“คุณฟกช้ำหลายจุด แต่ไม่มีแผลต้องเย็บ...”
“โอ๊ย!” เขาทำสีหน้าเจ็บปวดทันที เพราะรู้ว่าเธอกำลังจะไล่เขาออกจากห้องพยาบาลเป็นแน่ “แต่ผมเจ็บภายในมากเลยนะครับ บางทีผมอาจจะช้ำในก็ได้”
เขาพูดจบก็คว้าจับมือเธอแน่น
“คุณนี่!” เธอรีบหันมองที่ประตูห้อง ถึงแม้จะรูดปิดผ้าม่านรอบเตียงไว้แล้วก็เหอะ “ปล่อยนะคะ”
“บอกก่อนสิว่าคืนนี้จะให้นอนพักที่ห้องพยาบาล”
“นักโทษพิทยาคะ!”
“เขินเหรอ?”
“เปล่าซะหน่อย”
“แล้ว...ทำไมหน้าแดง...” เขามองยิ้ม ๆ มันทำให้เธอหน้าร้อนวูบขึ้นมาเลย ด้วยความอาย แก้มใส ๆของเธอคงกำลังฟ้องเขาอยู่ว่าเธอตื่นเต้นแค่ไหนที่ถูกเขาถึงเนื้อถึงตัว
“ก็...หมอร้อน แดดข้างนอกแรงจะตาย คุณเหอะ ถึงเตียงที่ห้องนี้จะสบายกว่าในห้องขัง แต่ก็อย่าหาเรื่องให้มากนักเลยค่ะ อย่าเอาแต่ต่อยตีกับเขาไปทั่ว เดี๋ยวจะได้กลับบ้านเร็วขึ้น แต่ออกไปทั้งที่ไม่หายใจนะคะ”
“ผมเอาตัวรอดได้น่า...” น้ำเสียงมั่นใจของเขาเจือความหวานอย่างชัด สายตาของเขาไม่ธรรมดาเลยสักนิดเดียว หากเขาเป็นเสือร้าย ป่านนี้ลูกแกะอย่างเธอคงไม่เหลือแล้ว
“หมอเป็นห่วงผมจริง ๆด้วย ชื่นใจจัง”
เขาลุกขึ้นนั่ง ขยับใบหน้าเข้าใกล้เธอจนลมหายใจแทบจะเป็นลมหายใจเดียวกัน เธอหลบตาเขาเล็กน้อย ก่อนหันไปคว้าแผ่นชาร์ตบนรถเข็นมาตรวจดู เธอพยายามทำหน้านิ่ง แม้หัวใจจะเต้นโครมครามแค่ไหนก็ตาม
“บอกแล้วไงคะว่าหมอก็เป็นห่วงคนไข้ทุกคนแหละ”
“เฮ้อ....ปากแข็งจริงๆ” แล้วสายตาเขาก็กระตุก ราวกับคิดบางเรื่องออก “เออหมอ ผมมีอีกแผลหนึ่งนะ น่าจะอาการหนักเลย แผลนี้แหละที่จะทำให้หมอยอมให้ผมนอนที่ห้องนี้แน่นอน”
“อีกแผล!” เธอทำหน้าดุ อย่างที่เขาเคยเห็น “ไหนหมอขอดูหน่อยสิ”
“โอเค ตั้งใจจะให้หมอดูอยู่แล้ว” เขาพูดพลางจับขอบกางเกงเพื่อจะดึงลงไป เธอร้องเหวขึ้นด้วยความตกใจ
“เดี๋ยว!”
“อะไรอีกครั้บ”
“อย่าบอกนะว่า...” เธอเผลอจ้องไปที่เป้ากางเกงของเขาซึ่งกำลังตุงออกมาเป็นลำ มันยิ่งทำให้เธอหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะไปเลย
“ใช่ครับหมอ ตะกี้ผมเดินไม่ทันระวัง เลยไปชนกับเหลี่ยมเสาหน้าห้องพยาบาลนี่เอง เลยถลอกนิดหน่อย หมอตรวจแล้วก็ใส่ยาให้หน่อยดิ”
อ่า...เธอจะบ้าตาย เขาตั้งใจจะยั่วเธอชัด ๆเพราะเห็นว่าเธอมีใจให้สินะ...นักโทษพิทยา ผู้ต้องหาปล้นและฆ่าคนตายที่ต้องโทษถึงยี่สิบปี ก่อนจะเป็นนักโทษในวันนี้ เขาเคยเป็นตำรวจมาก่อน เป็นมือปราบระดับมือพระกาฬก็ว่าได้