“พีชไม่ได้ดื้อ” พริมาภาตอบโต้กลับด้วยความรู้สึกร้อนใจไปหมด เธอตัวสั่นเทาน้อยๆ อย่างยากที่จะควบคุมได้ “แต่นี่มันอะไรกัน พี่แพรอาจจะ...อาจจะไปธุระก็ได้ ไม่ได้หนีไปไหนหรอก พ่อกับแม่ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ พีชไม่แต่ง!”
หญิงสาวพยายามขัดขืน เธอร้อนวาบในอกด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย โดยเฉพาะในตอนที่เหลือบมองดรัสตัน ก็เห็นว่าคนตรงหน้ามองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าแพรรัมภาจะเป็นอย่างไร แต่เขาจะล้มเลิกงานแต่งงานนี้ไม่ได้!
แต่เธอจะแต่งงานกับคนอย่างดรัสตันได้อย่างไร มากกว่าความเป็นแฟนของพี่สาวก็คือเธอเกลียดและกลัว ดรัสตัน แมคไกวร์ เป็นที่สุด!
เธอเคยภาวนาให้พี่สาวเลิกกับ ‘ปีศาจ’ อย่างหมอนี่ แต่ไม่เคยคิดว่าเธอจะกลายมาเป็นตัวแทนอย่างนี้!
ไม่เอา เธอไม่ยอมแน่ๆ!
พริมาภาพยายามจะสลัดตัวเองให้หลุดจากมือของพ่อกับแม่ แต่ทั้งสองคนจับเธอเอาไว้แน่น ก่อนที่พ่อจะเริ่มพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเหมือนพยายามข่มความโกรธลง
“พีชอยากให้บ้านเราล้มเหรอลูก หนูทนให้แม่ลำบากได้เหรอ ตอนนี้แม่กำลังป่วย เราต้องใช้เงินอีกเยอะ พีชทนได้เหรอ”
ประโยคนั้นทำให้พริมาภาถึงกับชะงัก เธอรู้ว่าแม่กำลังป่วย แม่เป็นโรคหัวใจ และจะเข้ารับการผ่าตัดหลังงานแต่งงานของพี่แพร แต่เรื่องล้มละลายมันคืออะไรกัน
ตั้งแต่เมื่อไรที่บ้านของเธอฝืดเคืองขนาดนี้แล้วเธอไม่รู้
“ล้มอะไรกันคะ”
หญิงสาวถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มเปี่ยม และนั่นทำให้เธอได้เห็นรอยยิ้มที่เจือไปด้วยความขื่นขมของคนเป็นพ่อกับแม่ ก่อนที่พ่อจะเป็นฝ่ายตอบคำถามของเธอ
“บริษัทของพ่อขาดทุนมาหลายปีแล้วพีช ถ้าไม่ได้ดรัสตัน แม้แต่เงินจะส่งพีชเรียนจนจบพ่อก็ไม่มี”
“พ่อ...”
พริมาภาถึงกับพูดไม่ออก เธอค่อนข้างตกใจเป็นอย่างยิ่งกับสิ่งที่ได้รับรู้
นี่มันตั้งแต่เมื่อไรกัน
หญิงสาวหันไปมองคนที่เธอเพิ่งรับรู้ว่าเขาคือ ‘เจ้าหนี้’ ก็เห็นเขามองเธอนิ่ง และท่าทีของคนในบ้านก็ไม่มีใครล้อเล่นเลยสักนิดเดียว ทำให้พริมาภาได้แต่อึดอัดในอก
เรื่องวันนี้มันเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป เร็วจนเธอตั้งตัวไม่ทันกับความจริงที่โหมกระหน่ำใส่เธอเสียยิ่งกว่าคลื่นสึนามิ ทว่าก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไรต่อ คุณแม่ซึ่งจับมือเธอแน่นและนิ่งเงียบมาตลอดก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“แต่งกับพี่เขาเถอะลูกพีช อย่าทำให้บ้านเราขายหน้าเลย”
