หญิงสาวตะโกนร้องเรียกเขาอีกครั้ง แต่ผลที่ได้รับกลับมาก็ยังคงเหมือนเดิม ความน้อยใจวิ่งกระแทกเข้าหาเธอไม่หยุดหย่อน เธอร้องขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับไม่ยอมมาดูดำดูดี คิดว่าเธอกำลังเรียกร้องความสนใจหรืออย่างไรกัน
อลิซพยายามพยุงตัวเองให้หยัดยืนโดยเลี่ยงการมองที่บาดแผล ร่างเล็กค่อยๆ เดินกระย่องกระแย่งไปตามทาง เหลืออีกเพียงห้าสิบเมตรก็จะถึงตัวบ้าน แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างต้องการจะซ้ำเติมเธอ เพราะจู่ๆ สายฝนก็กระหน่ำเทลงมาจากฟากฟ้า และแน่นอนว่าเธอหลบสายฝนไม่ทัน
อลิซจำต้องปล่อยให้ตัวเองเปียกมะล่อกมะแล่กอย่างไม่มีทางเลือก กว่าจะมาถึงหน้าประตูบ้านได้ ร่างบางก็เปียกโชก เจ็บแผลที่เท้าก็เจ็บ ความน้อยใจก็เกาะกุมหัวใจ ไหนจะเปียกไปทั้งตัวอีก มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกไหม
มือบางกำลังจะเอื้อมไปเปิดประตู แต่คนด้านในเปิดประตูสวนออกมาก่อน สายตาที่มองมาอย่างตำหนิ ทำให้ อลิซต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น
“นึกยังไงไปเดินตากฝนให้ตัวเองเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำแบบนี้”
เจคอบต่อว่าโดยไม่ถามสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ อลิซมองเขาอย่างตัดพ้อ ก่อนจะตอบออกไปด้วยความน้อยใจ
“อลิซขอโทษค่ะ อลิซไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ รบกวนขออาบน้ำที่ห้องรับรองแขกหน่อยนะคะ”
หญิงสาวบอกแค่นั้น ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปด้านใน เจคอบปล่อยให้เธอเข้าไปด้านในโดยไม่รั้งเธอเอาไว้อีก ตั้งใจว่าจะคุยหลังจากเธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
เสียงปิดประตูห้องที่ดังมาจากชั้นสองทำให้เจคอบต้องหมุนตัวกลับไปมอง แต่พอเห็นรอยเลือดที่พื้นตั้งแต่จุดที่เขายืนอยู่ยาวไปถึงบันได กล้ามเนื้อในอกข้างซ้ายถึงกับกระตุกวูบ ก่อนจะรีบสาวเท้าขึ้นไปด้านบน
“อลิซ เปิดประตู”
เจคอบร้องเรียก เมื่อเขาไม่สามารถพาตัวเองเข้าไปด้านในได้ เพราะเธอคงกดล็อกประตูเอาไว้
“พี่เจคมีอะไรคะ อลิซกำลังจะอาบน้ำค่ะ”
อลิซพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่นอย่างสุดกำลัง ตาคู่สวยมองไปที่บานประตูอย่างตัดพ้อ ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่สนใจเสียงทุบประตูรัวๆ จนมันแทบจะพัง และเสียงตะโกนเรียกจากคนด้านนอก
เจคอบขบกรามแน่น เมื่อแน่ใจว่าคนข้างในคงไม่ยอมเปิดประตูให้เขาแน่ ร่างสูงจึงลงมาชั้นล่าง หยิบกุญแจห้องที่อยู่ในตู้ล็อกเกอร์ติดผนังในห้องครัว แล้วรีบสาวเท้าขึ้นมาด้านบน
ไขประตูได้เจคอบรีบพาร่างสูงของตนเองเข้าไปด้านในทันที ตาคู่คมกวาดสายตามองหาร่างเล็กเป็นอันดับแรก แต่สิ่งที่พบมีเพียงรอยหยดเลือดและหยดน้ำที่เป็นทางยาวลาดไปจนถึงหน้าประตูห้องน้ำ
“อลิซ เปิดประตูให้พี่เดี๋ยวนี้”
มือหนารัวทุบประตูห้องน้ำ อลิซได้ยินมันอย่างชัดเจน หญิงสาวชะงักชั่วครู่ ตวัดสายตาขุ่นมองประตูก่อนจะเบนสายตากลับมาทางเดิม จัดการอาบน้ำชำระร่างกายต่อ ไม่สนใจเสียงทุบประตูรัวๆ ที่ดังจนแก้วหูแทบแตก
“อลิซพี่บอกให้เปิดประตูไม่ได้ยินหรือไง”
ใบหน้าคมคายบูดบึ้ง อารมณ์กรุ่นแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ มือหนายังคงทุบไปที่บานประตูอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจว่าประตูจะบุบสลายหรือไม่
เมื่อคนด้านในไม่ตอบรับ มีเพียงเสียงน้ำที่ตกกระทบพื้นเพียงเท่านั้น เจคอบอารมณ์เดือดดาล กรามแกร่งบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน
“อลิซ!”
