บทที่ 5 สาวสวยล่อใจ 2

961 คำ
“ขี้เล่นเกินแล้วนะครับที่รัก” พีรวิชญ์บี้จมูกเธอเล่นอย่างมันเขี้ยว “คุณหิวรึยังครับ เราไปหาอะไรทานกันดีกว่า” หึ...พยายามเบี่ยงประเด็นเต็มที่เลยสินะ ดุจมาตาอดทนต่อความขยะแขยง ดึงมือเขาอออกมากุมไว้ เธอฉลาดพอที่จะไม่พูดอะไรมาก แค่แขวะสุธาสินีกระทบพีรวิชญ์ให้ร้อนใจและเสียหน้าสักเล็กน้อยก็สบายใจแล้ว ขืนใจร้อนรีบฉีกหน้ากากพวกมันออกตอนนี้จะไม่ส่งผลดีกับแผนการขั้นต่อไปของเธอ “ตาลเพิ่งมาถึง รู้สึกหิวน้ำจังเลยค่ะ อยากจะจิบกาแฟสักแก้ว” “ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” เขายิ้มหวานน้ำเสียงอ่อนโยนดุจสายน้ำชโลมใจ ก่อนจะลอบส่งซิกทางสายตาไปยังสุธาสินี หล่อนรู้และรีบรับมุกต่อทันที “ไม่ต้องหรอกค่ะพีท เดี๋ยวสินีไปจัดการให้ยัยตาลเอง ไม่มีใครรู้ใจยัยตาลเท่ากับสินีหรอกค่ะ” พูดปุ๊บก็เดินหายออกไปจากห้องราวห้านาที สุธาสินีกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกาแฟสองแก้ว ยื่นให้พีรวิชย์แก้วหนึ่ง แล้วส่งอีกแก้วมาให้เธอ ทว่าจะด้วยมือลื่นหรือเป็นลูกไม้ที่ดุจมาตาคาดเดาได้ไม่ยาก แก้วกาแฟที่หล่อนถืออยู่ดีๆ ก็เอียงจนน้ำร้อนมีควันขึ้นกำลังจะหกรดใส่มือเธอ ดุจมาตายิ้มแล้วผลักแก้วคว่ำกาแฟลวกใส่มือสุธาสินีเต็มๆ เร็วชนิดที่คนมองไม่ทัน ทำเอาหล่อนร้องลั่น “โอ๊ยยย...! ร้อนๆ พีทคะช่วยด้วย สินีร้อน แสบผิวไปหมดแล้ว” หล่อนสะบัดมือเร่าๆ น้ำตาร่วงเผาะ แสร้งทำตัวน่าสงสารกอดแขนพีรวิชญ์แน่น ช้อนตามองเผยสีหน้าเจ็บปวดเหลือแสนให้เขาเทวนา ดุจมาตาแอบเบ้ปาก แค่โดนน้ำร้อนลวกมือ ทำยังกับตกลงไปในกะทะทองแดงทั้งตัวยังงั้นแหละ พีรวิชญ์ตกใจรีบดึงตัวหล่อนตรงไปห้องน้ำแช่มือในอ่างล้างหน้า รอจนแน่ใจว่าสุธาสินีไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก จึงกดอินเตอร์คอมสั่งให้เลขาน้ำอุปกรณ์เข้ามาทำแผลให้หล่อน จากนั้นก็หันมาต่อว่าเธอที่ยืนเฉยเมยว่า “ทำไมไม่ระวังเลยล่ะตาล” เธอขมวดคิ้ว ยังไม่ทันตอบ แม่ดอกบัวผู้บอบบางน่าสงสารก็เอ่ยแก้ต่างแทนว่า “ยัยตาลคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ สินีซุ่มซ่ามเอง” “ใช่ค่ะ พี่สินีซุ่มซ่ามมาก ตาลยังไม่ทันรับแก้วเลย พี่ปล่อยมือได้ยังไงล่ะคะ หรือว่าพี่ไม่พอใจเรื่องเมื่อกี้ก็เลยคิดจะแกล้งตาล” “ไม่จริงนะ ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอ...” “พี่จะบอกว่าตาลตั้งใจจะแกล้งพี่เหรอคะ ทั้งที่พี่ถือไม่ดีเองแท้ๆ” สุธาสินีส่ายหน้าเป็นพัลวัน น้ำตาที่คลอเบ้าหยดแหมะไม่ขาดสาย