พรรณวดีไม่ได้อยากบังคับลูกแบบนี้ แต่นางก็สงสารสามี เขาเป็นคนจมไม่ลง แต่ไม่ได้ร้ายกาจอะไร ปกติก็รักและห่วงลูกกับนางเป็นอย่างดี ถึงบางทีจะมีนิสัยเผด็จการไปบ้างแต่นางก็รักเขา ทว่าช่วงหลังเขาหมดเงินไปกับการรักษาโรคของนางเยอะมาก นางรู้ว่าพริมาภาคงไม่เต็มใจเป็นตัวแทนของใคร แต่เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าต้องขายหน้าอีกนางก็กลัวสามีจะทำใจรับไม่ไหว จึงได้แต่กล่อมพริมาภาอีกคน
อีกอย่าง ใช่ว่าดรัสตันจะไม่ดี...นางรู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนดี และคงจะดูแลพริมาภาได้อย่างแน่นอน
“ฮือ” คราวนี้คนโดนกดดันถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป “พีชไม่แต่ง ทำไมต้องเป็นพีชที่ต้องแต่งงานล่ะคะ ให้พี่แพรกลับมาแต่งงานเองสิคะ จะทำแบบนี้กับพีชไม่ได้นะ”
พริมาภาตัดพ้อออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ เรื่องแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ต่อให้เกิดขึ้นก็ไม่ควรบังคับเธออย่างนี้ ทุกคนเคยคิดถึงความเสียหายของเธอในอนาคตบ้างไหม ทำไมเอาแต่คิดถึงหน้าตาตัวเอง
และดรัสตันเองก็เหมือนกัน เขาจะทำอย่างนี้ไม่ได้ นึกอยากเปลี่ยนตัวเป็นเธอก็ตกลงอย่างนี้ได้อย่างไร เขาไม่คิดหรือว่ามันน่าอิหลักอิเหลื่อมากแค่ไหนที่เจ้าสาวของเขาจะเปลี่ยนจากพี่มาเป็นน้องน่ะ!
“แต่งานนี้นอกจากหนูก็ไม่มีใครช่วยเราได้แล้วนะ”
คุณแม่ยังคงพยายามโน้มน้าวเธออย่างใจเย็น แต่พริมาภาเย็นด้วยไม่ไหวหรอก
“แต่พีชไม่อยากแต่งกับอีตาดรัสตันนี่คะ!”
เธอร้องเสียงดังอย่างฉุนโกรธ มองถลึงตาใส่ดรัสตันอย่างกราดเกรี้ยว ขณะที่อีกฝ่ายกลับไม่หลบสายตาเธอสักนิดเดียว และยิ่งกระพือความโกรธของเธอให้เพิ่มมากขึ้นเมื่อบิดาร้องใส่เธอเสียงดังเพราะเห็นว่าเธอทำท่าทางไม่ดีใส่ชายหนุ่ม
“ลูกพีชอย่าเสียมารยาท!”
“คุณพ่อ!”
พริมาภาหันกลับมามองบิดาอย่างตัดพ้อเสียใจ
พ่อของเธอมองเธอดุๆ ก่อนจะสั่งสอนเสียงเข้มว่า
“ดรัสตันเป็นพี่ของหนู อย่าเรียกเขาไม่สุภาพอย่างนั้น!”
“พีช...”
หญิงสาวได้แต่พูดไม่ออกเถียงไม่ได้ เมื่อเห็นว่าตรงนี้ก็เป็นเธอเองที่ไร้มารยาทจิกเรียกคนอายุมากกว่า ไม่ดีจริงๆ แต่คนอย่างดรัสตันก็ไม่สมควรได้รับความเคารพอะไรนี่!
ทว่าก่อนที่เธอจะเถียงออกไป คนที่เงียบมานานก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มราบเรียบว่า
“ถ้าคุณพ่อยืนยันว่าจะให้พีชแต่งงานกับผมจริงๆ ขอเวลาผมพูดกับเธอตามลำพังสักครู่”
“ได้ๆ”
บิดาของเธอรับปาก จากนั้นก็ปล่อยมือจากเธอและพามารดาของเธอออกไปจากห้องทำงานนี้ทันที ทิ้งให้เธอต้องเผชิญหน้ากับ ดรัสตัน แมคไกวร์...คนที่เธอทั้งเกลียดและกลัวเขาที่สุดเพียงลำพัง
เธอใจสั่น แทบไม่กล้าพูดอะไร เพราะรู้ดีว่าทันทีที่ไม่มีบุคคลที่สามอยู่ในนี้ โฉมหน้าที่แท้จริงของ ‘ปีศาจ’ ก็จะเปิดเผยออกมา!
.........................
หลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้องทำงานจนเหลือเพียงพริมาภากับดรัสตันตามลำพัง ใจของหญิงสาวอยากจะวิ่งหนีออกไปจากห้องนี้ด้วยเช่นกัน ในความทรงจำของเธอ การอยู่ตามลำพังกับ ดรัสตัน แมคไกวร์ นั้นไม่เคยเกิดเรื่องดีๆ ขึ้นมาเลยสักครั้งเดียว
หญิงสาวเหลือบตามองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ที่เดิม ก็เห็นว่าเขาจ้องมองเธอนิ่งด้วยประกายตาที่อ่านไม่ออก พริมาภาก็เลือกจะก้มหน้าหลบสายตาที่ทำให้รู้สึกร้อนรนในใจคู่นั้น ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น มือเล็กเผลอบีบเข้าหากันด้วยความรู้สึกกดดันมากที่สุดในชีวิต
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาก่อนอยู่ดี แต่ในใจของพริมาภากำลังครุ่นคิดแล้วว่าถ้าดรัสตันยังไม่ยอมพูดอะไรอีกภายในสิบวินาทีข้างหน้านี้ละก็ เธอจะเดินออกไปจากห้องนี้จริงๆ ด้วย
แต่แล้วความตั้งใจของเธอก็ถูกทำลายลง เพราะไม่กี่วินาทีถัดมา คนตัวสูงใหญ่ตรงหน้าก็เรียกชื่อเธอขึ้นมาจนได้
“พีช...”
“อะไร”
น้ำเสียงของหญิงสาวห้วนสั้น ทั้งกระชากและเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง กับคนอื่น พริมาภานั้นไม่เคยเสียมารยาทด้วย แต่มีเพียงกับดรัสตัน ไม่ว่าเมื่อไรทุกอย่างที่ประกอบเป็นเขาก็ทำให้เธอไม่พอใจไปเสียทั้งหมด
“เธอจะไม่แต่งงานก็ได้นะ”
ประโยคนั้นเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ติดจะท้าทาย และมันก็ได้ผลเพราะพริมาภาเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มเขม็งทันที เธอมองสบกับดวงตาสีน้ำตาลทองที่มองเธอด้วยสายตากึ่งท้าทายกึ่งสมเพช มันทำให้ใจเธอร้อนขึ้นมาอย่างยากจะระงับได้
“แน่นอน” พริมาภาตอบพลางยิ้มเหยียดหยันใส่หน้าอีกฝ่าย “ใครจะไปอยากแต่งงานกับคนสองหน้าแบบนาย พี่แพรคงตาสว่างแล้วสินะถึงได้หนีไปจากนาย”
หญิงสาวเอ่ยเสียดสีชายหนุ่ม ปกติเธอไม่กล้าขนาดนี้หรอก แต่ครั้งนี้เป็นเพราะเธอโกรธเขา เพราะดรัสตันยังคงยืนกรานที่จะไม่ล้มพิธีแต่งงาน ถึงได้ทำให้เธอซวยตกที่นั่งลำบากแบบนี้ คนอย่างเขาน่ะขอแค่เอ่ยปากล้มงานนี้ ทำไมจะทำไม่ได้ เพียงแต่ว่าเขาไม่ยอมทำ และเธอก็ไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจอะไรกับคนเถื่อนร้ายกาจแบบเขา
อีกอย่าง สำหรับเขาแล้ว พริมาภารู้ดีว่าเธอก็คงเป็นเด็กปากร้ายเอาแต่ใจ เหมือนกับที่ในสายตาเธอ เขาเป็นปีศาจ เก่งด้านการตีสองหน้า ตัวจริงทั้งเถื่อนถ่อยไร้หัวใจ
ดูได้จากตอนนี้ แทนที่เขาจะมีความห่วงใยในตัวพี่สาวที่หายไปของเธอบ้าง กลับดันมาเรียกร้องว่าเขาจะไม่ยอมเสียหน้าล้มงานแต่งงานครั้งนี้