เมื่อเจ้าตัวยังคงนิ่งเฉย เจคอบจึงใช้ไหล่กว้างกระแทกที่ประตูแรงๆ สองสามครั้ง สุดท้ายประตูก็เปิดกว้างเผยให้เห็นร่างงามระหงที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบกายไว้ เจคอบลมหายใจสะดุด ความร้อนเริ่มแล่นไปตามกระแสเลือดในร่างกาย ความปรารถนาบางอย่างวิ่งเข้าใส่อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ตากลมโตเบิกกว้าง อลิซอ้าปากข้างเป็นรูปตัวโอ หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำรัว ไม่คาดคิดว่าพี่เจคของเธอจะใจกล้าบ้าบิ่นพังประตูเข้ามาแบบนี้ ดีนะที่เธออาบน้ำเสร็จพอดี ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า และเข้าใจว่าเขาไม่เคยปรารถนาในตัวเธอ แต่การถูกเขามองด้วยสายตาแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกกระดากอายอยู่ไม่น้อย ความตกตะลึงทำให้เธอปล่อยให้สายตาคู่คมแทะโลมเรือนร่างของเธออยู่พักใหญ่ พอรู้ตัวจึงรีบกระชับผ้าที่พันรอบกายเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
“พะ…พี่เจคเข้ามาทำไมคะ”
เสียงเล็กที่เรียกชื่อของเขาทำให้เจคอบกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ตาคู่คมกวาดสายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของอีกฝ่ายเพื่อหาบาดแผลและพยายามไม่โฟกัสตรงตำแหน่งที่ชวนมองและทำให้สายตาของเขาไขว้เขวอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายเขาก็พบตำแหน่งของบาดแผล เลือดสีแดงสดกำลังไหลซึมออกมาจากหัวแม่เท้าซ้ายของเธอ
“เท้าไปโดนอะไรมา”
“หินบาดค่ะ”
“ให้พี่ดูแผลหน่อย”
เจคอบบอกเสียงอาทร ก่อนจะสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าเธอ ลดกายลงนั่งบนส้นเท้า มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมไปข้างหน้าหมายจะจับเท้าของเธอขึ้นมาดูบาดแผล แต่ด้วยความน้อยใจ อลิซไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้น หญิงสาวขยับเท้าหนีไปด้านหลัง
ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองหน้าเธอ นัยน์ตาสีเทาอมฟ้าตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงหนัก
“พี่จะดูแผล”
“ไม่จำเป็นค่ะ อลิซจัดการเองได้”
“อย่าดื้อได้ไหม”
“อลิซไม่ได้ดื้อค่ะ แค่ไม่ต้องการรบกวนพี่เจค แผลนี้เกิดขึ้นเพราะอลิซซุ่มซ่ามเอง ฉะนั้นอลิซก็ต้องจัดการด้วยตัวเองก็ถูกต้องแล้วนี่คะ”
คำพูดที่ไม่ค่อยรื่นหู ทำให้เจคอบลุกขึ้นเต็มความสูง ทั้งคู่ประสานสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ความน้อยใจทำให้อลิซหลงลืมไปว่าสภาพของเธอในตอนนี้ไม่เหมาะสมกับการต่อกรกับคนตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง
“เอาแต่ใจตัวเอง ดื้ออย่างกับเด็กเล็ก แบบนี้ใครจะไปรักลง”
ร่างบางชาดิก ความรวดร้าววิ่งเข้าใส่หัวใจดวงน้อยจนปวดหนึบ ทราบว่าเขาไม่รักแต่ทำไมต้องตอกย้ำกันขนาดนี้ด้วย พี่เจคไม่รู้เลยหรือไรว่าที่เธองอแง เอาแต่ใจ ก็เพราะต้องการออดอ้อนเขา อยากให้เขาหันมาสนใจเธอบ้าง แต่เขากลับพูดจาทำร้ายจิตใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตาคู่สวยมองเขาอย่างตัดพ้อ ก้อนสะอื้นตีตื้นมาจุกที่ลำคอ หญิงสาวหาเสียงตัวเองไม่เจอ ก่อนที่น้ำใสๆ จะไหลออกมาประจานความอ่อนแอ อลิซคว้าชุดคลุมอาบน้ำสีขาวที่แขวนบนราวติดผนังขึ้นมาสวม ก่อนจะพาร่างที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจของตนเองออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งเจคอบก็ยอมหลีกทางให้เธอแต่โดยดี
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ออกไปนอกห้อง เสียงทุ้มที่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทำให้อลิซต้องชะงักเท้าอยู่กับที่
“จะไปไหน”
อลิซพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอก่อนจะตอบเขาออกไป
“อลิซจะลงไปข้างล่างค่ะ จะโทร.หาโคบี้ ให้โคบี้มารับกลับบ้านค่ะ”
“เดี๋ยวค่อยลงไป ให้พี่ทำแผลก่อน”
คนบ้า! นี่เธอกำลังประชดอยู่นะ จะง้อเธอหน่อยไม่ได้หรือไร อลิซบ่นกระปอดกระแปดในใจ ก่อนจะขยับเท้าไปข้างหน้า ไม่สนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายออกปากสั่ง