เม้มริมฝีปากฟ้องชัดว่าหล่อนไม่ยอมรับกับการถูกกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมอย่างนี้ พลางส่งสายตาเว้าวอนขอให้พีรวิชญ์ออกหน้าช่วยเหลือตน คนกลางทำหน้าขรึม ไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อครู่นี้ใครถูกใครผิดกันแน่? แม้ใจจะเอนเอียงอยากจะเอ่ยแก้ต่างเข้าข้างสุธาสินี แต่ดุจมาตาเป็นคู่หมั้นเขา ยังไม่ต้องพูดถึงสถานะสูงส่งมีอำนาจในบริษัทนี้มากกว่าสุธาสินีเป็นไหนๆ ถึงเขามีใจก็ไม่อาจทำตามใจตนได้ ได้แต่อดกลั้นข่มความไม่พอใจเอาไว้ให้มิดชิด แล้วเอ่ยตัดบทเสียงขรึมว่า “สินี... คุณสะเพร่าจนเกือบทำให้ตาลเจ็บตัว เรื่องนี้คุณผิด คุณควรจะขอโทษตาลนะ” สุธาสินีชะงัก มองชู้รักด้วยความร้าวราน ในแววตามีความดื้อดึงไม่ยินยอม อยากจะอ้าปากด่าทอนังตัวดีให้สาดเสียเทเสีย แต่ถูกสายตาเหี้ยมโหดของพีรวิชญ์ขึงมองอย่างบีบบังคับ ทำให้หล่อนได้แต่เม้มปากแน่น ต้องจำใจยอม “พี่ขอโทษนะตาล เป็นความผิดของพี่เอง” ดุจมาตายิ้มเยาะหวานหยด เอ่ยอย่างใจกว้าง “ไม่เป็นไรค่ะ คนเรามีผิดพลาดกันได้ แต่ทีหน้าทีหลังควรระวังให้มากๆ สักหน่อยก็แล้วกันนะคะ” เธอมองญาติสาวที่กำมือแน่นด้วยความโมโห แต่ทำอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะชายชู้ของหล่อนที่โกรธจนขมับเต้นตุบๆ แล้วสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าไม่เกรงใจเธอจะหัวเราะออกมาดังๆ เลย แต่ก็ต้องกลั้นยิ้มแสร้งทำเป็นไม่รู้เดินเข้าไปคล้องแขนยิ้มหวานให้เขา เอ่ยปากชวนว่า “ตาลหิวแล้ว เราไปดินเนอร์ที่ร้านประจำของเรากันนะคะพีท” “ครับ” พีรวิชญ์ขานรับเสียงนุ่ม เขาตบหลังมือเธอเบาๆ แล้วควงแขนพาเธอเดินออกไป เพื่อตัดปัญหาความรำคาญ คล้อยหลังดุจมาตาหันมายิ้มเยาะมองสุธาสินีอย่างผู้ชนะ ทำให้หล่อนยิ่งโกรธจัดจนแทบกระอัก ก่อนจะหันกลับมาปรายหางตามองคู่หมั้นหนุ่มที่มีสีหน้าเครียดคล้ำกรุ่นๆ ไม่สบอารมณ์ แอบแสยะยิ้มพลางคิดว่า ยังหรอก... นี่มันแค่น้ำจิ้ม! เธอจงใจกระตุ้นอารมณ์ของสุธาสินีให้ปะทุเดือดพล่าน แค่เล่นละครสร้างความร้าวฉานให้พวกมันค่อยๆ แตกคอกันเอง ผู้หญิงขี้อิจฉา ไม่มีเหตุผล แถมยังหึงหวงจนหน้ามืดตามัวอย่างนั้นพอโดนกระตุ้นบ่อยๆ เธอเชื่อว่าหล่อนจะต้องสร้างปัญหาให้กับพีรวิชญ์เข้าสักวัน และเธอต้องการให้เป็นแบบนั้นใจแทบขาด หลังจากนั้นละที่พวกมันจะได้ลิ้มรสกับความเจ็บปวดอย่างแท้จริง ใครที่คิดจะทำร้ายครอบครัวเธอ เธอจะตามสนองคืนให้หมดแบบทบต้นทบดอก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม