บทที่ 1 ล่มหัวจมท้าย 4

700 คำ
ถึงตอนนี้เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพีรวิชญ์ที่สู้บากบั่นเพียรเอาชนะเขา จึงไม่เคยประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง ไม่ว่าเมื่อไรคชาก็มักจะอยู่เหนือพีรวิชยญ์ก้าวหนึ่งเสมอ ทั้งๆ ที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริงให้เป็นที่ประจักษ์เลยสักครั้ง เธอไม่อาจเดาได้ว่าความสามารถของเขานั้นลึกล้ำขนาดไหน แต่ที่เห็นเด่นชัดคือผู้ชายคนนี้มีออร่าที่แข็งแกร่งโดดเด่นในทุกด้าน เขาไม่ได้มีใบหน้าที่อบอุ่นละมุนตาเหมือนพีรวิชญ์ ออกจะหล่อเข้มกร้าวใจเหมือนหนุ่มใต้ขนานแท้ ผิวสองสีโทนน้ำตาลเหมาะเจาะกับร่างกายบึกบึนกำยำ ผิดกับพีรวิชญ์ที่ขาวสะอ้านรูปร่างสูงโปร่งสะโอดสะอง หากเทียบผู้ชายสองคนนี้คงบอกได้ว่าหล่อเหลาและโดดเด่นกันไปคนละแบบ ถ้าเปรียบพีรวิชญ์เป็นสีขาวที่อ่อนโยน คชาก็คือสีดำที่แข็งแกร่ง ทว่าสีขาวไม่อาจกลืนกินสีดำได้ จึงกลายเป็นว่าพีวิชญ์ถูกคชาข่มรัศมีให้หมองลง สมแล้วที่เขาได้ชื่อว่าเป็นทายาทผู้นำสามตระกูลใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในแถบภูมิภาคทางใต้นี้ แถมธุรกิจของเขายังครอบคลุมแผ่ขยายไปที่กรุงเทพ รวมถึงสิงคโปร์ที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจในแถบทวีปเอเชียอีกด้วย แล้วครอบครัวขุนนางเก่าที่เหลือแต่ชื่อกับเปลือกปลอมๆ จะสู้พ่อค้าที่เก่งกาจได้อย่างไรกันล่ะ... จู่ๆ ดุจมาตาก็รู้สึกตื่นกลัว นี่เธอกำลังนั่งประจันหน้ากับเขาแบบสองต่อสองอยู่นะ ขนอ่อนของเธอพร้อมใจกันลุกเกรียวเสียวสันหลังวาบ ราวกับเธอกำลังเผชิญหน้ากับเสือร้ายที่หมอบนิ่ง รอเวลาจะขย้ำเหยื่อยังไงยังงั้น ดุจมาตาหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้ามองหน้าสบตาเขาขึ้นมาเสียเฉยๆ พยายามผ่อนลมหายใจระงับความตื่นตระหนก กัดฟันฮึดสู้ ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องสู้ต่อไปให้สุด จะบุกถ้ำเสือหรือดำน้ำเข้าถ้ำจระเข้ก็คงไม่ต่างกันนักหรอก “คุณจะแต่งงานกับฉันมั้ย?” เธอเอ่ยถามเขาด้วยสุ้มเสียงที่เพียรบังคับไม่ให้สั่นไหว คชาหรี่ตาจับจ้องมองคนถามแน่นิ่ง ไม่มีร่องรอยของความรู้สึกพาดผ่าน ไม่มีแม้แต่แวววูบไหวในดวงตา มีเพียงมุมปากที่หยักยกขึ้นเพียงนิดจนแทบสัมผัสไม่ได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน คล้ายกับว่าเขากำลังสังเกตการณ์เธออยู่อย่างเงียบเชียบ จะตอบรับ บอกปัดหรือรอดูท่าทีของเธอก่อนก็สุดจะรู้ได้... มือหนาค่อยๆ เคลื่อนขึ้นสอดเข้าเรือนผมนุ่มกระชับต้นคอระหง ปลายนิ้วหัวแม่มือไล้นวลแก้มเธอแผ่วๆ ใบหน้าเจ้าเล่ห์เย้ายวนโน้มลงมาแนบชิดจนริมฝีปากเกือบจะทาบทับ ใกล้กันมากจนได้กลิ่นลมหายใจรสมินต์ เธออยากจะเอี้ยวหน้าหนี แต่ขยับไม่ได้ เพราะมือหนากดตรึงไม่ยอมให้หลบหลีก คล้ายกับว่าเขารู้ถึงท่าทีล่วงหน้าของเธออยู่ก่อนแล้ว รอยยิ้มของเขาคลี่กว้างขึ้นอีกนิด แต่ก็ยังคลุมเครือจนเธอเดาใจเขาไม่ถูก แววตายั่วเย้าหยอกเอินกระชากหัวใจเธอให้เต้นระส่ำระสาย คนทั้งคนตัวแข็งทื่อ มีเพียงดวงตาสุกใสที่กลิ้งกลอกมองริมฝีปากสลับกับสบตาเขาด้วยความหวั่นใจ ไม่กล้ากะพริบตาแม้แต่วินาทีเดียว ตัวเกร็งกลั้นหายใจจวนเจียนจะหมดลม ด้วยเกรงว่าปากหยักหนาคู่นี้จะจู่โจมประกบปิดปากเธอแนบแน่น “คุณนี่น่าสนใจจริงๆ” เขากระซิบน้ำเสียงห้าวทุ้มน่าฟังข้างหู โดยไม่ได้สัมผัสแตะต้องมัน กริยาไม่ได้จาบจ้วงหยาบคาย แต่ทำให้ใจคนฟังสั่นหวิวๆ ก่อนจะผละถอยห่างออกจากเธอ แล้วหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้ดุจมาตาได้แต่นั่งทำตาปริบๆ มองตามอย่างงงๆ ไม่เข้าใจและไม่แน่ใจเลยสักนิดว่า... ตกลงแล้วเขาจะยอมช่วยเธอรึเปล่า?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม