแก้มป่องพองลมใส่เขาอีก พระพายจะรู้ตัวมั้ยว่าทำให้น่านน้ำมันนั่งยิ้มกว้างกว่าตอนยิ้มให้อาจารย์ซะอีก
“ โตแล้วยังฟ้องพ่ออีกหรอเด็กขี้แยจริงๆ ระวังยิ่งฟ้องพ่อมึงยิ่งจะจับกูให้แต่งงานกับมึงเร็วขึ้นนะ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่พ่อมึงจะควบคุมกูได้ ”
พระพายได้แต่กำหมัดแน่นเพราะมันเป็นอย่างที่น่านน้ำบอกจริงๆ ยิ่งพระพายหาเรื่องน่านน้ำมากเท่าไหร่พ่อของเธอยิ่งกดดันเรื่องแต่งงานมากขึ้นเท่านั้น
น่านน้ำเหมือนกับบูมเมอแรงยิ่งขว้างออกไปไกลเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกลับมาใกล้เท่านั้น
พระพายมองหน้าน่านน้ำแล้วอยากจะตบกระบาลเขาจริงๆ กับท่าทางยียวนกวนประสาทของน่านน้ำ
“ พี่กรบอกว่าฉันสวยและเซ็กซี่ที่สุด ถึงนายจะบอกว่าฉันไม่สวย ไม่เซ็กซี่ ฉันก็ไม่ให้ความสำคัญกับคำพูดของนายเพราะฉันถือว่านายไม่มีตัวตนสำหรับฉัน ฉันสนใจกับคำชมของพี่กรมากกว่า ”
ไม่มีตัวตน
ไม่มีตัวตนสำหรับเธอ
น่านน้ำรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องพูดแบบนี้ มันเจ็บนะเจ็บกับคำพูดที่พระพายบอกว่าเขาไม่มีตัวตนสำหรับเธอ ถึงจะไม่มีตัวตนยังไงเขาก็ยังเป็นคู่หมั้นเธออยู่นะ
ถึงพระพายจะไม่ให้ความสำคัญกับเขา ยังไงเธอก็หนีความจริงเรื่องนี้ไปไม่ได้ว่าเธอกับเขาเป็นคู่หมั้นกัน
“ พระพาย!แกพูดแบบนี้ต่อหน้าน่านน้ำมันได้ยังไงแกอย่าทำร้ายจิตใจมันมากไปกว่านี้ได้มั้ย ถ้าแกยังพูดทำร้ายจิตใจมันอีกฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ ”
แพรไหมที่นั่งอยู่ด้านหลังของพระพายกับน่านน้ำกระซิบกับพระพาย อีกอย่างเธอก็ทนไม่ได้ที่เห็นน่านน้ำเจ็บเพราะคำพูดของพระพาย อย่างน้อยๆน่านน้ำก็เป็นเพื่อนเขาเหมือนกันนะไม่ใช่แค่พระพายที่เป็นเพื่อน
แพรใหม่รู้ว่าน่านน้ำก็เจ็บเขาเป็นเพื่อนกันมา 3 ปีแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าน่านน้ำรักพระพายแค่ไหน เธออยากเป็นคนนั้นคนที่น่านน้ำให้ความสำคัญไม่ใช่คู่หมั้นที่ไม่สนใจเขาแบบพระพาย
“ ทำไมฉันจะพูดไม่ได้แพรไหม ฉันบอกมันตลอดว่าฉันไม่ได้รักมัน ฉันพูดเรื่องจริงถ้ามันทนไม่ได้ก็ไปถอนหมั้นสิ กล้ามั้ยน่านน้ำ”
“ ยิ่งมึงอยากถอนหมั้นมากเท่าไหร่ กูยิ่งไม่อยากถอนหมั้น เรามาเล่นเกมส์นี้กันมั้ยว่าใครจะชนะ ระหว่างมึงที่อยากให้กูถอนหมั้น กับกูที่อยากให้มึงแต่งงานด้วย เรามาเดิมพันกัน ”
