“พี่แกอาจจะมีเหตุผล”
อิงฟ้าพยายามช่วยให้เพื่อนคิดถึงแง่ดีบ้าง แต่ดูเหมือนจะยากเหลือเกิน เพราะพริมาภาก็ยังดูคับแค้นใจมากอยู่ดี
“เหตุผลก็เพราะนายดรัสตันมันเลวร้ายน่ะสิ!” คนเป็นเจ้าสาวร้องออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บใจ “แต่ทำไมฉันต้องเป็นคนมารับกรรมแบบนี้ด้วย!”
คนฟังเลยได้แต่ตบไหล่ของอีกฝ่ายเป็นการปลอบประโลม และวินาทีต่อมาเธอก็ชะงักมือและคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามเพื่อนสนิทไปว่า
“เออ แล้วเรื่องพี่จีนแกจะทำยังไงล่ะพีช พี่จีนมางานแต่งพี่แพรเหมือนกันนี่นา”
พี่จีนที่เธอพูดถึงก็คือคนที่พริมาภากำลังคบหาดูใจด้วย อาจจะยังไม่ใช่คนรัก แต่พริมาภาก็ปรึกษาอิงฟ้าแล้วว่าจะลองเปิดใจให้กับพี่จีนดู เพราะพี่จีนเป็นคนดีคนหนึ่งและยังมีอะไรหลายอย่างที่เข้ากันได้ น่าจะพัฒนาเป็นความชอบได้ไม่ยาก อีกอย่างก็รู้จักสนิทสนมกันมาก็นานหลายปีแล้ว
พอได้ยินคำถามนั้นพริมาภาก็ถึงกับชะงัก ความรู้สึกผิดแผ่ซ่านในอกจนยากที่จะระงับได้
“ฉันไม่รู้ ฮือ”
ตอนท้ายพริมาภาเจ็บใจเสียจนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง อิงฟ้ารีบซับน้ำตาให้เพื่อนอีกหนแล้วพยายามปลอบให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะน้ำตาของพริมาภายังไหลออกมาอยู่ดี สุดท้ายเมื่อหันไปเห็นนาฬิกาแล้วพบว่านี่ใกล้จะถึงเวลาที่ต้องเข้าไปในงานแล้ว เธอจึงรีบบอกให้เพื่อนหยุดร้องไห้ได้แล้ว จากนั้นอิงฟ้าก็ไปตามช่างแต่งหน้าให้เข้ามาช่วยกลบร่องรอยที่เลอะน้ำตาบนใบหน้าของพริมาภา แต่ตอนที่ออกไปข้างนอกห้องนั้นถึงได้เห็นว่าดรัสตันยืนอยู่หน้าห้องพอดี แต่เธอไม่ได้สนใจอะไร พอกลับมาอีกทีก็พบว่าดรัสตันไม่อยู่แล้ว ส่วนเธอรีบให้พี่ช่างแต่งหน้าที่ยังอยู่ช่วยจัดการใบหน้าของพริมาภาโดยเร็ว โชคดีจริงๆ ที่คุณแม่รอบคอบ ขอให้ช่างอยู่รอก่อน
หลังจากช่วยแต่งหน้าใหม่เสร็จ ก็ประจวบเหมาะกับได้เวลาแล้ว ออร์แกไนซ์ที่ได้รับการจ้างมาเข้ามาบรีฟคิวบนเวทีกับพริมาภาว่าควรจะทำอะไรต่อ ซึ่งส่วนใหญ่พริมาภารู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือเปล่า เนื่องจากเธอคือคนที่ช่วยประสานงานทุกอย่างแทนพี่สาว เพราะเป็นเพื่อนเจ้าสาวและยังเป็นน้องสาวอีกด้วย ระหว่างที่พี่สาวของเธอวิ่งวุ่นเคลียร์งานเพื่อจะลาฮันนีมูน เธอก็ต้องมาคอยดูแลทุกอย่างให้ ถึงจะไม่ชอบแค่ไหนแต่ก็ทำเพื่อพี่สาวของตนเอง เลยกลายเป็นรู้ขั้นตอนทุกอย่างดีไปเสียอย่างนั้น
ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้อยากจะรู้เลย!
.............................
