หกปีต่อมา...
เพียงตะวันทำงานที่รีสอร์ทด้วยความขยันขันแข็ง คุณมุกดาจึงแต่งตั้งหญิงสาวเป็นผู้จัดการรีสอร์ท นั่นทำให้ชีวิตของหญิงสาวตอนนี้ไม่ได้ลำบากเลย เธอสามารถรับนางพัดมาดูแล และนางพัดก็เป็นคนดูแลเด็กหญิงเพียงดาว ซึ่งเป็นบุตรสาวของเธอ
กว่าที่นางพัดจะยอมมาอยู่ที่นี่กับเพียงตะวัน เธอก็ต้องขู่มารดาอย่างหนัก เพราะเธอกลัวว่ามารดาจะไปบอกกานต์ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอไม่ต้องการได้ยินชื่อเขา ไม่ต้องการเจอหน้าเขาอีก ความรักที่เธอมีต่อเขา ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังเสียแล้ว
ในขณะที่นางพัดเองก็ต้องยอมทำตามใจบุตรสาว ด้วยกลัวว่าบุตรสาวจะเตลิดไปอีก และคราวนี้บุตรสาวจะไม่ยอมส่งข่าวมาเลย
เมื่อสามปีที่แล้ว ก่อนที่นางจะย้ายออกมาจากบ้านภักดีภูมิ สภาพของกานต์ตอนนั้นเหมือนคนที่ไร้วิญญาณ เขาเฝ้าตามหาบุตรสาวของนาง แล้วตกเย็นก็ดื่มเหล้าแก้เครียด จากคนที่เคยดูดีมีสง่าราศี และหล่อเหลาราวกับพระเอกละครหลังข่าว กลับกลายเป็นโทรมจนแทบจะไม่เหลือเค้าความหล่อ
แม้ว่านางพัดจะเกลี้ยกล่อมบุตรสาวเท่าไหร่ เธอก็ไม่ยอมใจอ่อน เธอคิดว่าเธอสามารถเลี้ยงดูบุตรสาวและมารดาได้ ไม่ต้องพึ่งคนสูงส่งอย่างกานต์ เลือดต่ำๆ ที่เขาเคยปรามาสไว้ คงไม่อาจจะไปรวมกับเลือดผู้ดีอย่างเขา เพียงตะวันไม่เคยบอกเล่าเรื่องพ่อของลูกให้ลูกสาวเธอฟัง เธอบอกลูกของเธอว่าพ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเด็กน้อยก็ไม่เคยถามถึงบิดาอีกเลย ชีวิตที่โฟกัสที่มารดาและบุตรสาว เป็นชีวิตที่เพียงตะวันพอใจแล้ว เธอไม่คิดจะพาใครเข้ามาในชีวิตของเธออีก แม้ว่าจะมีผู้ชายหลายคนเข้ามาจีบเธอเพราะความหน้าตาดี แต่ชีวิตของเธอนับจากนี้ เธอปฏิญาณตนไว้แล้ว เธอจะไม่มีวันเปิดใจให้ใครอีก
“คุณยายขา คุณแม่ใกล้เลิกงานหรือยังคะ” เด็กหญิงเพียงดาวเอ่ยถามผู้เป็นยาย เพราะวันนี้มารดาของเธอมีนัดที่จะทำขนมเค้กให้เธอรับประทาน
“นี่แม่เขาคงจะเลิกงานแล้วแหล่ะ เดี๋ยวก็คงถึงบ้านแล้ว” นางพัดเอ่ยกับหลานสาว หลังจากมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ข้างฝา ซึ่งมันเลยเวลาเลิกงานมานิดหน่อยแล้ว บุตรสาวน่าจะกำลังเดินกลับบ้าน และบ้านพักที่คุณมุกดาเจ้าของรีสอร์ทยกให้เพียงตะวันและครอบครัวอยู่ ก็ห่างจากรีสอร์ทไม่ถึงห้าร้อยเมตร
“รอแม่อยู่เหรอคะ” เพียงตะวันทักทายบุตรสาวด้วยรอยยิ้ม หลังจากยืนแอบฟังอยู่หน้าบ้าน
“ใช่ค่ะ เย้ๆ คุณแม่กลับมาแล้ว” เด็กหญิงเพียงดาววิ่งเข้าไปกอดมารดา ซึ่งเพียงตะวันก็นั่งลงแล้วสวมกอดบุตรสาวด้วยความรักเช่นกัน
“อยากกินเค้กสิท่า ถึงได้ดีใจที่แม่กลับบ้าน” เพียงตะวันเอ่ยอย่างรู้ทัน