พระพายหันขวับมามองหน้าน่านน้ำทันทีที่เขาพูดจบ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างคนเจ้าเล่ห์ เพราะยังไงเธอก็ต้องหาทางถอนหมั้นได้อยู่แล้ว
“ ได้!นายจะเอาอะไรมาเดิมพัน ”
“ ถ้ามึงทำให้กูถอนหมั้นกับมึงได้กูจะไม่มาให้มึงเจอหน้าแม้แต่วินาทีเดียว แต่ถ้ากูทำให้มึงยอมแต่งงานกับกูได้มึงต้องตามใจกูทุกอย่าง ทุกอย่าง ”
ไม่เห็นจะยากอะไรเลยยังไงฉันก็ชนะอยู่แล้ว เอาอะไรมาคิดว่าฉันจะแต่งงานกับนาย สมองคงไม่มีรอยหยักแล้วมั้งน่านน้ำ
“ ตกลง ”
“ แต่มีข้อแม้ ในระหว่างที่เรากำลังเดิมพันกันอยู่ ห้ามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนอื่น ไม่เช่นนั้นจะถือว่าการเดิมพันเป็นโมฆะ มึงกับกูจะไม่มีสิทธิ์ถอนหมั้นต้องแต่งงานกันโดยไม่มีข้อยกเว้น ”
ถึงมันอาจจะดูงี่เง่าสำหรับน่านน้ำที่จะยื้อพระพายไว้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพระพาย เพราะยังไงเธอก็ต้องเก็บความบริสุทธิ์นี้ไว้ให้กับคนที่เธอรักแล้วก็คนที่จะแต่งงานด้วยอยู่แล้ว
“ ได้ ตกลง ”
สองคนตกลงเดิมพันกัน ก่อนที่จะต้องสะดุ้งเพราะเสียงของอาจารย์เรียก จนทุกคนในคลาสเรียนตกใจ
“ น่านน้ำ !คุยอะไรกัน ไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนใช่มั้ยช่วยเดินออกมาข้างหน้าหน่อย แล้วมายืนข้างหน้าจะได้ไม่ต้องคุยกับเพื่อน ทุกคนก็เหมือนกันเวลาอาจารย์สอนก็ตั้งใจฟังหน่อย ไม่อย่างนั้นจะโดนทำโทษยกห้อง ”
น่านน้ำลุกยืนเต็มความสูง178ซม. ยกมือขึ้นมาเสยผมที่ปกหน้าขึ้นยิ้มให้พระพายเบาๆ ทำเอาสาวๆในคลาสเรียนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ก่อนจะสาวเท้าเดินไปยืนหน้าโต๊ะของอาจารย์
ตอนที่เขาอยู่ในคราบDjก็จัดได้ว่าสูงหล่อเท่ห์อยู่แล้ว แต่พออยู่ในชุดนักศึกษายิ่งคูณ100เข้าไปอีก คิ้วบาก ใส่ต่างหูบวกกับหน้านิ่งๆของเขาทำให้สาวๆต่างหลงไหล
ไม่ว่าจะเป็นทั้งในมหาวิทยาลัยหรือในผับ พวกเธอก็ลุ่มหลงในรูปร่างหน้าตาของเขาแต่ไม่นับพระพายด้วย ไม่ใช่แค่มีดีที่หน้าตาแต่ฉายาDjที่เอวหวานก็ไม่ได้ได้มาเล่นๆเหมือนกัน
น่านน้ำยืนมองอาจารย์ เขาตั้งใจฟังอาจารย์สอนจนจบคลาสเรียน อาจารย์ก็ชอบมองมาที่น่านน้ำ ไม่รู้ว่าจะจับผิดหรือจับตาดูอะไรแน่ ส่วนแพรไหมขึ้นมานั่งข้างพระพายแทนน่านน้ำ
“ แกว่าอาจารย์มองน่านน้ำแปลกๆมั้ย ชอบมอง ชอบยิ้ม แค่เราคุยกันปกติเพื่อนคนอื่นก็คุยมั้ยแก ทำไมต้องเรียกมันไปยืนข้างหน้าด้วย ”