ตอนที่พริมาภาออกมาจากห้องพักอีกครั้ง แล้วมาหยุดยืนรอก่อนจะเข้าไปข้างในงานก็เห็นดรัสตันกำลังยืนรอเธออยู่แล้ว ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดทักซิโดสีดำ ขับให้เรือนร่างของเขาดูดีราวกับนายแบบชั้นนำ แต่ถึงเขาจะดูหล่อเหลาจนคนอื่นอิจฉาเธอที่แต่งงานกับเขามากแค่ไหน พริมาภาก็ไม่สนใจเลย เพราะในสายตาเธอ เปลือกนอกของดรัสตันนั้นดึงดูดเธอไม่ได้สักนิดเดียว
เธอคิดว่าเผลอๆ เธออาจจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกใบนี้ที่เห็นว่า ดรัสตัน แมคไกวร์ น่ะร้ายกาจมากแค่ไหน!
ทว่าก่อนที่ออร์แกไนซ์จะส่งสัญญาณถึงพิธีกรบนเวทีเพื่อเริ่มพิธีการต่อไป ดรัสตันก็ยกมือห้ามเอาไว้ก่อน เขาสั่งอีกฝ่ายว่าขอเวลาเพียงห้านาที จากนั้นจึงลากพริมาภาให้ถอยห่างจากทุกคน กลับไปยังทางเดิมแล้วเข้าไปในห้องพักด้านหลังที่เธอเพิ่งจะเดินออกมา
แต่ในห้องนี้ตอนนี้ไม่มีใครเลย นอกจากเธอกับดรัสตัน ซึ่งกำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาเข้มข้น แสดงออกชัดถึงความไม่พอใจที่เขาไม่คิดจะปิดบังสักนิด
พริมาภาตัวสั่นกับโทสะของเขาที่เธอสัมผัสได้ ถึงอย่างไรภาพในอดีตตอนที่เขาจ้องมองคนที่เขากำลังทำร้ายร่างกาย เหยียบอีกฝ่ายอยู่ใต้ฝ่าเท้าที่เธอได้เจอ ก็ใช้ดวงตาแบบนี้จ้องมองเธอในตอนที่เธอบังเอิญไป ‘เจอ’ เขาในช่วงเวลานั้นเข้าพอดี และตั้งแต่นั้นก็ทำให้เธอกลัวเขามาโดยตลอด!
“พีช” ดรัสตันเรียกเธอเสียงเข้ม หลังจากที่เงียบกดดันเธออยู่เกือบนาที พริมาภาอยากจะหนีแต่เธอถูกเขาจับข้อมือเอาไว้แน่น รู้ว่าสลัดอย่างไรก็ไม่ออก จึงเลือกจะยืนนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นแทน “ฉันขอเตือนอะไรเธอไว้สักอย่างนะ เห็นแก่ที่เราเห็นหน้ากันมานาน”
ในที่สุดดรัสตันก็พูดขึ้นมา ดวงตาสีน้ำตาลทองของเขาจ้องมองเธอเขม็ง กดดันให้เธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก
“...”
พริมาภาไม่ตอบอะไร รู้ดีว่าดรัสตันคงไม่อยากฟังอะไรจากปากเธอหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจทนมองหน้าของเขาได้ หญิงสาวเลยเลือกที่จะเบือนหน้าหนี แต่เป็นดรัสตันที่เอื้อมมือบีบปลายคางของเธอเอาไว้ บังคับให้เธอมองเขาก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่กลับเต็มไปด้วยโทสะออกมาว่า
“เป็นแค่ตัวแทนน่ะอย่าปากดีให้มากนัก”
“...”
“ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนที่แสดงออกเธอก็รู้ ถ้ายังทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังอีก ฉันจะไม่เตือนเธออีกแล้วนะ”
“...”
“แต่ฉันจะลงโทษให้เธอจำ บอกเลย”
เธออย่าคิดว่าเขาไม่รู้ที่เธอไปพูดอะไรกับเพื่อน และดรัสตันไม่ชอบที่เธอเอาเขาไปพูดลับหลังอย่างนั้น!
โดยเฉพาะตอนที่เธอทำท่าอาลัยอาวรณ์ผู้ชายคนนั้น...เขาไม่ชอบ! และพริมาภาก็ควรจะรู้ตัวแล้วว่าเธอน่ะเป็นคนของใคร!
พริมาภารู้ได้ในตอนนี้เองว่าดรัสตันคงจะได้ยินที่เธอพูดกับอิงฟ้า แต่แล้วอย่างไร ในเมื่อที่เธอพูดมันเป็นเรื่องจริง!