แพรไหมเองก็สังเกตหรอ พระพายนึกว่าจะมีแต่ตัวเองสังเกตซะอีก ทำเกินหน้าที่ไปรึเปล่า พออาจารย์สอนเสร็จทุกคนก็พากันเดินออกจากห้อง
รวมถึงพระพาย ภาคิน แพรไหม น่านน้ำที่กำลังเดินออกจากห้องตามเพื่อนไป ก็ถูกอาจารย์เรียกตัวไว้ซะก่อน ทำให้เขาไม่ได้ออกไปพร้อมพระพาย
“ น่านน้ำอย่าพึ่งไปนะ อาจารย์มีเรื่องจะคุยด้วย ”
“ ครับ ”
น่านน้ำได้แต่ทำหน้างงๆแล้วมองหน้าภาคิน กับแพรไหม พระพาย ที่กำลังเดินออกไป
“ เดี๋ยวพวกกูไปรอข้างล่างนะ ”
“อืม ”
พระพายไม่ได้พูดอะไรแถมยังรีบเดินลงไปข้างล่างซะอีก ไม่บอกก็รู้ว่าจะไปรอพี่กรของเธอ ทั้ง3คุยกันอยู่ข้างล่างนานเกือบ20นาทีน่านน้ำก็ยังไม่ลงมา
“ แกว่าอาจารย์จะคุยอะไรกับมันวะ นี่มันจะ20 นาทีแล้วนะ เราไปดูมั้ย ”
“ เออ กูก็อยากรู้เหมือนกัน ”
แพรไหมกับภาคินรีบลุกขึ้นกำลังจะเดินไปหาน่านน้ำกับอาจารย์ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะน่านน้ำเดินมือล้วงกระเป๋ากางเกงลงมาพอดีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ มึง อาจารย์คุยอะไรกับมึงวะ ทำไมต้องยิ้มอารมณ์ดีขนาดนั้น ”
ภาคินรีบเข้าไปกอดคอน่านน้ำแล้วเดินมาที่โต๊ะ ที่พระพายกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่ สงสัยรอกรนานเลยดูอารมณ์ออกไปทางหงุดหงิดมากกว่า
“ รีบๆพูดมาสิไอ้น่าน กูอยากรู้ว่ามึงคุยอะไรกับอาจารย์ถึงได้นานขนาดนั้น หรือว่ามึงกับอาจารย์...”
“ ไอ้ภาคิน!ทะลึ่งแล้วมึงอ่ะคิดไรอยู่ ”
น่านน้ำฟาดหัวภาคคินไป1ที แล้วยิ้มให้เขาเมื่อมันเอามือขึ้นมาลูบหัวเบาๆแล้วมองค้อนน่านน้ำกลับมา ถ้าเป็นผู้หญิงทำก็น่ารักอยู่หรอก แต่นี้ดันเป็นไอ้ภาคิน
“ อาจารย์แค่ขอcontactกู แล้วก็พรุ่งนี้เป็นวันเกิดเพื่อนอาจารย์ด้วยอาจารย์เลยอยากเซอร์ไพรส์ให้เพื่อนที่ผับที่กูจะไปเปิดเพลง ”
“ โอ้โห!อาจารย์เล่นใหญ่ว่ะ คือพรุ่งนี้มึงจะไปเปิดที่ไหน ”
“ Left On Readผับ พรุ่งนี้กูไปที่นั่น อาจารย์จองโต๊ะVip เรียบร้อย ”
แพรไหมถึงกับตาลุกวาวทันทีที่น่านน้ำพูดถึงที่นั่น เพราะมันเป็นผับที่ใหญ่มาก แล้วก็ต้องจองโต๊ะล่วงหน้าด้วยถึงจะได้เข้าไปนั่งไกล้พวกDjกับMcขนาดนั้นได้
“ ใจถึงนะเนี่ย เพื่อนอาจารย์คงจะชอบมึงมากเลยนะไอ้Djน่านน้ำ ถึงกับจองโต๊ะVip คงจะอยากให้มึงใช้ปากป้อนลูกอมมากหละสิถึงได้ใกล้เวทีขนาดนั้น ”