“ฉันไม่แปลกใจหรอกที่พี่แพรทิ้งนายไปแบบนี้ จนฉันต้องมาซวยแทน”
หญิงสาวตอกใส่หน้าคนที่พยายามข่มขู่เธอเช่นกัน เธออาจจะไม่เคยสู้กับเขามาก่อน แต่เธอคิดว่าเธอไม่ควรยอมเขาอีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสีย เธอก็ไม่อยากให้เขาข่มเธอมากไปกว่านี้
พอเธอตอบโต้กลับไปเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะยิ่งไม่พอใจ สัมผัสได้จากแรงบีบของนิ้วมือเรียวยาวที่กระชับใบหน้าของเธอมากขึ้น หญิงสาวได้แต่พยายามดิ้นรนหนีแต่ไม่อาจหนีได้ เพราะมืออีกข้างของดรัสตันรั้งแผ่นหลังของเธอให้เข้าหาเขามากขึ้น จากนั้นชายหนุ่มจึงตอบกลับมาด้วยสีหน้าเย้ยหยันของผู้ชนะว่า
“แต่ฉันกลับดีใจที่แพรทิ้งฉันไปซะด้วยสิ ไม่รู้ทำไม”
“...”
“ฉันถึงได้เธอมาไว้ในกำมือแทนแบบนี้ รู้ไหมพีช...” เขาเอ่ยถามขึ้นมาและไม่รอให้เธอตอบอะไร ดรัสตันก็เอ่ยต่อไปว่า “ฉันน่ะ ขวางหูขวางตาเธอมานานแล้วจริงๆ”
พริมาภาถลึงตาใส่เขา ไม่แค่เขาหรอกที่ขวางหูขวางตาเธอ เธอเองก็เหมือนกัน!
ถ้ารู้สึกแบบนั้น จะมาบังคับให้เธอแต่งงานกับเขาทำไม!
พริมาภาถลึงตาใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะห้ามตัวเองไม่อยู่ด่าอีกฝ่ายออกมารัวเร็วไม่ซ้ำคำ “ไอ้คนโรคจิต ไอ้เถื่อน ไอ้ชั่ว อื้อ!”
หญิงสาวครางประท้วง มือเล็กทุบอกของคนที่จู่ๆ ก็ฉวยโอกาสบดขยี้ริมฝีปากกับปากนุ่มของเธอ ไม่มีการออมแรงหรืออ่อนโยนเลยสักนิด ไม่เหมือนจูบ แต่เป็นการลงโทษเสียมากกว่า หญิงสาวเจ็บจนน้ำตาแทบร่วงในตอนที่เขากัดกลีบปากนุ่มของเธอแรงๆ ก่อนจะยอมปล่อยเธอไป
ดรัสตันผลักเธอออกไปจากอ้อมกอดของเขา แผ่นหลังของเธอชนเข้ากับกำแพงด้านหลังพอดี หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าโกรธจัดและดวงตาที่พร่าพรายไปด้วยหยาดน้ำตาของความเจ็บใจ
เธอมองเห็นเขาใช้นิ้วโป้งปาดเช็ดริมฝีปากตัวเองไปมา ก่อนที่เขาจะมองเธอด้วยท่าทีของผู้ชนะแล้วพูดว่า
“นี่แค่เตือนเท่านั้น เลิกด่าฉันได้แล้ว และทำตัวให้มันดีๆ ด้วย”
“...”
“อย่าให้คนอื่นเขาคิดว่าเธอยั่วให้ฉันต้องเข้าหอก่อนกำหนดเวลา เข้าใจไหม”
“นาย...!”
ดรัสตันไม่รอให้เธอด่าอะไรเขาอีก ชายหนุ่มเปิดประตูออกไป ขณะที่พริมาภาได้แต่ยืนกำมือแน่นจนปลายเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ และบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเธอต้องไม่ร้องไห้เพราะคนแบบนี้ คนเถื่อนนิสัยไม่ดีอย่างนี้เธอไม่ควรไปเสียน้ำตาให้เขา เขาไม่คู่ควรหรอก
กระทั่งระงับได้ หญิงสาวก็หันไปส่องกระจก รีบจัดการใบหน้าตัวเอง สำรวจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วจึงก้าวออกไปจากห้อง แล้วฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้คนอื่นๆ ไม่สบายใจ และไม่อยากทำอะไรที่ดรัสตันจะหาเรื่องจับผิดรังแกเธอได้อีก
และที่สำคัญ ทำไปเพื่อให้งานแต่งบ้าๆ นี่มันจบลงไปเสียที!